SET ปรับฐาน รอปัจจัยหนุนใหม่ชู 14 บจ.เด็ด หุ้นปันผลนำตลาด

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.10 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.60 บาทต่อเหรียญ ด้านตลาดหุ้นเอเชียเคลื่อนไหวอย่างผันผวน ขณะเดียวกันเงินเยนที่แข็งค่าได้กดดันตลาดหุ้นญี่ปุ่นอ่อนตัวลง

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสปรับฐานเพื่อรอปัจจัยหนุนใหม่ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าจะปรับฐานไม่มากนักเนื่องจากยังมีเรื่องการจ่ายปันผลเข้ามาช่วยรับความเสี่ยงขาลงของการขายได้บ้าง การลงทุนยังเน้นหุ้นที่ให้ปันผลสูงเป็นหลัก หุ้นเด่นเลือก DIF-CPNRF-BTSGIF-INTUCH-ADVANC-KTB-SIRI-HANA-BCH-BDMS-CPALL-LH-TKS และ IRPC

 

นายอภิชาติ ผู้บรรเจิดกุล ผู้อำนวยการสายงานวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทิสโก้ เปิดเผยถึงตลาดหุ้นไทยเช้านี้ (1 มี.ค.) คาดว่าจะปรับฐานแต่ไม่มาก เนื่องจากยังมีเรื่องการจ่ายปันผลเข้ามาช่วยรับความเสี่ยงขาลงของการขายได้บ้าง ทั้งนี้คาดว่าจะเป็นผลจากความกังวลเศรษฐกิจในประเทศที่แผ่วลง โดยการส่งออกไม่ดีอยู่แล้ว แต่การบริโภคยังอ่อนลงอีก และการใช้จ่ายของภาครัฐฯดูเหมือนว่าจะมีสัญญาณการแผ่วลงด้วย

อีกทั้งวันนี้จะเริ่มมีการทยอยประกาศตัวเลข PMI ภาคการผลิตของหลายๆ ประเทศ ซึ่งมีทิศทางที่ไม่ดีอยู่แล้ว โดยเฉพาะจีน อย่างไรก็ตาม วานนี้ทางจีนได้มีการปรับลดการสำรองของภาคธนาคาร ทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ (Commodity) ได้ปรับตัวขึ้น ซึ่งช่วยให้ราคาน้ำมันขยับขึ้นด้วย ดังนั้นหุ้นในกลุ่มพลังงานน่าจะได้แรงหนุนบ้าง ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้มีการเคลื่อนไหวทั้งในแดนบวก-ลบ พร้อมให้แนวรับ 1,320-1,330 จุด ส่วนแนวต้าน 1,350 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (1 มี.ค.) ว่า แม้การปรับลด RRR ลง 0.50% ของธนาคารกลางจีน (PBoC) จะเป็นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง และน่าจะเป็น Sentiment บวกต่อตลาดหุ้นโลก แต่ถ้าพิจารณาในทางเทคนิค SET มีสัญญาณ “พักฐาน” ระยะสั้นแล้ว ประเมินแนวรับที่ 1,320 หรือถัดไปที่ 1,307-1,313 จุด จะเป็นจุดในการ “ซื้อ” อีกครั้ง โดยมองการประชุม ECB และ BOJ กลางเดือน มี.ค.จะใช้มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่ม และเป็น Sentiment บวกต่อตลาดหุ้นโลก

1) Bond Yield ที่อยู่ในระดับต่ำทั่วโลกทำให้ REIT และ Infrastructure Fund ดูน่าสนใจมากขึ้นเนื่องจาก 1) ปันผลสูง และ 2) ราคาหุ้นผันผวนต่ำ แนะนำ “ซื้อ” DIF CPNRF และ BTSGIF ต่อเนื่อง ด้วย Dividend Yield 6.2-7.2% ขณะที่หุ้นปันผลสูง แนะนำ INTUCH ADVANC KTB และ SIRI ต่อเนื่อง

2) Value Plays กำไรโตดี ปันผลน่าสนใจ HANA (แนวต้าน 36.5)

 

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (1 มี.ค.) ว่า SET วันนี้รีบาวด์และผันผวนต่อ โดยหุ้นโลกวันนี้กลับสู่โหมดลุ้นมาตรการกระตุ้นเพิ่มต่อเนื่อง เริ่มจากวานนี้จีนลดสำรองเงินฝากธนาคารใหญ่สู่ 17% ต่อเนื่องด้วยข้อมูลเงินเฟ้อยูโรโซนเดือน ก.พ. ที่ออกมาเมื่อคืน -0.4% เทียบกับที่ +0.3% ใน ม.ค. ทำให้ตลาดเพิ่มความหวังว่า ECB จะเพิ่มมาตรการกระตุ้นทางการเงินในวันที่ 10 มี.ค.

 

บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (1 มี.ค.) ประเมินทิศทางดัชนี SET อยู่ระหว่างการปรับฐานเพื่อรอปัจจัยหนุนใหม่ โดยมีแนวรับที่ระดับ 1,320-1,330 จุด แนวต้าน 1,340-1,350 จุด แนะนำเก็งกำไรระยะสั้นตามกรอบการลงทุน ระยะสั้นแนะนำเก็งกำไร IRPC ([email protected])

 

บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (1 มี.ค.) ว่า เมื่อคืนนี้ดัชนีตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปปิดในแดนลบ หลังไม่มีประเด็นใหม่ๆ เข้ามา ออกมาจากที่ประชุม แต่ราคาน้ำมันยังสามารถปรับตัวขึ้นได้เล็กน้อย สภาพของตลาดหุ้นส่วนใหญ่ในสัปดาห์นี้ ยังรอดูตัวเลขเศรษฐกิจทั้งของสหรัฐและจีน วานนี้ทางธนาคารกลางจีนได้ประกาศลด RRR ลงอีก 0.5% เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งผลดังกล่าวไม่น่าจะส่งผลเชิงบวกกับตลาดหุ้นเอเชียวันนี้มากนัก

หุ้นที่ถือว่ามีแรงกดมากที่สุดในตอนนี้คือ หุ้นกลุ่มรับเหมาอย่าง STEC หากมองในแง่การลงทุน ถือว่าราคาหุ้นลงมาในระดับที่ต่ำมากๆ โดยต่ากว่าราคาเป้าหมายต่ำสุดของนักวิเคราะห์ สะท้อนให้เห็นความกังวลของพื้นฐานของบริษัท แต่หากดูรูปแบบ ที่ราคาหุ้นถูกกดลงมาแรงๆ และหลุดต่ำกว่าราคาเป้าหมายต่ำสุดของนักวิเคราะห์ ในไม่ช้าจะค่อยๆ ดีดกลับ

วันนี้คาดดัชนี SET จะยังผันผวนทั้งแดนบวกและแดนลบ แม้ราคาน้ำมันจะดีดตัวขึ้นรวมทั้งการลด RRR ของจีน เนื่องจากมองว่านักลงทุนเริ่มที่จะหันมาให้ความสนใจกับการฟื้นตัวของเศรษฐกิจมากขึ้นหลังตัวเลขสำคัญๆ กลับมาชะลอตัวลง ประกอบกับดัชนี SET ขึ้นมาในระดับสูงติดขอบค่า +2SD วันนี้มองแนวต้านที่ 1338-1342 จุด ส่วนแนวรับที่ 1326-1322 จุด

แนะนำ ซื้อเก็งกำไร BCH

Themes play: BDMS CPALL LH TKS