XO เจรจาพันธมิตร 2 รายในประเทศ ลงทุนธุรกิจคาดชัดเจนในปีนี้
XO เจรจาพันธมิตร 2 รายในประเทศ ลงทุนธุรกิจประเภทซอสปรุงรส คาดชัดเจนในปีนี้
นายจิตติพร จันทรัช กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอ็กโซติค ฟู้ด จำกัด (มหาชน) หรือ XO เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างเตรียมพร้อมสำหรับการลงทุนเพื่อขยายธุรกิจหลักของบริษัทจากการเพิ่มสายการผลิตในสินค้ากลุ่มประเภทซอสปรุงรส ซึ่งเป็นกลุ่มที่มียอดขายมากที่สุด และมีแนวโน้มความต้องการจากลูกค้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ หรือเตรียมพร้อมสำหรับการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง
โดยปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างพูดคุยกับผู้ประกอบการอยู่ 2 รายที่มีความแข็งแกร่งในธุรกิจของตัวเอง และการพูดคุยคืบหน้าไปพอสมควรแต่ยังไม่สามารถบอกได้ชัดเจนว่าข้อสรุปจะจบลงเมื่อใด แต่บริษัทฯ ก็จะพิจารณาอย่างรอบคอบและคาดว่าอย่างเร็วที่สุดก็น่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้ ซึ่งบริษัทเชื่อมั่นว่าจะเข้ามาสนับสนุน XO ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นและช่วยเพิ่มมูลค่าหลักทรัพย์ในระยะยาว
อนึ่ง ล่าสุด มติคณะกรรมการ XO เมื่อวันที่ 26 ก.พ.59 มีมติอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนอีกจำนวน 35,100,000 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน 70,200,000 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท เพื่อรองรับการใช้สิทธิใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่ 1 หรือ XO-W1 จำนวนไม่เกิน 70,000,000 หุ้น ที่จัดสรรจัดให้ผู้ถือหุ้นเดิม สัดส่วน 5 หุ้นเดิม ต่อ 1 หน่วยใบสำคัญแสดงสิทธิ โดยไม่คิดมูลค่า
ทั้งนี้ XO-W1 มีอายุไม่เกิน 3 ปี นับแต่วันที่ออกใบสำคัญแสดงสิทธิ อัตราใช้สิทธิ 1 ต่อ 1 ในราคา 4 บาทต่อหุ้น กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิซื้อหลักทรัพย์แปลงสภาพ (XW) 3 พ.ค.59 กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิได้รับการจัดสรร 9 พ.ค.59 และกำหนดวันประชุมผู้ถือหุ้น 25 เม.ย.59
ขณะที่ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทมีกำลังการผลิตสินค้าค่อนข้างเต็มกำลังการผลิตแล้ว โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าประเภทซอส ซึ่งเป็นกลุ่มรายได้หลักของบริษัทฯ คิดเป็นสัดส่วน 67% ของยอดขายทั้งหมด ทำให้การรับออเดอร์จากลูกค้าทำได้ไม่เต็มที่ แต่หลังจากโรงงานใหม่ที่นิคมอมตะซิตี้ จ.ระยอง แล้วเสร็จ ซึ่งคาดว่าจะเริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ได้ในช่วงไตรมาส 3/29 สนับสนุนให้บริษัทมีกำลังการผลิตสินค้าประเภทซอสเพิ่มขึ้นอีกเท่าตัว หรืออยู่ที่ประมาณ 1.4 หมื่นตันต่อ 1 กะ จากปัจจุบันอยู่ที่ 7 พันตัน/1 กะ และทำให้บริษัทฯ สามารถรองรับความต้องการซื้อได้เพิ่มขึ้น
ขณะที่ต้นทุนลดลง โดยในช่วงเริ่มต้นโรงงานแห่งใหม่บริษัทจะมีไลน์ผลิตซอสทั้งสิ้น 2 ไลน์ก่อนจากพื้นที่ในโรงงานใหม่ที่สามารถเพิ่มไลน์การผลิตซอสได้เต็มที่อีกทั้งสิ้น 4 ไลน์ในอนาคต