นักลงทุนเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยง ดอลล์ปรับลงจากแรงเทขาย
ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเมื่อเทียบสกุลเงินหลักส่วนใหญ่เมื่อคืนนี้ (2 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากที่ปรับตัวแข็งแกร่ง ขณะที่กระแสการเลี่ยงสินทรัพย์เสี่ยงได้กลับเข้ามาในตลาดอีกครั้ง
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ค่าเงินยูโร (2 มี.ค.) แข็งค่าเมื่อเทียบดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0866 ดอลลาร์สหรัฐ จาก 1.0865 ดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินปอนด์เพิ่มขึ้นที่ 1.4076 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 1.3962 ดอลลาร์สหรัฐ
ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐปรับตัวลงเทียบกับสกุลเงินเยนที่ 113.46 เยน จาก 114.06 เยน และลดลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9965 ฟรังก์ จาก 0.9980 ฟรังก์ ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์ออสเตรเลียปรับขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.7295 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.7181 ดอลลาร์
ในการซื้อขายช่วงแรก ดอลลาร์สหรัฐปรับตัวแข็งแกร่ง ขานรับข้อมูลจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐ โดยผลการสำรวจของออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) ระบุว่า ภาคเอกชนของสหรัฐมีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 214,000 ตำแหน่งในเดือนก.พ. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 190,000 ตำแหน่ง
แต่ในวลาต่อมา ดอลลาร์กลับมาอ่อนแรงลง หลังจากรายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือ Beige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ได้บ่งชี้ถึงความวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐที่ยังมีความไม่แน่นอน ซึ่งทำให้มีความเป็นไปได้มากขึ้นว่าเฟดอาจจะยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในอนาคตอันใกล้นี้ และนั่นถือเป็นปัจจัยลบสำหรับดอลลาร์
ทั้งนี้ นักลงทุนต่างก็จับตาดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้ ซึ่งจะเป็นตัวเลขการจ้างงานรวมทั้งภาครัฐและเอกชน โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐจะเปิดเผยข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ.ในเวลา 20.30 น.ตามเวลาไทย
ขณะเดียวกัน ผลการสำรวจนักวิเคราะห์ระบุว่า กระทรวงแรงงานสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรประจำเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 190,000 ตำแหน่ง โดยเพิ่มขึ้นจากระดับ 151,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ขณะที่คาดว่าอัตราการว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 4.9% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 8 ปี หรือนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2551