SAMART: ปีนี้โตสูงจากฐานที่ต่ำแนะนำถือราคาเป้าหมาย 17.1 บ.
ปรับลดคำแนะนำเป็นเพียง ถือ จากเดิม ซื้อ เพราะได้มีการปรับลดประมาณการของ SAMART ลงในอัตรา 39%/32% ในงวดปีนี้และปีหน้าตามลำดับ เพื่อสะท้อนการปรับลดประมาณการใน SIM และ SAMTEL เป็นจำนวนมาก ดังนั้นราคาพื้นฐานซึ่งประเมินด้วยวิธี SOTP จึงลดลงเป็น 17.10 บาท จากเดิมที่ 22.30 บาท ราคาปิดมีส่วนเพิ่มเทียบกับราคาพื้นฐานใหม่ได้เพียง 1%
บล.ดีบีเอส ประเทศไทย ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (7 มี.ค.) ว่าบริษัท สามารถคอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SAMART ผลการดำเนินงานไตรมาส 4/58 ที่ผ่านมาออกมาไม่ดีมีกำไรสุทธิเป็นเพียง 17 ล้านบาท (-95% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน, -93% q-o-q) นำโดยการขาดทุนจาก SIM 173 ล้านบาท เนื่องจากมีการปรับลดราคาจำหน่ายเครื่องโทรศัพท์มาก รวมทั้งผลการดำเนินงานที่น่าผิดหวังของ SAMTEL ซึ่งทำกำไรได้ 37 ล้านบาท จากที่เราคาดไว้ก่อนหน้าที่ 80 ล้านบาท โดยมีการตั้งสำรองเพียงครั้งเดียว 60 ล้านบาท สำหรับโครงการ e-title deed
SIM พยายามที่จะปฏิบัติให้ได้ตามแผนธุรกิจใหม่ ได้แก่จำกัดการจำหน่ายโทรศัพท์เพียง 3 โมเดล เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้บริโภคสับสนและป้องกันการแข่งขันจากแบรนด์ระดับสูง เริ่มต้นมีการจำหน่ายสินค้าผ่านสาขาที่เรียกว่า Open by i-mobile รวมทั้งมีการออกแอพ/เว็บไซท์ใหม่ 3 แบบ
คาดว่า SAMTEL จะกลับมาฟื้นตัวได้ในงวดปี 59 นี้ แม้ที่ผ่านมาเราได้ปรับลดประมาณการบริษัทลูกแห่งนี้ลงมากคือ 27%/21% ในงวดปีนี้และปีหน้าตามลำดับ แต่ก็ยังคาดว่าปีนี้กำไรจะเติบโตได้ถึง 75% เพราะเริ่มมีรายได้จากโครงการ Advanced Passenger Processing (APPS) รวมทั้งคาดว่าจะได้รับงาน Digital Apco มูลค่า 3.3 พันล้านบาท ซึ่งเป็นงานในลักษณะ walkie-talkie ของสำนักงานตำรวจฯ กรุงเทพฯ คาดว่าจะประกาศได้รับงานในช่วงครึ่งแรกปีนี้และรับรู้รายได้ปี 59 เป็นครึ่งหนึ่งของโครงการที่ประมาณ 1.65 พันล้านบาท
ปรับลดคำแนะนำเป็นเพียง ถือ จากเดิม ซื้อ เพราะได้มีการปรับลดประมาณการของ SAMART ลงในอัตรา 39%/32% ในงวดปีนี้และปีหน้าตามลำดับ เพื่อสะท้อนการปรับลดประมาณการใน SIM และ SAMTEL เป็นจำนวนมาก ดังนั้นราคาพื้นฐานซึ่งประเมินด้วยวิธี SOTP จึงลดลงเป็น 17.10 บาท จากเดิมที่ 22.30 บาท ราคาปิดมีส่วนเพิ่มเทียบกับราคาพื้นฐานใหม่ได้เพียง 1%