SETบ่ายยืนเหนือ 1,400 เสี่ยงผันผวนมากแนะจุด”ล็อกกำไร”1,385 จุด-ชู MINTเด่น

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (14 มี.ค.) ฟื้นตัวต่อเนื่อง และสามารถขึ้นทะลุ 1,400 จุดได้ รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น-ผลประชุม ECB ที่ออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นผลบวกต่อภูมิภาค ทำให้ตลาดอื่นในภูมิภาคเช้านี้ต่างอยู่ในแดนบวก บ่ายนี้ตลาดฯคงยืนในแดนบวกได้ แต่ Upside จำกัดขึ้นเมื่อดัชนีฯเหนือระดับ 1,400 และควรจะระวังความผันผวนให้มากขึ้นด้วย

 

น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้ฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยดัชนีฯสามารถขึ้นไปทดสอบระดับ 1,400 จุดได้ แต่การปรับขึ้นก็ไม่หวือหวามากนัก ซึ่งการปรับขึ้นรอบนี้ตลาดฯได้รับแรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้น และผลการประชุมของธนาคารกลางยุโรป (ECB) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาออกมาตรการที่เป็นผลเชิงบวกต่อภูมิภาค โดยตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ต่างก็อยู่ในแดนบวกกัน

อย่างไรก็ดี ให้ติดตามการประชุมของธนาคารกลางในหลายประเทศ โดยดูว่าจะมีประเด็นใดน่าสนใจหรือไม่ เริ่มด้วยการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ในวันที่ 14-15 มี.ค.และถัดไปก็เป็นการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) ส่วนสัปดาห์หน้าก็เป็นการประชุมของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)ของไทย

สำหรับแนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดฯคงจะยืนในแดนบวกได้ แต่เมื่อดัชนีฯเหนือระดับ 1,400 จุด Upside ก็ไม่มาก และควรจะระวังความผันผวนให้มากขึ้นด้วย ดังนั้นในทางกลยุทธ์แนะ”ทยอยขาย”เมื่อดัชนีฯยืนเหนือระดับ 1,400 จุด พร้อมให้แนวรับ 1,390-1,380 จุด ส่วนแนวต้าน 1,410-1,420 จุด

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ ( 14 มี.ค.) ว่า SET ยืนได้เหนือ 1,400 จุด เป็นสัญญาณ “บวก” ทางเทคนิคต่อเนื่องลุ้นแนวต้านถัดไปที่ 1,430 จุด อย่างไรก็ดีมอง SET มีโอกาส “ผันผวน” หลังปรับขึ้นเร็วกว่า 180 จุดในช่วง 2.5 เดือนที่ผ่านมา ยังแนะนำให้ตั้ง Trailing Stop หรือจุด “ล็อกกำไร” ที่ 1,385 จุด

โดยแนะนำ “ซื้อ” MINT ด้วยเป้าหมายพื้นฐาน 44 บาท จากกลยุทธ์ M&A เป็นการเร่งการเติบโตของ MINT ต่อเนื่อง หนุนกำไรเติบโต 31.5% ปี 59 และ 21.5% ในปี 60 อีกทั้งยอดขายธุรกิจอาหารจะเริ่มกลับมาเติบโตในปี 59 +1.5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนปีนี้ จาก -0.5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ในปี 58

ธุรกิจอสังหาฯ สร้างรายได้สม่ำเสมอ และมีอัตรากำไรขั้นต้นสูงโดยในปี 59 จะมีการขายโครงการ Anantara Chiang Mai erviced Suites และโครงการ Mixed-use ที่ Maputo CBD ในโมซัมบิก รวมไปถึงรายได้จาก Anantara Vacation Club ขณะที่ PE ของ MINT ต่ำกว่าที่ 22x ในปี 59 ขณะที่ PE เฉลี่ยของ CENTEL และ ERW อยู่ที่ 25x และผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 ที่คาดว่าจะออกมาดีต่อเนื่องจากไตรมาส 4/58 เนื่องจากเป็นช่วง High Season ของธุรกิจท่องเที่ยวจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นระยะสั้นประเมินแนวต้าน 37.50 บาท หรือถัดไปที่ 39.75-40.0 บาท ตามลำดับ

 

สรุป 5 หลักทรัพย์ที่มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า

SCC   มูลค่าการซื้อขาย 1,032.73 ล้านบาท ปิดที่ 472.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท

JAS   มูลค่าการซื้อขาย   974.55 ล้านบาท ปิดที่   3.68 บาท ลดลง   0.02 บาท

IRPC   มูลค่าการซื้อขาย   949.66 ล้านบาท ปิดที่   5.20 บาท เพิ่มขึ้น 0.10 บาท        

PTTGC มูลค่าการซื้อขาย   865.32 ล้านบาท ปิดที่ 61.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.25 บาท        

ADVANC มูลค่าการซื้อขาย   826.61 ล้านบาท ปิดที่ 175.50 บาท ลดลง   1.50 บาท