หุ้นยุโรปปิดบวกรับอีซีบีออกมาตรการกระตุ้นศก.
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเมื่อคืนนี้ (14 มี.ค.) เนื่องจากบรรยากาศการซื้อขายยังคงได้รับแรงหนุนจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของธนาคารกลางยุโรป (ECB) ซึ่งรวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยและเพิ่มวงเงินในโครงการซื้อพันธบัตร อย่างไรก็ตาม การร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานได้สกัดแรงบวกในตลาด และส่งผลให้ภาวะการซื้อขายเป็นไปอย่างผันผวน
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับขึ้น 0.7% ปิด (14 มี.ค.) ที่ 344.66 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,506.59 จุด เพิ่มขึ้น 13.80 จุด หรือ +0.31%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,990.26 จุด พุ่งขึ้น 159.13 จุด หรือ +1.62% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,174.57 จุด เพิ่มขึ้น 34.78 จุด หรือ +0.57%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดในแดนบวกเนื่องจากนักลงทุนยังคงขานรับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ของ ECB โดยรวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตร สู่ระดับ 0% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ จากระดับ 0.05% ก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ECB ยังได้ประกาศเพิ่มวงเงินในการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) สู่ระดับ 8 หมื่นล้านยูโร/เดือน จากเดิมที่ 6 หมื่นล้านยูโร/เดือน โดยจะรวมถึงการซื้อหุ้นกู้ภาคเอกชนที่ไม่ใช่ธนาคารด้วย
หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ดีดตัวขึ้น โดยหุ้นแองโกล อเมริกัน พุ่งขึ้น 6% หุ้นเกลนคอร์ ปรับขึ้น 4.4% และหุ้นโบลิเดน เพิ่มขึ้น 1.8% อย่างไรก็ตาม การร่วงลงของหุ้นกลุ่มพลังงานได้สกัดแรงบวกในตลาด โดยหุ้นโททาล ปรับตัวลง 0.6% หุ้นบีพีปรับลง 0.9% ทั้งนี้ หุ้นกลุ่มพลังงานปรับตัวลงหลังจากราคาน้ำมันดิบเบรนท์ดิ่งลง 2% เมื่อคืนนี้ เนื่องจากรายงานที่ว่า อิหร่านวางแผนที่จะเพิ่มการผลิตน้ำมันในระดับเท่ากับช่วงก่อนถูกคว่ำบาตร นอกจากนี้ อิหร่านประกาศว่าจะไม่เข้าร่วมเจรจากับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (OPEC) หากยังผลิตน้ำมันได้ไม่ถึง 4 ล้านบาร์เรล/วัน