เก็บ 13 หุ้นรายตัวแกร่งกว่าตลาดSET รีบาวด์หลังเฟดตรึงดอกเบี้ย

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสรีบาวด์ แต่ภาพรวมระยะสัปดาห์ยังเสี่ยงพักฐาน การลงทุนเน้นหุ้นกลาง-เล็กที่แนวโน้มดีกว่าตลาด และมีกำไรเติบโต, หรือหุ้นรายตัวที่ราคาไม่แพง พื้นฐานดี มีสตอรี่หนุน


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.10 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 34.78 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียทะยานขึ้น เนื่องจากนักลงทุนขานรับธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ที่มีมติคงอัตราดอกเบี้ย และได้ลดคาดการณ์การปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ลงเหลือเพียง 2 ครั้ง

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยวันนี้มีโอกาสรีบาวด์ แต่ภาพรวมระยะสัปดาห์ยังเสี่ยงพักฐาน การลงทุนเน้นหุ้นกลาง-เล็กที่แนวโน้มดีกว่าตลาด และมีกำไรเติบโต, หรือหุ้นรายตัวที่ราคาไม่แพง พื้นฐานดี มีสตอรี่หนุน หุ้นเด่นเลือก TKN-HANA-ROBINS-SGP-IRPC-KTC-BEAUTY-CHG-DRTTHCOMPSCPF และ SCC

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (17 มี.ค.) SET มีจังหวะ Rebound วันนี้ ด้วยแนวต้านระยะสั้น 1,388-1,392 จุดจาก 1) Fed คงดอกเบี้ย 0.25-0.5% และมีมุมมอง Dovish มากขึ้นต่อการขึ้นดอกเบี้ยโดยคาดว่าจะขึ้นดอกเบี้ยเพียง 2 ครั้งเท่านั้นในปีนี้และจะเป็นการปรับขึ้นในช่วงครึ่งหลังปี 59 มากกว่าเดือน มิ.ย. 2) ราคาน้ำมัน Brent ฟื้นตัว +4.1% ปิดที่ US$40.33/bbl หลังสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรล น้อยกว่าตลาดคาดขณะที่ภาพระยะสัปดาห์ยังมอง SET มีความเสี่ยง “พักฐาน” หลังปรับขึ้นเร็วในช่วง 2.5 เดือน แนวรับ 1,340-1,350 จุด

แม้ SET มีแนวโน้ม Rebound วันนี้ แต่ระยะสัปดาห์ยังมีความเสี่ยงจากการ “พักฐาน” ทำให้ยังแนะนำ “Selective” ในกลุ่มหุ้นขนาดกลาง-เล็ก ที่มี Momentum แข็งแกร่งกว่าตลาด และกำไรเติบโตดี โดยแนะนำ “ซื้อ” HANA ROBINS SGP IRPC KTC (ปรับประมาณการกำไร และมูลค่าพื้นฐานขึ้นเป็น 110 บาท) BEAUTY (ยอดขาย ม.ค.-ก.พ.เติบโตสูง 40% จากช่วงเดียวกันในปีก่อนราคาหุ้นทะลุ Downtrend ขึ้นมาเป้าหมาย 5.5/5.9 บาท) และ CHG

 

บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (17 มี.ค.) ว่า ตลาดไทยวันนี้มีแนวโน้มจะแกว่งในแดนบวกหลังผลการประชุมเฟดช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุน โดยเฟดได้ส่งสัญญาณชะลอการขึ้นดอกเบี้ยโดยลดจำนวนครั้งลงในปีนี้ด้วยความกังวลเรื่องเศรษฐกิจโลก ส่งผลให้เงินดอลลาร์อ่อนค่าและราคาน้ำมันขยับขึ้น แนะนำทยอยขายหุ้นที่ราคาขึ้นมามากแล้วเมื่อใกล้ 1,400 จุด เพื่อซื้ออีกรอบเมื่อดัชนีย่อลงต่ำกว่า 1,380 จุด

แนวรับ/แนวต้าน: 1,350/1,400 สัดส่วนการลงทุน: เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

กลยุทธ์: ทยอยขายทำกำไรหุ้นที่ขึ้นมามากแล้ว เช่น กลุ่มแบงก์และสื่อสาร เก็บสะสมหุ้นกลุ่มรับเหมา พลังงานปลายน้ำ อสังหาฯ อาหาร และวัสดุก่อสร้าง ที่ราคาไม่แพงและมีพื้นฐานดี มี story หนุนเป็นรายตัว  DRT(5.20) THCOM(35) PS(34) CPF(30) SCC(630)

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (17 มี.ค.) ว่า ยังมองเป็นกลางถึงบวกต่อตลาดหุ้นวันนี้ SET น่าจะปรับขึ้นตามตลาดต่างประเทศจากเฟดคงดอกเบี้ยนโยบายและปรับลดเป้าดอกเบี้ยสิ้นปีนี้เหลือ 0.87% (หรือจะปรับขึ้น 2 ครั้งจากเดิม 4 ครั้ง) จาก 1.375% เมื่อก่อนหน้านี้ ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดไว้

ดังนั้นในระยะสั้นเราเชื่อว่าตลาดน่าจะได้อานิสงส์จาก Fund flow ที่ยังไหลกลับเข้าสู่สินทรัพย์เสี่ยงอีกสักระยะหนึ่งหรือจนกว่าจะเห็นสัญญาณการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งใหม่ของเฟด หุ้นกลุ่มพลังงานและสื่อสารจะนำตลาดวันนี้จากราคาน้ำมันดิบที่พุ่งขึ้นกว่า 5.8% เมื่อคืนที่ผ่านมาและJAS อาจไม่ได้แบงก์การันตี ส่วนกลุ่มแบงก์น่าจะรีบาวด์แต่ไม่มากเพราะจะยังได้รับแรงกดดันจากอัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับต่ำทำให้กำไรของกลุ่มแบงก์จะยังไม่ฟื้นตัว

อย่างไรก็ตามแนวโน้มดอกเบี้ยของเฟดที่ยังเป็นขาขึ้นซึ่งจะยังส่งผลลบต่อตลาดเกิดใหม่ในระยะยาว ทำให้กรอบการปรับขึ้นของตลาดหุ้นทั่วโลกจะค่อนข้างจำกัด

กลยุทธ์วันนี้: Selective BUY/สะสมหุ้นขนาดกลางและเล็ก/ขึ้นแรงขายกำไร ลงแรงซื้อ

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น: TKN (กำไรเติบโตเฉลี่ย 25.5% ต่อเนื่อง ROE สูง 23% Gross Margin สูง 36%)

Back to top button