เอไลฟ์ เชื่อศก.ฟื้นหนุนธุรกิจโตตั้งเป้าลงทุนปีนี้ทำยิลด์ราว 5%
เอไลฟ์ เชื่อศก.ฟื้นหนุนธุรกิจโต ตั้งเป้าลงทุนปีนี้ทำยิลด์ราว 5%
นายเชาว์พันธุ์ พันธุ์ทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัทแอ๊ดวานซ์ ไลฟ์ ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่าแผนการดำเนินธุรกิจของเอไลฟ์ในปี 2559 นั้นจะยังคงยึดแนวทางการเป็นที่ปรึกษาด้านวางแผนการเงินอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นแนวนโยบายที่บริษัทดำเนินมาโดยตลอด โดยในปี 2559 เอไลฟ์ตั้งเป้าหมายการเติบโต 10% โดยเน้นกลยุทธ์การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า
ขณะที่ภาพรวมของธุรกิจประกันชีวิตในปีที่ผ่านมาว่ามีอัตราการเติบโต 6.7% ซึ่งไม่สูงมากเมื่อเทียบกับปี 2557 ที่มีอัตราการเติบโตสูงถึง 13.9% โดยมีปัจจัยกระทบจากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวจากปัญหาหนี้ภาคครัวเรือน รวมถึงอัตราค่าครองชีพที่ปรับสูงขึ้นส่งผลให้กำลังซื้อของประชาชนลดลง ขณะที่ภาพรวมการเติบโตของธุรกิจประกันชีวิตในปี 2559 นั้นคาดว่าจะมีอัตราการขยายตัวดีขึ้นจากปี 2558 โดยมีแรงสนับสนุนจากภาวะเศรษฐกิจที่ได้รับแรง ขับเคลื่อนจากการใช้จ่ายของภาครัฐ และจากมาตรการการกระตุ้นเศรษฐกิจแบบเร่งด่วนส่งผลให้ผู้บริโภคมีกำลังในการซื้อผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตมากขึ้น
“ปีนี้เราคงเน้นการออกผลิตภัณฑ์เพื่อมาตอบโจทย์การวางแผนการเงินมากขึ้น ทั้งผลิตภัณฑ์ระยะสั้น กลาง ยาว โดยมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์ที่ดีไซน์ออกไปผลตอบแทนที่มอบให้กับลูกค้าดีกว่าในตลาดอย่างแน่นอน ในจังหวะที่ทิศทางดอกเบี้ยนโยบายอยู่ในช่วงขาลง ก็จะเป็นสิ่งที่จูงใจให้กลุ่มลูกค้าที่ต้องการผลตอบแทนที่มาก กว่าเงินฝาก อีกทั้งต้องการหาช่องทางการกระจายการลงทุนออกไป หลังจากที่สถาบันคุ้มครองเงินฝากมีนโยบายลดการคุ้มครองเงินฝากเหลือเพียง 1 ล้านบาท ต่อ 1 บัญชี ต่อ 1 สถาบันการเงิน จากปัจจุบันที่คุ้มครองอยู่ที่ 25 ล้านบาท ต่อ 1 บัญชี ต่อ 1 สถาบันการเงิน ซึ่งจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 สิงหาคม 2559” นายเชาว์พันธุ์ กล่าว
สำหรับการดำเนินงานของเอไลฟ์ในปี 2558 ที่ผ่านมา เบี้ยใหม่ปีแรก มีอัตราการเติบโต 12% โดยมียอดเบี้ยรับรวมทั้งสิ้น 1,250 ล้านบาท และมีสินทรัพย์การลงทุน 4,167 ล้านบาท และให้ผลอัตราตอบแทนการลงทุน สูงถึง 5.93% โดยการขยายฐานลูกค้าของเอไลฟ์ในปีนี้ บริษัทยังคงให้ความสำคัญกับแนวทางการตลาดผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย เพราะช่องทางดังกล่าวสามารถการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและมีความสะดวกสบายในการช่วยเพิ่มศักยภาพการสื่อสารระหว่างลูกค้า คู่ค้า และพนักงาน
ทั้งนี้ ล่าสุดเตรียมจัดทำ LINE@ เพื่อเป็นตัวกลางในการติดต่อสื่อสารกับลูกค้าได้รับรู้ข้อมูล บริการต่างๆ รวมถึงสิทธิประโยชน์จากเอไลฟ์ ไม่ว่าจะเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่น่าสนใจ รวมถึงข้อมูลด้านการวางแผนการเงินที่เป็นประโยชน์ในการเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้น โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้าขยายฐานลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้น 20% จากปัจจุบันที่มีฐานลูกค้าผ่านช่องทางเทเลเซล ช่องทางที่ปรึกษาวางแผนการเงิน ช่องทางประกันชีวิตกลุ่ม รวมทั้งสิ้นกว่า 120,000 ราย
ส่วนการลงทุนปีนี้ บริษัทมีนโยบายลงทุนในทรัพย์สินที่เหมาะสม และสอดคล้อง กับภาระผูกพันที่มีอยู่ ซึ่งโดยส่วนใหญ่จะเน้นการลงทุนเป็นพันธบัตรรัฐบาล และตราสารหนี้ภาครัฐ กองทุนรวม อสังหา- ริมทรัพย์ กองทุนรวม และโครงสร้างพื้นฐาน และหุ้นกู้ ทั้งในและต่างประเทศ ในสัดส่วน 70% เนื่องจากมองว่าการลงทุนประเภทนี้ผลตอบแทนค่อนข้างมั่นคง และคาดการณ์ว่าปีนี้ผลตอบแทนจากการลงทุนโดยรวมของบริษัท น่าจะอยู่ที่ประมาณไม่น้อยกว่า 5%