หุ้นอสังหาฯ-ก่อสร้างกำไรสุดเจ๋ง

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างเป็นธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจมหภาคโดยตรง เนื่องจากธุรกิจมีการเติบโตสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกับเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งยากที่ผู้ประกอบการจะสร้างการเติบโตที่สวนทางไปกับเศรษฐกิจภาพรวม ทั้งนี้หุ้นกลุ่มสังหาริมทรัพย์จึงเข้าข่ายการเป็น “หุ้นวัฏจักร”


–เส้นทางนักลงทุน–

 

ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างเป็นธุรกิจที่มีความเกี่ยวข้องกับเศรษฐกิจมหภาคโดยตรง เนื่องจากธุรกิจมีการเติบโตสอดคล้องไปในทิศทางเดียวกับเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งยากที่ผู้ประกอบการจะสร้างการเติบโตที่สวนทางไปกับเศรษฐกิจภาพรวม ทั้งนี้หุ้นกลุ่มสังหาริมทรัพย์จึงเข้าข่ายการเป็น “หุ้นวัฏจักร”

ดังนั้นทางที่ดีนักลงทุนควรต้องติดตามภาวะเศรษฐกิจอย่างใกล้ชิด เพื่อหาจังหวะลงทุนในภาวะที่ควรต้องการอสังหาริมทรัพย์อยู่ในช่วงสุดท้ายของขาลง และควรจะหยุดการลงทุนในช่วงที่อสังหาริมทรัพย์บูมสุดขีด จนอาจเข้าข่ายการเป็นฟองสบู่ จะเห็นได้ว่า วิกฤตเศรษฐกิจทุกครั้ง ไม่ว่าของไทยหรือของต่างประเทศ ล้วนแล้วแต่ส่งผลกระทบรุนแรงต่ออสังหาริมทรัพย์ทั้งสิ้น

ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจในประเทศไทยปี 2558 เป็นไปตามเป้าหมาย เนื่องจากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ รวมทั้งมาตรการลดหย่อนค่าโอน และค่าจดจำนอง เพื่อช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ ทำให้ปีดังกล่าวยังมีการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น และส่งผลดีต่อธุรกิจวัสดุก่อสร้างเติบโตด้วยเช่นกัน

ผลดังกล่าวทำให้ในปี 2558 มีบริษัทในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างสามารถทำกำไรสุทธิได้เป็นอย่างดี ซึ่งสามารถทำกำไรโตมากกว่า 10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน มีอยู่ทั้งหมด 26 บริษัทด้วยกัน อาทิ CI, ORI, A, TASCO, GOLD, CNT, SF, WHA, VNG, UV, PLAT, TRC, UNIQ, MK, PRINC, SCC, TCMC, BJCHI, SAMCO, SC, LPN, PS, DRT, MBK, DCC และ HEMRAJ

ทั้งนี้ จาก 27 บริษัท พบว่า มีบริษัทที่ทำกำไรก้าวกระโดดได้อย่างชัดเจน คือเปลี่ยนแปลงเกิน 100% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อาทิ CI, ORI, A, TASCO, GOLD, CNT , SF

โดย บริษัท ชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน)หรือ CIรายงานผลการดำเนินงานสำปรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2558 บริษัทมีกำไรสุทธิขยับขึ้นมาอยู่ที่ 131.67 ล้านบาท หรือ 0.19 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 152.24 ล้านบาท เปลี่ยนแปลง 740.13% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 20.57 ล้านบาท หรือ 0.03 บาทต่อหุ้น เนื่องจากมีรายได้เพิ่มขึ้นมาก

บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI รายงานผลการดำเนินงานประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2558 บริษัทมีกำไรสุทธิขยับขึ้นมาอยู่ที่ 386.32 ล้านบาท หรือ 0.79 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 316.02 ล้านบาท เปลี่ยนแปลง 449.53% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 70.30 ล้านบาท หรือ 0.16 บาทต่อหุ้น เนื่องจากมีรายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์เพิ่มมากขึ้น

บริษัท อารียา พรอพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน)หรือAรายงานผลการดำเนินงานประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2558 บริษัทมีกำไรสุทธิขยับขึ้นมาอยู่ที่ 216.69 ล้านบาท หรือ 0.22 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 175.42 ล้านบาท เปลี่ยนแปลง 425.10% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 41.27 ล้านบาท หรือ 0.04 บาทต่อหุ้นเนื่องจากบริษัทมีการเปิดขายทาวน์เฮาส์โครงการใหม่ที่โอนกรรมสิทธิ์ให้ลูกค้าได้หลายโครงการ และมีโครงการใหม่ที่โอนกรรมสิทธิ์ให้ลูกค้าหลายโครงการ อีกทั้งบริษัทมีรายได้จากการขายที่ดิน

บริษัท ทิปโก้แอสฟัลท์ จำกัด (มหาชน)หรือ TASCOรายงานผลการดำเนินงานประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2558 บริษัทมีกำไรสุทธิขยับขึ้นมาอยู่ที่ 5,078.76 ล้านบาท หรือ 3.30 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 3,878.33 ล้านบาท เปลี่ยนแปลง 323.08% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 1,200.43 ล้านบาท หรือ 0.78 บาทต่อหุ้นเนื่องจากความต้องการของตลาดส่งออกและตลาดในประเทศยังคงปรับตัวสูงขึ้น

บริษัท แผ่นดินทอง พร็อพเพอร์ตี้ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GOLDรายงานผลการดำเนินงานสำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2558 บริษัทมีกำไรสุทธิ 661.47 ล้านบาท หรือ 0.40 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 356.18 ล้านบาท เปลี่ยนแปลง 116.67% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 305.30 ล้านบาท หรือ 0.20 บาทต่อหุ้น เนื่องจากเพิ่มขึ้นจากการรับรู้รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์

บริษัท คริสเตียนีและนีลเส็น (ไทย) จำกัด (มหาชน)หรือCNTรายงานผลการดำเนินงานสำปรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2558 บริษัทมีกำไรสุทธิขยับขึ้นมาอยู่ที่ 23.19 ล้านบาท หรือ 0.02 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 376.59 ล้านบาท เปลี่ยนแปลง 106.56% จากงวดเดียวกันของปีก่อนที่ขาดทุน 353.40 ล้านบาท หรือ 0.35 บาทต่อหุ้นเนื่องจากบริษัทมีการเพิ่มประสิทธิภาพการควบคุมต้นทุนและค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้น ส่งผลให้กำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้น

บริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SFรายงานผลการดำเนินงานสำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2558 มีกำไรสุทธิขยับขึ้นมาอยู่ที่ 1,407.83 ล้านบาท หรือ 0.79 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 707.60 ล้านบาทเปลี่ยนแปลง 1010.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน 700.23 ล้านบาท หรือ 0.39 บาทต่อหุ้น เนื่องจาก บริษัทมีรายได้ค่าเช่าและค่าบริการเพิ่มขึ้น

ตัวเลขผลการดำเนินงานบ่งชี้ให้เห็นว่า บริษัทเหล่านี้มีความสามารถในการทำกำไรได้จากช่วงปี 2558 ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วงสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนที่ถืออยู่อีกด้วย

 

บริษัทกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่สามารถทำกำไรในปี 2558 เพิ่มขึ้นเกิน 10%

หลักทรัพย์ กำไรสุทธิ เปลี่ยนแปลง
(ล้านบาท) ล้านบาท %
2558 2557
CI 131.67 -20.57 152.24 740.13
ORI 386.32 70.30 316.02 449.53
A 216.69 41.27 175.42 425.10
TASCO 5,078.76 1,200.43 3,878.33 323.08
GOLD 661.47 305.30 356.18 116.67
CNT 23.19 -353.40 376.59 106.56
SF 1,407.83 700.23 707.60 101.05
WHA 1,953.73 978.62 975.11 99.64
VNG 1,426.41 752.17 674.24 89.64
UV 630.94 395.03 235.91 59.72
PLAT 629.53 438.46 191.07 43.58
TRC 305.96 214.92 91.04 42.36
UNIQ 712.75 502.27 210.48 41.91
MK 626.71 447.33 179.38 40.10
PRINC 17.53 12.96 4.57 35.27
SCC 45,399.71 33,615.33 11,784.39 35.06
TCMC 117.36 87.06 30.30 34.81
BJCHI 1,320.18 1,003.67 316.51 31.54
SAMCO 121.66 99.90 21.76 21.78
SC 1,895.28 1,558.13 337.15 21.64
LPN 2,413.40 2,021.42 391.98 19.39
PS 7,680.36 6,654.52 1,025.84 15.42
DRT 330.99 289.29 41.70 14.41
MBK 1,815.18 1,591.41 223.77 14.06
DCC 1,372.44 1,226.66 145.78 11.88
HEMRAJ 3,288.93 2,960.57 328.36 11.09

Back to top button