ดันหุ้นปิดบัญชี?โมนิก้าและทีมงาน

*ตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา ผู้คนในแวดวงตลาดหุ้นต่างให้ความสนใจหุ้นกลุ่มสื่อสารมากกว่าหุ้นกลุ่มอื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด จนกลายเป็นหุ้นที่มีอิทธิพลต่อการขึ้นของดัชนีอย่างมีนัยสำคัญ เพราะทันทีที่พ่อดอกมะลิ JAS หันมาเล่นบทผู้ร้ายด้วยการเบี้ยวจ่ายเงินค่าไลเซนส์กว่า 7 หมื่นล้านบาท “โมนิก้า” ก็เห็นกลุ่มคนต่างๆ แสดงความห่วงใยแบบหวังดีประสงค์ร้ายกันอย่างถ้วนหน้าพะยะค่ะ

*งานนี้เลยไม่รู้ว่า บทสรุปของเรื่องนี้จะออกมาทางไหน? หลังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงอย่าง กสทช. อยู่ในระหว่างตั้งทีมทางกฎหมายเพื่อเล่นงานเด็กดื้อ และประเด็นตรงนี้ก็ทำให้ราคาหุ้นเมื่อวันศุกร์ร่วงลงมาปิดที่ 3.50 บาท ลบไป 0.14 บาท หรือลงไป 3.85% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 1.40 พันล้านบาท เพราะนั่งบวกลบคูณหารแบบหยาบๆ ทำให้บางคนรู้ตัวว่า ซื้อหุ้นคืน 5 บาท ยังมีความเสี่ยงเปิดช่องอยู่นะจะบอกให้

*เช่นเดียวกับในรายของ JASIF หากไล่เรียงเรื่องมาอย่างเป็นระบบจะเห็นว่า มีแต่คนเตือนว่า ปัญหาจะหนักขึ้นปี 69 เพราะหน่วยงานภาครัฐอาจไม่ต่อสัญญาในการเช่าโครงข่าย ซึ่งจะทำให้กองทุนโครงสร้างมีปัญหาเรื่องรายได้ขึ้นมาในทันที เพราะกองทุนนี้มี 3BB เป็นผู้เช่าสัญญาเพียงรายเดียว ซึ่งใครๆ ก็รู้กันทั่วไปว่า นี่เป็นบริษัทลูกของพ่อดอกมะลิ อาการแพนิกเลยเกิดขึ้นในบัดดล ขณะที่ราคาหุ้นล่าสุดอยู่ที่ 8.20 บาท ลบไป 0.05 บาท ทั้งที่ 1 สัปดาห์ก่อนขึ้นไปยืนถึงระดับ 9.35 บาทนะคะ

*เมื่อสถานการณ์หลายอย่างเริ่มเปลี่ยนไปจากเดิม ADVANC DTAC TRUE จึงโดนเทขายกันอย่างถ้วนหน้า โดยเฉพาะสองตัวแรกที่เอ่ยถึง ล้วนอยู่ในโพซิชั่นโค้งลงอย่างเห็นได้ชัด ส่วนรายหลังเพิ่งเริ่มอ่อนตัวเป็นวันแรก “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับพิจารณาเหตุผลในการเข้าไปรับหุ้นในช่วงที่อ่อนตัวลงมา เพราะเมื่อดูกันยาวๆ ราคาหุ้นน่าจะขยับขึ้นได้อีกเยอะเจ้าค่ะ

*ส่วนรายที่เพิ่งขยับขึ้นวันแรกอย่าง ITD เดี๊ยนถือเป็นมูฟเมนต์ที่แฟนคลับต้องศึกษาให้ดีๆ เพราะวันนี้เป็นการตีประเด็นแบบเข้าข้างตัวเองสุดๆ “โมนิก้า” ถึงมองข้อมูลที่พรั่งพรูออกมาบนโลกโซเชียลเป็นแค่การโฆษณาชวนเชื่อ แต่ทำให้แฟนคลับมีอารมณ์คล้อยตามในทันทีนั้น มันเป็นแค่กระแสที่เกิดขึ้นช่วงสั้นๆ หุ้นถึงพุ่งขึ้นมาปิดที่ 7.20 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 2.80% ด้วยมูลค่า 1.38 พันล้านบาท วันนี้จะไปต่อหรือไม่..ขึ้นอยู่กับขาใหญ่เล่นต่อไหม?

*สำหรับในรายของ CPN  หายหน้าหายตาไปจากกระดาน most active ตั้งนาน โผล่มาอีกทีหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 51 บาท  ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 730 ล้านบาท “โมนิก้า” เลยเกิดอาการสับสนขึ้นมานิดหนึ่ง เพราะก่อนหน้านี้ประมาณ 2 สัปดาห์ หุ้นย่ำฐานอยู่บริเวณ 48-50 บาท ด้วยวอลุ่มที่เบาบาง  เดี๊ยนถึงขอตีความไปเองว่า พวกกองทุนเข้ามาเก็บหุ้น ทุกอย่างเลยดูดีไปหมด และมีสิทธิ์เปลี่ยนฐานให้สูงขึ้นกว่าเดิมด้วยนะจ๊ะ

*เหมือนกับในรายของ ROBINS ฟอร์มตัวขึ้นวันละนิดวันหน่อย ก่อนจะวิ่งขึ้นมาปิดที่ 49.75 บาท ทั้งที่ต้นเดือนย่ำอยู่แถว 40 บาท พร้อมกับให้รีเทิร์น 25% ภายในระยะเวลา 20 วันทำการ แถมเป็นการทำ new high ในรอบ 13 เดือน “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่น่า follow เป็นอย่างยิ่ง เพราะวันนี้เทรดบน P/E 25 เท่า ขณะที่ตัวเลขกำไรปี 59 มีแนวโน้มจะดีกว่าเดิม..มองข้ามไม่ได้นะคะ

*เช่นเดียวกับในรายของ GTB กลายเป็นหุ้นที่แมงเม่าเทรดสนั่นลั่นทุ่ง “โมนิก้า” ถือเป็นช็อตที่ขาลุยชอบเล่นอย่างไม่ต้องสงสัย จากตอนแรกทำท่างึกๆ งักๆ พอเข็มนาฬิกาแตะ 4 โมงเย็นปุ๊บ ก็มีออเดอร์เคาะขวาไหลเข้ามาอย่างไม่หยุดหย่อน จนราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.79 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 7.20% ด้วยมูลค่า 350 ล้านบาท วันนี้มีลุ้นเล่นต่ออีกยกเจ้าค่ะ

*สำหรับในรายของ ARROW ก็เป็นอีกหนึ่งรายที่นักเล่นควรให้ความสนใจมากเป็นพิเศษ เพราะคอนเซ็ปต์ของหุ้นตัวนี้ถูกวางตัวเป็น Growth Stocks แถมมีโปรเจ็กต์สำคัญรออยู่ข้างหน้า “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 14.60 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 4.30% ด้วยมูลค่า 87 ล้านบาท

*ส่วนรายที่มาแรงแซงทางโค้งอย่าง AJD ในที่สุดก็เปิดตัวพันธมิตร “อาลีบาบา” อย่างเป็นทางการนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่น่าสนใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะที่ผ่านมามีการเม้าท์เรื่องนี้เยอะพอสมควร และสุดท้ายก็เป็นจริงเหมือนกับแมงเม่าคุยกันตามซอกตึก ราคาหุ้นถึงเด้งขึ้นมาปิดที่ 1.19 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 5.30% ด้วยมูลค่า 138 ล้านบาท มันเป็นจังหวะของการโหนกระแสอย่างไม่ต้องสงสัยเจ้าค่ะ

*ก่อนจากกัน “โมนิก้า” ขอเม้าท์ถึงเหตุการณ์ประจำปีที่เกิดขึ้นทุกไตรมาส เพื่อเสนอเป็นตัวช่วยในภาวะลงทุนผันผวนสักหน่อยว่า เพราะเกมวันนี้ยังมีเรื่องของการทำ window dressing เข้ามาผสมโรงอีกนิดหน่อย ซึ่งจะบิ้วด์อารมณ์นักเล่นให้กระโจนเข้าใส่หุ้นกันอย่างเมามันอีกรอบ วันนี้ถึงต้องโฟกัสไปที่หุ้นขนาดใหญ่เป็นลำดับแรก เพราะมีโอกาสถีบตัวขึ้นแรงนะซี

*ยิ่งหุ้นทิ้งตัวลงแรงช่วงท้ายตลาด จนสุดท้ายปิดที่ 1,394.78 จุด ลบไป 10.63 จุด ด้วยมูลค่า 3.50 หมื่นล้านบาท เท่ากับเป็นการส่งสัญญาณให้นักเล่นเดาทางกันอีกรอบว่า ปรากฏการณ์ดังกล่าวจะมีไหม?..อิอิอิ