อยากรู้..แต่ไม่อยากถาม?โมนิก้าและทีมงาน

*ประเด็นที่ “โมนิก้า” ให้ความสนใจมากสุดวานนี้ ไม่ใช่เรื่องของดัชนีแกว่งตัวสะเปะสะปะ เพราะเรื่องของเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้น แต่ละเรื่องมีตุ๊กตาเข้ามาเกี่ยวข้องมากมาย จึงมองประเด็นดังกล่าวได้ทั้ง “บวกและลบ” ซึ่งขึ้นอยู่กับว่า ตัวคนนั้นอยู่ฝั่งไหน? พร้อมกันนี้อย่าลืมว่า กลไกของตลาดหุ้นถูกออกแบบให้เป็นมันนี่เกม! มีคนได้เมื่อไหร่..ก็ต้องมีคนเสียเมื่อนั้นเจ้าค่ะ


*ประเด็นที่ “โมนิก้า” ให้ความสนใจมากสุดวานนี้ ไม่ใช่เรื่องของดัชนีแกว่งตัวสะเปะสะปะ เพราะเรื่องของเหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในตลาดหุ้น แต่ละเรื่องมีตุ๊กตาเข้ามาเกี่ยวข้องมากมาย จึงมองประเด็นดังกล่าวได้ทั้ง “บวกและลบ” ซึ่งขึ้นอยู่กับว่า ตัวคนนั้นอยู่ฝั่งไหน? พร้อมกันนี้อย่าลืมว่า กลไกของตลาดหุ้นถูกออกแบบให้เป็นมันนี่เกม! มีคนได้เมื่อไหร่..ก็ต้องมีคนเสียเมื่อนั้นเจ้าค่ะ

*วันนี้ถึงอย่าได้เพรียกหาในสิ่งที่รู้ว่า ไม่มีทางได้..เพราะเกมวันนี้ถูกคุมจากคนไม่กี่คน! โดยเฉพาะคนที่ทำหน้าที่อย่าง ก.ล.ต. วันนี้มีหลายอย่างที่ผู้คนกำลังสงสัยว่า  hearing กับ asking “เหมือนกัน” หรือ “ต่างกัน” และมีรูปประโยคเป็นแบบ “คำสั่ง” หรือ “บอกเล่า” เพราะสังคมชาวหุ้นกำลังอยากรู้ถึงท่าทีของการกระทำในแต่ละรอบ ทำไมถึงเป็นเรื่องสองมาตรฐานไปได้เสียฉิบล่ะจ๊ะ

*ประกอบกับเดี๊ยนเป็นคนประเภท “อยากรู้..แต่ไม่อยากถาม”(ถามไปทีไร ก็ตอบไปประเด็นไหนก็ไม่รู้) ซึ่งเหมือนกับคำให้สัมภาษณ์ของรองนายกฯ ที่พูดถึงเรื่องของเจ้าจำปี THAI นับจากนี้จะกำไรต่อไปอีก 5-10 ปี มันเป็นเรื่องที่เม้าท์ต่อหน้าสาธารณชนได้จริงเหรอ? และกรณีแบบนี้มีความผิดเหมือนกับที่บริษัทจดทะเบียนขนาดกลางและขนาดเล็กโดนเรียกไปปรับทัศนคติหรือเปล่า?

*ตรงนี้เป็นแค่น้ำจิ้มที่ทำให้ทุกคนเคลือบแคลงสงสัยในการทำหน้าที่เป็นผู้กำกับตลาดหุ้น พอเอาเข้าจริงทีไร กลายเป็นที่ทำให้หลายคนผิดหวังไปตามกัน “โมนิก้า” จึงขอเป็นตัวแทนบริษัทจดทะเบียนออกมาทวงถามว่า ต้องการให้ตลาดหุ้นไทยเป็นแบบ free market หรือ  control market  ซึ่งจะทำให้ทุกคนหุบปากได้อย่างสนิทใจ เพราะเจ้านายเขาออกคำสั่งมาแบบนี้…อิอิอิ

*อีกหนึ่งเรื่องที่กลายเป็นควันหลงคงหนีไม่พ้นการปรับเปลี่ยนโครงสร้างคณะกรรมการตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งจากเดิมอยู่มีอยู่ด้วยกัน 10 คน ของใหม่จะปรับเปลี่ยนเหลือ 8 คน และในจำนวนดังกล่าวเป็นของโบรกเกอร์ 4 ราย แต่จะถูกลดทอนเหลือแค่ 2 รายขณะที่โควตาจากสำนักงาน ก.ล.ต. มีอยู่ด้วยกัน 4 ราย จากเดิมมีอยู่ด้วยกัน 5 ราย พร้อมกันนั้นจะเติมคนที่เกี่ยวข้องกับวงการหุ้นเข้ามาอีก 2 ราย (แต่ต้องได้รับความเห็นชอบจากผู้กำกับก่อน) นะจะบอกให้

*ถามว่า แนวคิดดังกล่าวถูกต้องตามหลักหรือไม่? “โมนิก้า” ถึงกล้าพูดได้เต็มปากเต็มคำว่า ก็พี่เขาจะเอา..น้องมีปัญหาเหรอ! ซึ่งทุกครั้งก็ออกมาลักษณะนี้เป็นประจำ เดี๊ยนถึงมองเรื่องนี้ว่า ต้องมีอะไรบางอย่างไม่ชอบมาพากลแล้วล่ะ วันนี้ถึงต้องถามคนจากโบรกเกอร์เป็นลำดับแรกเลยว่า ยอมทำตามข้อเสนอของหน่วยงานไหม? และคำตอบที่ได้จะเป็นการชี้ชะตาพวกคุณโดยตรงนะซี

*ส่วนคนที่ถูกชี้ชะตาเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว “โมนิก้า” มองไปที่การกล่าวโทษของสำนักงานดังกล่าวต่อ NEWS POLAR  และ ศิร์วสิษฎ์ พร้อมกับตั้งข้อหามีพฤติกรรมชักชวนกันเพื่อให้ได้มาซึ่งหุ้น NMG ซึ่งมีการบรรยายสรรพคุณอีกตั้งมากมายหลายอย่าง มันเป็นเรื่องที่ทำให้ผู้คนสงสัยมากพอสมควรว่า ตกลงเรื่องที่เกิดขึ้นใครผิด? และมีการยิงคำถามไปยังคนที่ตรวจสอบเรื่องนี้ว่า รู้ได้อย่างไรว่าเป็นคนกลุ่มเดียวกันล่ะจ๊ะ

*เม้าท์เรื่องหนักๆ ขึ้นมาทั้งที “โมนิก้า” ขอพูดถึงเรื่องของ TRUE เพิ่มเติมอีกนิดหน่อยว่า การออกมาพูดเรื่องค่าประมูล 4G รอบใหม่ต้องไม่ต่ำกว่า 7.50 หมื่นล้านบาท มันเป็นเรื่องที่ถูกต้องตามหลักการทุกอย่าง! และหากค่ายสีเขียวต้องการใช้คลื่นดังกล่าว ก็ต้องเสียเงินประมูลในราคาที่ยุติธรรม หรือจะขอใช้ร่วมกับมังกรน้อย ก็ต้องจ่ายค่าเช่ามาอย่างเป็นทางการก็เท่านั้นเอง..ทุกคนเข้าใจตรงกันนะ!

*เหมือนกับในรายของป้ายุพา UPA กระชากขึ้นมาปิดที่ 1.12 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 21% ด้วยมูลค่า 240 ล้านบาท เพียงเพราะได้ใบ PPA จำนวนมากถึง 200 เมกะวัตต์ “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องของผลกระทบทางจิตใจมากกว่าปัจจัยพื้นฐาน เพราะที่ผ่านมายังจ่ายไฟได้แค่ 6 เมกะวัตต์ จึงไม่รู้ว่า จะเอามาทำอะไรเยอะแยะไปหมดในช่วงเวลาแบบนี้เจ้าค่ะ

*หากนึกสภาพของหุ้นที่มีดีในตัว แล้วไม่สามารถไปใช้ประโยชน์จากสิ่งที่มีได้ “โมนิก้า” ขอให้แฟนคลับหันไปมอง JAS เพราะกลเม็ดเด็ดพรายถูกนำออกมาใช้เยอะแยะไปหมด แต่วันนี้กลับไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ เพราะคนไม่เชื่อว่า คงไม่มีอะไรที่ดีกว่านี้อีกแล้ว! หุ้นถึงรูดมหาราชลงมาปิดที่ 3.26 บาท ลบไป 0.24 บาท หรือลงไป 6.90% ด้วยมูลค่า 1 พันล้านบาท มันคืออะไร..ก็รู้ๆ กันอยู่นะคะ

Back to top button