ฉากใหม่ของพระเอกแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

อมร มีมะโน แห่ง บริษัท คราวน์ เทค แอดวานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ AJD กลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง แน่นอน เป็นข่าวครั้งนี้ ต้องมีข่าวดีมาด้วย เพื่อให้นักลงทุนหลงลืมข่าวร้ายจากความ “ไม่บรรลุเป้าหมาย” ของตู้เติมเงินที่กำลังขะมักขเม้นปรับปรุงแผนงานใหม่อยู่


อมร มีมะโน แห่ง บริษัท คราวน์ เทค แอดวานซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ AJD กลับมาเป็นข่าวอีกครั้ง แน่นอน เป็นข่าวครั้งนี้ ต้องมีข่าวดีมาด้วย เพื่อให้นักลงทุนหลงลืมข่าวร้ายจากความ “ไม่บรรลุเป้าหมาย” ของตู้เติมเงินที่กำลังขะมักขเม้นปรับปรุงแผนงานใหม่อยู่

มาคราวนี้ ไม่ได้มาคนเดียว เพราะนอกจากควงแขน  Mr.Zhang Jun  ผู้จัดการทั่วไปของ  B2B Oversea Business ของยักษ์ใหญ่อี-คอมเมิร์ซ ชื่อดัง  Alibaba จากจีน และยังมีรัฐมนตรี ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล ของไทย มาร่วมแถลงข่าวด้วย

การแถลงข่าวเรื่องที่  Alibaba ทำการแต่งตั้งให้ AJD เป็นตัวแทนผู้ให้บริการเว็บไซต์ Alibaba ในไทยอย่างเป็นทางการ นอกจากเป็นการลบเลือนความชอกช้ำจากปัญหาเดิมได้หมดสิ้น ยังทำให้ราคาหุ้นของ AJD  ได้รับการตอบรับเชิงบวกอย่างมากทีเดียว แม้ว่าจะเจอกับสถานการณ์ เซลลิ่ง ออน เดอะ แฟ็กต์ เมื่อวานนี้หลังจากการแถลงข่าวจบลง

ข้อตกลงเป็นตัวแทนอี-คอมเมิร์ซนั้น ความจริงแล้ว มีการระบุว่า ได้เซ็นสัญญาร่วมเป็นพันธมิตรกันไปแล้วตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา  แต่มาประกาศให้เอิกเกริกวานนี้เอง เพื่อหวังผลในการสร้างแบรนด์ของทั้งสองฝ่าย

ตามหลักการแล้วข้อตกลงระบุว่า  AJD จะเป็นตัวแทนอาลีบาบา รีเซลเลอร์ในประเทศไทย เพื่อดำเนินการรวบรวมผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และผู้ส่งออกไทยมาสมัครเป็นสมาชิกของ Alibaba ที่ปัจจุบันถือเป็นเว็บไซต์ขายของออนไลน์ใหญ่ที่สุดของโลก เพื่อนำสินค้ามาวางขายบนเว็บไซต์ดังกล่าว ซึ่งมีผู้ซื้อทั่วโลกกว่า 65 ล้านคน ครอบคลุมกว่า 200 ประเทศ

รายได้จากค่าสมาชิกดังกล่าว ซึ่งคิดจากลูกค้าประมาณรายละ 50,000 บาท ทาง AJD ตั้งเป้าหมายว่าปีแรกจะมี SMEs ไทยสมัครเป็นสมาชิกอยู่ที่ 5,000 ราย และมีรายได้อยู่ที่ 250 ล้านบาท คงจะตกมาที่บางส่วนให้กับ AJD …ปีต่อไป จะตั้งเป้าเป็น 1 หมื่นราย  โดยที่ AJD จะรับรู้รายได้ประมาณ 15-40% ของยอดสมาชิก ..แต่ต้นทุนปีแรก ก็ต้องมี โดยคาดว่าจะตั้งเป้าลงทุนที่ 12.50 ล้านบาท …ได้แค่ไหน คำนวณกันเอาเอง…ละกัน

ความสำเร็จในการได้รับเป็นตัวแทนของ Alibaba นี้ โยงใยเข้ากับข้อตกลงที่กำลังศึกษากันอยู่เรื่องที่ จะตั้งบริษัทร่วมทุน เบื้องต้นกับบริษัทโลจิสติกส์ของ Alibaba ชื่อ YTO Express ในการทำโลจิสติกส์ในไทย ให้เพื่อจัดส่งสินค้าให้เครือข่ายดังกล่าว

การแถลงข่าววานนี้ ดูอมรจะสุขุมรอบคอบกว่าในอดีตหลายเท่าตัว เพราะ ระวังคำพูด ไม่ปล่อยให้เป้าหมายทางธุรกิจที่เกินจริงหลุดออกจากปากได้เลย

แล้วก็ไม่ยอมพูดอีกว่า ยอดขายหรือกำไรทำสถิติสูงสุดในปีนี้อีก…รอให้ผลงานพูดออกมาดีกว่า

นอกจากนั้น อมร ยังอุบไต๋เรื่องความคืบหน้าของการร่วมลงทุนกับบริษัท YTO Express จำกัด ของประเทศจีน ซึ่งทางกลุ่มอาลีบาบา กรุ๊ป โฮลดิ้ง ถือหุ้นอยู่ในสัดส่วน 20% เพื่อดำเนินธุรกิจด้านกระจายสินค้าสู่ผู้บริโภค (โลจิสติกส์) และจะมีการดำเนินธุรกิจอีคอมเมิร์ซร่วมกัน โดยการนำสินค้าจากไทยไปขายจีน และนำสินค้าจีนมาขายไทยนั้น คาดว่าจะมีความชัดเจนประมาณเดือนเมษายน 2559

ส่วนการร่วมลงทุนที่เชื่อมโยงกันระหว่างการเป็นรีเซลเลอร์ รวบรวมและจัดการสมาชิกให้กับ Alibaba แล้ว ที่เป็นอี-คอมเมิร์ซ โดยตรง กับธุรกิจโลจิสติกส์เชื่อมโยง ที่อมรและ AJD ช่ำชองอยู่แล้วนั้น หนีไม่พ้นที่จะต้องเป็นข่าวใหญ่อีกครั้งอย่างแน่นอน

คนทำงาน “เล็กๆ ไม่ ใหญ่ๆ ทำ” อย่างอมร มีมะโนนั้น ไม่เคยหยุดนิ่ง แม้จะล้มเหลวบ้าง ก็เป็นเรื่องปุถุชน…. แต่อย่างน้อย ก็มีคนส่วนหนึ่งมองเห็นความพยายาม ไม่ทำตัวเป็น แมวอ้วน” เล่นหุ้นไปวันๆ พร้อมกับขายฝันที่ไม่เป็นจริงจนพร่ำเพรื่อ

รอยยิ้มในการแถลงข่าวของอมร เมื่อวานนี้ บอกอะไรได้มากมายว่าอนาคตของ AJD คงไม่ถึงกับสิ้นไร้ไม้ตอก แต่จะกำไรมากหรือน้อย..บอกไม่ได้ เพราะ มันผิดกติกาของ ก.ล.ต.ที่พร้อมจะทำตาขวาง หาเรื่องตั้งข้อหา “ปากสว่าง” ให้กับผู้บริหาร บจ.รายเล็กๆ ได้ทุกเมื่อเชื่อวัน

ฉากใหม่ของพระเอกตัวจริง หวนย้อนคืนมาอีกครั้ง เป็นเหล้าใหม่ในขวดเก่า ที่รสชาติน่าจะดีกว่าเดิม

โชคดีอีกครั้ง…อิ อิ อิ

 

Back to top button