เช็ค 15 หุ้นเด็ด อสังหาฯ-ก่อสร้างผลตอบแทนเดือน เม.ย.ชนะตลาด

โบรกฯแนะ 15 หุ้น อสังหาฯ-ก่อสร้าง แนวโน้มผลตอบแทนเดือน เม.ย. ดีกว่าตลาด


บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ตลาดหุ้นไทยในเดือน เม.ย. มักให้ผลตอบแทนเป็นบวกเฉลี่ยราว 3.5% ด้วยความน่าจะเป็นถึง 90% โดยกลุ่มที่สามารถ Outperform ได้มากกว่าตลาด ที่โดดเด่นคือ กลุ่มโรงพยาบาล ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยกว่า 6% ด้วยความน่าจะเป็นถึง 90% กลุ่มปิโตรเคมี ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยเกินกว่า 6% ด้วยความน่าจะเป็นถึง 80% กลุ่มพลังงาน ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 5% ด้วยความน่าจะเป็นถึง 80% เช่นกัน และกลุ่มชิ้นส่วนฯ ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยเกือบ 5% ด้วยความน่าจะเป็น 60% โดยวันนี้จะนำเสนอกลุ่มอสังหาฯ และกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ที่ให้ผลตอบแทนในเดือน เม.ย. ที่น่าพอใจเช่นกัน

 

กลุ่มอสังหาฯ มักปรับขึ้นในเดือน เม.ย. ด้วยโอกาสสูงถึง 8 ใน 10 ปีหลังสุด ด้วยผลตอบแทนเฉลี่ยราว 3.7% โดยในส่วนของผู้พัฒนาที่อยู่อาศัยนั้นพบว่า PF ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 7.7% ด้วยความน่าจะเป็นกว่า 80% ตามด้วย PS ผลตอบแทนเฉลี่ย 7.2% แต่ความน่าจะเป็นน้อยราว 60% ส่วนบริษัทอื่นๆ ได้แก่ RML ผลตอบแทนเฉลี่ย 7% ด้วยความน่าจะเป็นราว 70%, BLAND ผลตอบแทนเฉลี่ย 6.8% ด้วยความน่าจะเป็น 80%, AP ผลตอบแทนเฉลี่ย 6.8% ความน่าจะเป็น 60%, SIRI ผลตอบแทนเฉลี่ย 4.2% ความน่าจะเป็น 70%, LPN ผลตอบแทนเฉลี่ย 3.9% ความน่าจะเป็น 70%, LH ผลตอบแทนเฉลี่ย 2.6% ความน่าจะเป็น 60% และ SPALI ผลตอบแทนเฉลี่ย 2% ความน่าจะเป็น 60%

ทั้งนี้คาดว่าปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มพัฒนาที่อยู่อาศัยนั้น น่าจะมาจากผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 จะเติบโตมากกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากจะเข้าสู่ช่วงโค้งสุดท้ายของมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ที่จะหมดอายุลงในวันที่ 28 เม.ย. 2559 (ปัจจุบันยังไม่ชัดเจนว่ารัฐบาลจะพิจารณาต่ออายุมาตรการหรือไม่) ทำให้ผู้พัฒนาฯ มีการกระตุ้นยอดขาย และเร่งการโอนฯ มากขึ้น

 

ด้านกลุ่มวัสดุก่อสร้าง ปรับขึ้นในเดือน เม.ย. ด้วยโอกาสสูงถึง 8 ใน 10 ปีเช่นกัน ด้วยผลตอบแทนเฉลี่ยราว 3.5% หุ้นที่มักให้ผลตอบแทนดีในเดือน เม.ย. ได้แก่ TASCO ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงถึง 9.3% ด้วยความน่าจะเป็นราว 60% ส่วน VNG ก็ให้ผลตอบแทนที่ดีเช่นกัน คือ 5.7% ด้วยความน่าจะเป็น 70% ตามด้วย DCC ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 4.3% ด้วยความน่าจะเป็นกว่า 60%, TPIPL ผลตอบแทนเฉลี่ยราว 4% ด้วยความน่าจะเป็น 70%, DRT ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 3.9% ด้วยความน่าจะเป็น 80% ส่วน SCC ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยประมาณ 3.4% แต่ด้วยความน่าจะเป็นน้อยกว่า คือ 60%

แนวโน้มของกลุ่มวัสดุก่อสร้างในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2559 น่าจะฟื้นตัวเล็กน้อยจากช่วงเดียวกันของปีก่อน เพราะมีแรงขับเคลื่อนเดียวจากการลงทุนภาครัฐที่เติบโต ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นการลงทุนในโครงการขนาดเล็ก แต่เชื่อว่าโครงการลงทุนขนาดใหญ่ภาครัฐที่จะทยอยออกมาตั้งแต่ช่วงไตรมาส 2/59 เป็นต้นไป คาดว่าจะทำให้แนวโน้มผลประกอบการในครึ่งปีหลังของปี 2559 มีทิศทางที่ดีขึ้น

Back to top button