SET เสี่ยงหลุด 1,400 อีกรอบ!เก็บหุ้นดีมีสตอรี่-ราคา Laggard

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยอาจมีการปรับฐานลงต่อไปทดสอบระดับ 1,400 จุดมีแนวโน้มอ่อนตัวตามภูมิภาค หลังได้รับแรงกดดันจากปัจจัยนอกประเทศ ส่วนทางด้านประเด็นในประเทศยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ๆ แนะนำเล่นหุ้นพื้นฐานที่ ที่ราคายัง Laggard


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.20 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.12 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลงเป็นส่วนใหญ่ โดยตลาดหุ้นโตเกียวร่วงลงอย่างหนักหลังจากความเชื่อมั่นของกลุ่มผู้ผลิตรายใหญ่ของญี่ปุ่นปรับตัวลดลงในไตรมาสแรกปีนี้ นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่สหรัฐจะเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประจำเดือนมี.ค.ในวันนี้

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยอาจมีการปรับฐานลงต่อไปทดสอบระดับ 1,400 จุดมีแนวโน้มอ่อนตัวตามภูมิภาค หลังได้รับแรงกดดันจากปัจจัยนอกประเทศ ส่วนทางด้านประเด็นในประเทศยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ๆ แนะนำเล่นหุ้นพื้นฐานที่ ที่ราคายัง Laggard

หุ้นเด่นเลือก TWPC-SCCMINTAOTCKUNIQKTCBBLKTBSCBPTTTOPIRPCPTTGCTRUEITDSTEC UNIQCPALLSAWAD-PS-DTAC-VNG-EPG-CBG-TSR และTWPC

 

บล.ไอร่า ระบุในบทวิเคราะห์ (1 เม.ย.) ผันผวนคาดการเคลื่อนไหวคล้ายกับวานนี้ ภายใต้ที่ยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ๆ ขณะที่ปัจจัยต่างประเทศ (+) ตัวเลขการผลิตของจีน ที่เปิดเผยเช้านี้ ปรับตัวดีขึ้น โดย PMI ภาคการผลิต – มี.ค. อยู่ที่ 50.2 เพิ่มจาก 49.0 เมื่อก.พ. แต่ (-) ตัวเลขการจ้างงานของสหรัฐฯ ล่าสุดตัวเลขขอรับสวัสดิการเพิ่มขึ้นมากกว่าคาด รวมถึงแนะติดตามสถานการณ์การก่อการร้ายในยุโรป ที่คาดอาจส่งผลต่อความเชื่อมั่นในการลงทุน

ส่วนทางด้านประเด็นในประเทศยังไม่มีปัจจัยชี้นำใหม่ๆ เช่นกัน แต่คาดยังได้รับปัจจัยหนุนจาก Fund Flow ที่คาดมีน้ำหนักมากขึ้นหลังจากนี้ไป โดยคาดน่าจะกลับเข้ามาในภูมิภาคอีกครั้ง ซึ่งรวมถึงไทย หลังเฟดส่งสัญญาณยังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ล่าสุดแรงซื้อสุทธิจากต่างชาติ อีกเกือบ 1,800 ล้านบาท และทำให้ YTD เพิ่มขึ้นเป็น +18,978 ล้านบาท แนะจับตาหุ้นขนาดใหญ่ที่เป็นเป้าหมายของนักลงทุนต่างชาติ

รวมถึงมาตรการกระตุ้นของภาครัฐ เพื่อกระตุ้นการบริโภคและการท่องเที่ยวในประเทศ ที่คาดส่งผลดีต่อกลุ่มค้าปลีก กลุ่มโรงแรม และกลุ่มอาหาร โครงการบ้านประชารัฐ ที่คาดส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มที่อยู่อาศัย เช่น PS และ LPN เป็นต้น และกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง ที่คาดได้รับปัจจัยบวกจากความคืบหน้าในการเปิดประมูล โดยเฉพาะโครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-มีนบุรี) และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) หลังเข้าที่ประชุมคณะรัฐมตรี (ครม.) วานนี้ คาดเริ่มเปิดประมูลประมาณไตรมาส 2-3/59

อย่างไรก็ตามราคาน้ำมันดิบดูไบ ที่ยังทรงตัวอยู่บริเวณ 35 – 36 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล คาดยังมีผลต่อราคาหุ้นในกลุ่มพลังงาน เช่น PTT และ PTTEPหุ้นแนะนำ : TWPC

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (1 เม.ย.) คาดนักลงทุนรอดูประกาศตัวเลขจ้างงานคืนนี้ อย่างไรก็ดี ผลจาก Fed มีความระมัดระวังในการขึ้นดอกเบี้ย ยังกดดันเงินดอลลาร์ฯ อ่อนค่า, Bond Yield ปรับลดลงทั่วโลก – ปัจจุบัน Bond Yield ไทยอายุ 10 ปี ต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 1.72% ส่งผล Earnings Yield Gap สูง ที่ 5% (ดู Pathumwan Corner วันที่ 29 มี.ค.เพิ่ม)

ขณะที่มาตรการ QE ของ ECB และ BOJ กดดันให้สภาพคล่องโลกสูง นอกจากนี้จากค่าสถิติย้อนหลัง ผลตอบแทนรวมปันผลของ SET เดือน เม.ย. เป็นบวกถึง 8 ใน 10 จากข้อมูล 10 ปีก่อนหน้า มองเป้าหมาย SET ระยะสั้นที่ 1,430-1,460 จุด และคาดว่ากลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ที่ laggard จะเป็นเป้าหมายการซื้อของนักลงทุนต่างชาติจะเป็นหุ้น “กลุ่มนำ”

ทั้งนี้แนะนำ “ซื้อ” หุ้นขนาดใหญ่ที่ laggard และกลุ่มรับเหมาฯ

1) SCC MINT AOT เป็นหุ้นใหญ่พื้นฐานดี และเป็น laggard play

2) หุ้นกลุ่มรับหมาฯ CK UNIQ คาดรัฐบาลยังคงเร่งการลงทุนต่อเนื่อง และ KTC ที่คาดธุรกิจจะเติบโตรอบใหม่ หนุนกำไรปี 17-18 โต 20-25%

 

บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (1 เม.ย.) กลยุทธ์ปัจจัยเสี่ยงที่จะส่งผลต่อตลาดหุ้นไทยในรอบนี้ จะยังไม่ใช่ปัจจัยภายใน อย่างการชะลอตัวของเศรษฐกิจไทย แต่จะเป็นปัจจัยภายนอกอย่างที่เคยเกิด ทั้งราคาน้ำมันความผันผวนของตลาดหุ้นสหรัฐ ตัวเลขเศรษฐกิจจีนและค่าเงินดอลลาร์

โดยวันนี้คาดว่าตลาดอาจมีการปรับฐานลงต่อไปทดสอบระดับ 1,400 จุด ตามการปรับตัวลดลงของตลาดหุ้นในต่างประเทศหลังประธานธนาคารกลางสหรัฐ สาขาชิคาโก กล่าวว่าเขาพร้อมสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในกลางปีนี้และอีกครั้งหนึ่งในปลายปีนี้

นอกจากนั้นการที่ S&P ปรับลดแนวโมอันดับเครดิตจีนสู่ เชิงลบ จากความเสี่ยงทางเศรษฐกิจและการเงินก็ทำให้นักลงทุนกลับมากังวลการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนอีกครั้ง วันนี้แนะนำขายทำกำไรหุ้นกลุ่มหลักอย่างกลุ่มธนาคาร (BBL KTB SCB) พลังงาน (PTT TOP IRPC PTTGC) สื่อสาร (DTAC TRUE) และกลุ่มรับเหมาก่อสร้าง (CK ITD STEC UNIQ) และซื้อเก็งกำไรในกลุ่มหุ้นที่ยังคง laggard ตลาดอยู่อย่าง CPALL SAWAD SCC PS โดยวันนี้ให้แนวรับที่ 1,397-1,400 จุด และแนวต้านที่ 1,410-1,413 จุด

 

บล.เออีซี ระบุในบทวิเคราะห์ (1 เม.ย.) วันนี้คาด  SET แกว่งตัวระหว่าง 1,400-1,420 จุด โดยแม้ดัชนียังมีโอกาสพักตัวต่อหลังยังไร้ปัจจัยหนุนใหม่ๆ แต่ระยะกลางมองดัชนียังสามารถ Sideway Up จาก Fund Flow ที่ยังมีทิศทางไหลเข้าหลังเฟดยันไม่เร่งขึ้นดอกเบี้ยและในประเทศยังมีปัจจัยบวกจากความหวังในการทยอยออกมาตรการกระตุ้น ศก. ของภาครัฐทั้งการบริโภคและการลงทุน

หุ้นที่ปัจจัยพื้นฐานดีที่รอซื้อกลับ

1) DTAC เป็นTop Pick กลุ่มฯ หลังมองราคาปัจจุบันสะท้อนความเสี่ยงสูญเสียส่วนแบ่งตลาดแล้ว และใกล้ช่วงก่อนประมูล 4G อีกทั้งราคาเป้าหมายมีโอกาสถูกเพิ่ม Re-rated เพื่อสะท้อนมีผู้ให้บริการ 3 รายเท่าเดิม

3) Small Cap ที่พื้นฐานแกร่งและมี Catalyst ได้แก่ VNG, EPG, CBG, TSR, TWPC

Back to top button