น้ำมันดิบปิดร่วงหลังตลาดไม่มั่นใจผลประชุมผู้ผลิตน้ำมัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (1 เม.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลว่า กลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่อาจจะไม่สามารถตกลงกันได้ในเรื่องการจำกัดเพดานการผลิต หลังจากซาอุดิอาระเบียออกมายืนยันว่า ซาอุดิอาระเบียจะตรึงกำลังการผลิตก็ต่อเมื่ออิหร่านและประเทศอื่นๆยอมปฏิบัติตาม
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค.ปิด (1 เม.ย.) ร่วงลง 1.55 ดอลลาร์ หรือ 4% แตะที่ระดับ 36.79 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวลงทั้งสิ้น 6.8% ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ค.ที่ตลาดลอนดอน ปิดลดลง 1.66 ดอลลาร์ หรือ 4.1% แตะที่ 38.67 ดอลลาร์/บาร์เรล โดยตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ร่วงลงเกือบ 6%
ตลาดน้ำมันนิวยอร์กได้รับแรงกดดันเนื่องจากนักลงทุนยังไม่มั่นใจว่าการประชุมของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันในเดือนนี้จะสามารถแก้ไขปัญหาน้ำมันล้นตลาดได้หรือไม่ หลังจากทางการซาอุดิอาระเบียออกมายืนยันว่า ซาอุดิอาระเบียจะตรึงกำลังการผลิตก็ต่อเมื่ออิหร่านและประเทศอื่นๆยอมปฏิบัติตาม
รายงานระบุว่า ลิเบียยืนยันไม่เข้าร่วมในการประชุมครั้งนี้ ขณะที่อิหร่านยังไม่แสดงท่าทีที่ชัดเจน ทั้งนี้ อิหร่านยืนยันมาโดยตลอดว่าต้องการเดินหน้าการผลิตน้ำมันเพื่อชดเชยกับส่วนที่ขาดหายไปในช่วงที่ถูกนานาชาติคว่ำบาตร โดยอิหร่านระบุว่าจะเข้าร่วมการประชุมเพื่อหารือการจำกัดการผลิตน้ำมัน ก็ต่อเมื่อสามารถผลิตน้ำมันแตะระดับ 4 ล้านบาร์เรล/วัน ขณะที่ลิเบียแสดงความต้องการที่จะปรับเพิ่มการผลิตน้ำมันสู่ระดับก่อนเกิดสงครามในประเทศ นักวิเคราะห์มองว่า การที่ลิเบียและอิหร่านไม่เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวจะลดประสิทธิภาพที่จะเกิดจากการประชุม
นอกจากนี้ ภาวะการซื้อขายในตลาดน้ำมันนิวยอร์กยังคงได้รับแรงกดดันหลังจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะอุปทานน้ำมันที่สูงขึ้น โดยสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 25 มี.ค. เพิ่มขึ้น 2.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 534.8 ล้านบาร์เรล โดยทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์เป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน