ดูเป็นรายตัว โมนิก้าและทีมงาน

*สิ่งที่ “โมนิก้า” เฝ้าดูตลาดหุ้นมาเป็นสัปดาห์อยู่ที่เรื่องพฤติกรรมของนักลงทุนกลุ่มต่างๆ ที่สลับกันซื้อสลับกันขาย โดยดัชนียังพยายามเดินหน้าขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ให้เห็นเป็นระยะ ล้วนเป็นตัวแปรที่ทำให้เดี๊ยนเชื่อว่า ทุกอย่างกำลังวิ่งเข้าไปหาจุดสมดุล และในระหว่างที่รอให้สถานการณ์ดังกล่าวสุกงอมอย่างเต็มที่ คงต้องเลือกเฟ้นหุ้นรายตัวมากเป็นพิเศษนะจะบอกให้


*สิ่งที่ “โมนิก้า” เฝ้าดูตลาดหุ้นมาเป็นสัปดาห์อยู่ที่เรื่องพฤติกรรมของนักลงทุนกลุ่มต่างๆ ที่สลับกันซื้อสลับกันขาย โดยดัชนียังพยายามเดินหน้าขึ้นไปทำจุดสูงสุดใหม่ให้เห็นเป็นระยะ ล้วนเป็นตัวแปรที่ทำให้เดี๊ยนเชื่อว่า ทุกอย่างกำลังวิ่งเข้าไปหาจุดสมดุล และในระหว่างที่รอให้สถานการณ์ดังกล่าวสุกงอมอย่างเต็มที่ คงต้องเลือกเฟ้นหุ้นรายตัวมากเป็นพิเศษนะจะบอกให้

*เนื่องจากรูปแบบการลงทุนเป็นลักษณะเปลี่ยนตัวเล่นไปเรื่อยๆ ซึ่งเห็นได้จากมหกรรมตะลุย “แบงก์” ต่อจากนั้นเป็น “พลังงาน”  แล้วเปลี่ยนตัวมาเป็น “สื่อสาร” ถัดจากนั้นก็เป็นคิวของ “อสังหาฯ” ต่อจากนั้นก็จะเป็น… “โมนิก้า” ถึงไม่อยากให้นักลงทุนมโน แต่ควรยึดข้อมูลสถิติ เพื่อใช้เป็นแนวทางการลงทุนก่อนหยุดยาวช่วงเทศกาลสงกรานต์..ทราบแล้วเปลี่ยน..ตู๊ด..ตู๊ด

*สิ่งที่นักลงทุนควรรู้น่าจะเป็นเรื่องไทม์ไลน์ของเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นก่อน สงคราม..อุ๊ย..สงกรานต์ ก็คือ หุ้นมักขึ้นแรงก่อนวันหยุดยาว หลังจากนั้นมักรูดลงแรงเป็นประจำ ยังมีมนต์ขลังเหมือนทุกครั้งที่ผ่านมาหรือเปล่า? ถ้าเป็นดังเช่นที่มีคนทำข้อมูลไว้ “โมนิก้า” ถือว่า จังหวะนี้เป็นโอกาสของการเล่นรอบอย่างแน่นอน แถมสตอรี่ที่นำมาเล่นเที่ยวนี้เป็นเรื่องของกำไรในไตรมาส 1 ด้วยแล้ว..ห้ามกะพริบตาเป็นอันขาดเจ้าค่ะ

*เหมือนกับการลงทุนในเจ้าพ่อปิโตรเคมี IRPC ในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาค่อนข้างได้เนื้อได้หนังพอสมควร หลังราคาหุ้นกวัดแกว่งไปมาในกรอบ 4.80-5.10 บาท แต่ถ้ามองย้อนกลับไปในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมาจะเห็นว่า ทิศทางของหุ้นอยู่ในลักษณะ sideway up จากราคาฐานเดิมที่ระดับ 4 บาท ล่าสุดวิ่งขึ้นมาปิดที่ 5.25 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 4% เขาให้รีเทิร์นเกิน 20%  จึงน่าตามไปดูทุกช็อตไงล่ะค่ะ

*ส่วนในรายของ TPBI  เริ่มกระชากขึ้นอย่างช้าๆ พ่วงด้วยวอลุ่มที่หนาแน่นขึ้นเรื่อยๆ “โมนิก้า” ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ที่แฟนคลับ “ข่าวหุ้น” ต้องติดตามดูให้ดี หลังพรายกระซิบ “นั่งยัน นอนยัน” ว่า  เริ่มต้นขาขึ้นระยะกลางเป็นที่เรียบร้อย และตอนนี้กำลังเคลื่อนตัวบนกรอบสามเหลี่ยมชายธง แถมรอบนี้หวังได้ถึง 19 บาท ขณะที่ราคาปิดล่าสุดอยู่ที่ 15.90 บาท บวกไป 1.80บาท หรือขึ้นไป 13% กล้าตามไปดูกันไหมล่ะ

*เหมือนกับกรณีของ MCS  พุ่งกระฉูดอย่างร้อนแรง ทั้งที่ก่อนหน้านี้ออกอาการกระเสาะกระแสะ “โมนิก้า” ถือเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของหุ้นตัวนี้ เพราะการขึ้นเที่ยวนี้มันหมายถึงตัวเลขกำไรปี 59 จะดีผิดหูผิดตา ราคาหุ้นถึงไต่ระดับขึ้นมาปิดที่ 11.70 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 5.40% ทั้งที่ก่อนหน้านี้ย่ำเตาะแตะอยู่ที่ 10.60  บาทมาตั้งนาน พวกนกรู้เลยพากันฝันหวานว่า หุ้นจะแรลลี่ยาว (อย่าลืม..ทุกครั้งแตะ 11.60 บาทแล้วทรุดตัวเป็นประจำ) นะซี

*แปลกแต่จริง ต้องยกให้ BA  แถมแรงแบบไม่ปรึกษาใครแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นสุดยอดอภินิหารขนแพะทองคำ ซึ่งคนในวงการต่างรู้ดีว่า “โอเว่อร์รีแอ็กต์” เป็นอย่างไร? หุ้นตัวนี้ก็มีทรงเป็นแบบนั้นทุกประการ ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 25.25 บาท บวกไป 0.25  บาท ด้วยมูลค่า 480 ล้านบาท มันต่างจาก 2 รอบก่อนหน้านี้ที่ขึ้นไปแตะ 25 บาทปุ๊บลงปั๊บ อย่างไร วันนี้รู้ผล..อิอิอิ

*อีกหนึ่งตัวที่ “โมนิก้า” อยากเม้าท์ถึงสุดๆ คงเป็นรายของ TU  ก่อนหน้านี้มีข่าวทางลบออกมาจากผู้รู้มากมาย หลังจากนั้นข่าวดังกล่าวก็หายไปอย่างช้าๆ เดี๊ยนมาเห็นอีกที ราคาหุ้นก็รูดลงมายืนอยู่ที่ 16 บาท พอผ่านไปประมาณ  3 เดือน ราคาหุ้นกลับขึ้นมายืนอยู่ที่  21.30 บาท บวกไป  0.40 บาท ด้วยมูลค่า 460 ล้านบาท มันคือคำอธิบายว่า ทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟนะจะบอกให้

*เหมือนกับในรายของ WHA พยายามไต่ระดับขึ้นไปยอดเดิม แต่สุดท้ายก็ต้านทานแรงเทขายที่ออกมาอย่างหนักหน่วงไม่ไหว? ส่งผลให้ราคาหุ้นอ่อนตัวลงมาปิดที่  3.08 บาท ลบไป 0.40 บาท  “โมนิก้า” ถือเป็นสถานการณ์บีบบังคับของคนที่มีหุ้นตัวนี้ติดอยู่ในพอร์ต เพราะราคาเป้าหมายของหุ้นตัวนี้อยู่ที่ 3.50 บาท แต่ภาวการณ์ลงทุนไม่เป็นใจเท่าที่ควร จึงต้องปล่อยหุ้นออกมาก่อน หลังจากนั้นจะเข้าไปไล่ใหม่..ข้อมูลมันบอกไว้อย่างนี้นะคะ

*ประเด็นนี้ชวนให้ “โมนิก้า” นึกถึงหุ้น GL ซึ่งมีชื่อชั้นค่อนข้างดีก่อนหน้านี้ แต่ชีวิตจริง ณ เวลานี้ยังต้องลุ้นกันต่อไปเรื่อยๆ แถมตั้งแต่เดือนก.พ. ต่อเนื่องถึงต้นเดือนมี.ค. พยายามกระชากขึ้นทะลุแนวต้าน 22 บาทตลอดเวลา แต่ทำไปทำมาอีท่าไหนไม่รู้  หุ้นลงมายืนอยู่ที่ 19.70          บาท ลบไป 0.40 บาท รวมเบ็ดเสร็จลงไปทั้งสิ้น 9%  เดี๊ยนถือเป็นหุ้นสายฮาร์ดคอร์ที่ไม่ควรมองข้ามนะคะ

*พูดถึงเรื่องร้อนๆ ทีไร “โมนิก้า” ชอบหาอะไรที่ร้อนกว่าเป็นประจำ และเมื่อกวาดสายไปรอบตลาดหุ้นก็สะดุดเข้ากับ SCN บริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับก๊าซ NGV สำหรับยานพาหนะ หลังราคาหุ้นพุ่งขึ้นมาปิดที่ 6.95 บาท บวกไป 0.20  บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 87 ล้านบาท..มีอะไรในกอไผ่หรือไม่ ต้องติดตามดูกันเอาเอง เพราะทุกครั้งที่หุ้นเริ่มกระตุกขึ้นทีไร มักมีช็อตตามหลังมาเป็นประจำเจ้าค่ะ

 

 

Back to top button