SETบ่ายผันผวนแดนลบแนวต้าน 1,405แนะสอย 5 หุ้นใหญ่ laggard-รับเหมาฯ
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดฯคงจะผันผวนในแดนลบ พร้อมให้แนวรับ 1,390 จุด ส่วนแนวต้าน 1,405 จุด แนะนำ "ซื้อ" หุ้นขนาดใหญ่ที่ laggard และ กลุ่มรับเหมาฯ
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน ตลาดหุ้นไทยดัชนี SET ภาคเช้า (4 เม.ย.) แกว่งแคบ อิงขาลงมากกว่า เหตุราคาน้ำมันปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทำให้ไปกดดันกลุ่มพลังงาน และวันนี้มีหุ้นใหญ่หลายตัวขึ้น XD ด้วย ทั้งนี้ตลาดซบเซาอันเนื่องมาจากวอลุ่มเทรดบาง หลังตลาดหุ้นฮ่องกง-จีน-ไต้หวันปิดทำการเนื่องในวันเชงเม้ง บ่ายนี้ตลาดฯคงผันผวนในแดนลบ พร้อมให้แนวรับ 1,390 แนวต้าน 1,405 จุด
น.ส.ธีรดา ชาญยิ่งยงค์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) เปิดเผยว่า ตลาดหุ้นไทยเช้านี้แกว่งแคบ อิงขาลงมากกว่า เนื่องจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมาทำให้ไปกดดันหุ้นในกลุ่มพลังงาน ประกอบกับวันนี้มีหุ้นขนาดใหญ่ขึ้นเครื่องหมาย XD ด้วย
นอกจากนี้ ตลาดซบเซาอันเนื่องมาจากวอลุ่มเทรดที่บาง ส่วนหนึ่งเป็นผลจากที่ตลาดหุ้นฮ่องกง, ตลาดหุ้นจีน และตลาดหุ้นไต้หวันปิดทำการเนื่องในวันเชงเม้ง ทำให้ตลาดฯไม่ค่อยมีวอลุ่มเข้ามา ด้านตลาดหุ้นอื่นในภูมิภาคเอเชียเช้านี้ส่วนใหญ่อยู่ในแดนบวกเล็กน้อย มีเพียงตลาดหุ้นญี่ปุ่นที่ติดลบเล็กน้อย
แนวโน้มการลงทุนในช่วงบ่ายนี้ ตลาดฯคงจะผันผวนในแดนลบ พร้อมให้แนวรับ 1,390 จุด ส่วนแนวต้าน 1,405 จุด
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (4 เม.ย.) ว่า SET ปริมาณการซื้อขายเบาบาง นักลงทุนยังคงชะลอการลงทุนก่อนวันหยุดยาว แม้การขึ้น XD ของ SCC และ INTUCH รวมถึงน้ำมันที่ปรับลงแรงฉุดหุ้นพลังงานปรับตัวลงกดดัน SET
จากข้อมูลสถิติ ปี 54-58 มี 4 ใน 5 ปีที่ SET ปรับลง 10 วันแรก ก่อนจะปรับขึ้นต่อในช่วงหลังสงกรานต์ จึงแนะนำ “Selective Buy” เน้นกลุ่มหุ้นขนาดใหญ่ที่ laggard คาดจะเป็นเป้าการซื้อของนักลงทุนต่างชาติ และเป็นหุ้น “กลุ่มนำ” ในรอบการปรับขึ้นในครึ่งเดือนหลัง
ทั้งนี้สถิติย้อนหลัง 10 ปี ผลตอบแทนของ SET เดือน เม.ย. เป็นบวกถึง 8 ใน 10 ปี และด้วยสภาพคล่องโลก และไทยที่ยังคงมีอยู่ในระดับที่สูง (ล่าสุด Bond Yield ไทยอายุ 10 ปี ทำจุดต่ำสุดใหม่อีกครั้ง 1.63%) มองเป้าหมาย SET ระยะกลาง 1,430-1,460 จุด
แนะนำ “ซื้อ” หุ้นขนาดใหญ่ที่ laggard และ กลุ่มรับเหมาฯ
1) SCC (XD วันนี้ 8.5 บาท) MINT AOT เป็นหุ้นใหญ่ และ laggard play
2) หุ้นกลุ่มรับหมาฯ CK UNIQ คาดรัฐบาลยังคงเร่งการลงทุนต่อเนื่อง
3) และ KTC คาดกำไรปี 17-18 โต 20-25%จากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างธุรกิจ
สรุป 5 หลักทรัพย์มีมูลค่าการซื้อขายสูงสุดภาคเช้า
GVREIT มูลค่าการซื้อขาย 1,061.64 ล้านบาท ปิดที่ 14.00 บาท เพิ่มขึ้น 4.00 บาท
AOT มูลค่าการซื้อขาย 888.74 ล้านบาท ปิดที่ 394.00 บาท ลดลง 2.00 บาท
ADVANC มูลค่าการซื้อขาย 822.94 ล้านบาท ปิดที่ 177.00 บาท ลดลง 1.50 บาท
DTAC มูลค่าการซื้อขาย 654.81 ล้านบาท ปิดที่ 38.75 บาท ลดลง 0.75 บาท
KBANK มูลค่าการซื้อขาย 630.01 ล้านบาท ปิดที่ 169.00 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง