ตีโจทย์ให้แตก! โมนิก้าและทีมงาน

*ใจหาย..ใจคว่ำ..ไปตามๆ กัน เมื่อแรงเทขายไหลออกมาตั้งแต่เปิดตลาด จนดัชนีรูดลงไปถึงระดับ 1,396.42 จุด ก่อนจะเด้งกลับขึ้นมาปิดที่ 1,400.27 จุด ลบไป 0.45 บาท ด้วยมูลค่า 3.60 หมื่นล้านบาท มันคือภาพสะท้อนที่ทำให้แฟนคลับรู้ว่า มีคนพยายามดันหุ้นเพื่อรักษาฐานแนวรับ 1,400 จุด ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ไม่ปกติในยามที่ตลาดหุ้นขาดปัจจัยบวกระยะยาวเข้ามาหนุนเจ้าค่ะ


*ใจหาย..ใจคว่ำ..ไปตามๆ กัน เมื่อแรงเทขายไหลออกมาตั้งแต่เปิดตลาด จนดัชนีรูดลงไปถึงระดับ 1,396.42 จุด ก่อนจะเด้งกลับขึ้นมาปิดที่ 1,400.27 จุด ลบไป 0.45 บาท ด้วยมูลค่า 3.60 หมื่นล้านบาท มันคือภาพสะท้อนที่ทำให้แฟนคลับรู้ว่า มีคนพยายามดันหุ้นเพื่อรักษาฐานแนวรับ 1,400 จุด ซึ่งเป็นสถานการณ์ที่ไม่ปกติในยามที่ตลาดหุ้นขาดปัจจัยบวกระยะยาวเข้ามาหนุนเจ้าค่ะ

*วันนี้ถึงต้องตีโจทย์การลงทุนให้ออก หลังแรงซื้อยังเข้ามาแบบประปราย ส่วนแรงเทขายยังฮึ่มๆ ตลอดเวลา ภาพการลงทุนในแต่ละวันถึง เอาแน่..เอานอน อะไรไม่ได้ และสิ่งที่ทุกคนรู้ล่วงหน้ากันเป็นอย่างดีก็คือ กรอบการเคลื่อนตัวด้านบนอยู่ที่ 1,420  จุด ส่วนกรอบด้านล่างอยู่ที่ 1,380 จุด แต่ทุกครั้งที่ลงมาแตะ 1,390 จุด ดัชนีก็เด้งกลับขึ้นไปทุกทีนะจะบอกให้

*ข้อมูลในส่วนนี้เป็นตัวบอกให้รู้ว่า การเล่นรอบยังคงได้เปรียบ และการไล่หุ้นในช่วงกำลังไต่เพดาน มีโอกาสได้กำไรมากกว่าการเข้าไปช้อนซื้อหุ้นในช่วงทรุดตัวลง เพราะอาจมีราคาที่ต่ำกว่าให้เห็นอีกเป็นช่วงๆ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับเข้าใจถึงรูปแบบการลงทุนในเที่ยวนี้มีอะไรแตกต่างไปจากเดิมขนาดไหน? หากไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ น่าจะไล่ซื้อหุ้นเข้าไปเถอะตัวเอง

*เนื่องจากหุ้นที่ขึ้นแรง และทิ้งตัวลงแรงคราวนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นเกมแลกหมัดระหว่าง ฝรั่งตาน้ำข้าว กับ กองทุนตัวแสบ โดยใช้เรื่องเงินปันผลเป็นตัวจุดกระแส เมื่อทุกอย่างเป็นไปตามเกมที่วางไว้ตั้งแต่ต้น จึงสาดหุ้นใส่แบบคนที่ไม่มีเยื่อใยต่อกัน วันนี้ถึงเห็นหุ้นบางตัวทะยานขึ้นทำ new high ขณะเดียวกันก็เห็นหุ้นบางตัวกำลังทรุดตัวลงกลับไปที่ฐานเดิมตอนที่ขึ้นมานะจ๊ะ

*โดยหุ้นตัวแรกที่ “โมนิก้า” อยากจะเม้าท์มากสุดกลายเป็น SCI เพราะกำลังซุ่มทำโปรเจ็กต์บางอย่าง และหากดีลนี้ดันขึ้นมาจริงๆ ทุกอย่างจะเลิศหรูอลังการงานสร้าง และดูเหมือนพวกนกรู้จะเริ่มระแคะระคายอะไรบางอย่าง จึงกระโจนเข้าใส่มือเป็นระวิง หุ้นถึงวิ่งขึ้นมาปิดที่ 9.90 บาท บวกไป 0.75 บาท หรือขึ้นไป 8.20% ด้วยมูลค่า 412 ล้านบาท เดี๊ยนถึงกล้ามองเป้าด้านบนบริเวณ 11-12 บาทอีกรอบไงล่ะค่ะ

*อีกหนึ่งรายที่ห้ามมองข้ามเป็นอันขาด “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปที่หุ้นไก่ CPF เพราะของมันเห็นกันเต็มสองลูกตาแบ๊วๆ ว่า หุ้นเพิ่งเริ่มทะยานขึ้นรอบใหม่ และกำลังยกฐานแนวรับสูงขึ้นกว่าเดิม การที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 25.25 บาท บวกไป 0.85 บาท หรือขึ้นไป 3.50% ด้วยมูลค่า 1 พันล้านบาท ตามรูปการณ์เขาเรียกแพทเทิร์นแบบนี้ว่า “ติดลมบน” นะจะบอกให้

*ส่วนในรายของ BANPU มีรูปร่างหน้าตาเป็นแบบ U-Shape อย่างเต็มตัวนั้น “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะเป็นการเทิร์นอะราวด์ที่มาพร้อมกับข่าวดีสุดลิ่มทิ่มประตู หุ้นถึงเด้งขึ้นมาปิดที่ 17.60 บาท บวกไป 0.80 บาท หรือขึ้นไป 4.80% ด้วยมูลค่า 940 ล้านบาท ซึ่งมีความเป็นไปได้ที่หุ้นจะวิ่งขึ้นไปทดสอบเส้นแนวต้าน 200 วันที่บริเวณ 20 บาทเจ้าค่ะ

*ขณะที่หุ้นพิมพ์นิยมอย่าง ADVANC  กลับโดนเทขายอย่างหนักหน่วง จนหุ้นอ่อนตัวลงมาปิดที่ 175 บาท ลบไป 3.50 บาท ด้วยมูลค่า 1.60 พันล้านบาท พร้อมกับทำท่าอ่อนตัวลงไปยืนที่เส้นแนวรับ 75 วันที่บริเวณ 166 บาท ทั้งที่ก่อนหน้านี้ขึ้นไปยืนถึง 190 บาท แต่ทันทีที่ขึ้นเครื่องหมาย XD อย่างเป็นทางการเมื่อสัปดาห์ก่อน สภาพของหุ้นก็เละเทะอย่างที่เห็น งานนี้ถึงต้องรอช้อนอย่างเดียวนะตัวเอง

*สำหรับในรายของ ITD อาจมีอาการเครื่องสะดุดในบางครั้ง แต่ก็กลับมาได้ทุกครั้งนั้น มันน่าจะมาจากข่าวผลประกอบการเป็นหลัก รองลงมาเป็นเรื่องเข้าองค์ทรงเจ้า และเรื่องสุดท้ายคงเป็นโปรเจ็กต์ในอนาคตจะได้อะไรบ้าง “โมนิก้า” ถึงขอตีความการทะยานขึ้นมาปิดที่ 7.60 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 4% ด้วยมูลค่า 1.13 พันล้านบาท มันมาจากทั้ง 3 องค์ประกอบทำให้เชื่อว่า จะดีขึ้น!..หากเรื่องจริงไม่เป็นเหมือนกับที่คิด ก็โกยเถอะโยม..อิอิ

*เช่นเดียวกับในรายของ GTB ทุกคนรู้ว่า มีงานอยู่ในมือ 400 ล้านบาทตุนไว้อุ่นๆ และอีก 9 เดือนจะหาอีก 400 ล้านบาทก็คงไม่ใช่เรื่องยาก ขณะที่งานประจำที่มีอยู่ทุกวันนี้ไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาท(จริงๆ เยอะกว่านี้มาก แต่พูดถึงเรื่องเลขสี่ทั้งที ก็อยากให้คล้องจองไปในทางเดียวกันให้หมด) “โมนิก้า” ถึงกล้าฟันธงรายได้ปีนี้ไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้กำไรเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ วานนี้ถึงเห็นหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.77 บาท บวกไป 0.09 บาท หรือขึ้นไป 5.30% ด้วยมูลค่า 260 ล้านบาท..มันน่าสนไหมล่ะค่ะ

*เหมือนกับในรายของ TACC ซึ่งผู้รู้หลายท่านพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า growth stocks ของแท้ร้อยเปอร์เซ็นต์ และถ้าเทียบบัญญัติไตรยางค์ออกมาชัดๆ “โมนิก้า” ก็พูดได้ทันทีว่า การขึ้นมาปิดที่ 6.45 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 4.90% ด้วยมูลค่า 90 ล้านบาท มันน้อยเกินไปเมื่อเทียบกับแผนการวางสินค้าในร้านของเซเว่นฯที่มีไม่ต่ำกว่า 6-7 พันแห่ง..จริงหรือไม่!..ทุกคนก็คิดเองได้นะจ๊ะ

Back to top button