จัด 16 หุ้น Laggard ฟอร์มดีกว่าตลาดSET ไม่มีปัจจัยใหม่หนุน แกว่งไซด์เวย์

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยไซด์เวย์หลังขาดปัจจัยใหม่หนุน ขณะที่จากข้อมูลสถิติดัชนีมีโอกาสอ่อนตัวใน 10 วันแรกของเดือน ก่อนวันหยุดยาว การลงุทนเน้นหุ้น Laggard และกลุ่มขนาดกลางที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว รวมถึงหุ้นที่คาดว่าจะแข็งกว่าตลาด


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.22 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.33 บาทต่อเหรียญ ด้านตลาดหุ้นเอเชียปรับตัวลดลง โดยได้รับปัจจัยถ่วงจากการร่วงลงของราคาน้ำมันดิบ ขณะเดียวกันเงินเยนที่แข็งค่าก็ฉุดตลาดหุ้นญี่ปุ่นอ่อนตัวลง

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยไซด์เวย์หลังขาดปัจจัยใหม่หนุน ขณะที่จากข้อมูลสถิติดัชนีมีโอกาสอ่อนตัวใน 10 วันแรกของเดือน ก่อนวันหยุดยาว การลงุทนเน้นหุ้น Laggard และกลุ่มขนาดกลางที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว รวมถึงหุ้นที่คาดว่าจะแข็งกว่าตลาด

หุ้นเด่นเลือก SCC-MINT-AOT-BDMS-CK-UNIQ-KTC-CHG-SAWAD-MTLS-AAV-BA-EGP-VNG-TTCL และ TPOLY

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (5 เม.ย.) จากข้อมูลสถิติ SET มีโอกาสอ่อนตัวใน 10 วันแรกของเดือน ก่อนวันหยุดยาว ขณะที่ราคาน้ำมันยังปรับตัวลงต่อ เนื่องจากการประชุมกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ 17 เม.ย.นี้ ใกล้เข้ามา คาดยังคงไม่สามารถตกลงกันได้ ทั้งนี้แม้ยังมอง SET ปรับตัวขึ้นได้ในเดือน เม.ย. จากสภาพคล่องโลกที่ยังอยู่ในระดับสูงมาก (ล่าสุด 10 ปี Thai Bond Yield ต่ำสุดที่ 1.55%) เป้า 1,430-1,460 จุด แต่ด้วยความเสี่ยงก่อนวันหยุดยาวจึงยังแนะนำ “เลือกซื้อ”

แนะนำ “เลือกซื้อ” หุ้นใหญ่ที่ Laggard และ กลุ่มขนาดกลางที่มี Theme และ หุ้นที่คาดจะแข็งกว่าตลาด

1) SCC MINT AOT BDMS เป็นหุ้นใหญ่ และ Laggard Play

2) หุ้นกลุ่มรับหมาฯ CK UNIQ คาดรัฐบาลยังคงเร่งการลงทุนต่อเนื่อง และ KTC คาดกำไรปี 17-18 โต 20-25%จากการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายใน CHG ได้ทั้ง Theme สังคมสูงอายุ และธุรกิจใหม่สร้างการเติบโตระยะยาว

3) กลุ่มเช่าซื้อ ที่จะได้ประโยชน์จากดอกเบี้ยที่ต่ำ เช่น SAWAD, MTLS

 

บล.เคทีบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (5 เม.ย.) ว่า ทิศทางตลาดหุ้นไทยยังขาดปัจจัยหนุน เช่นเดียวกับวันที่ผ่านมา ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐฯออกมาไม่ดี ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง ราคาพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯและญี่ปุ่นปรับตัวสูงขึ้น (เป็นลบต่อตลาดหุ้น) รวมทั้งวันพรุ่งนี้ ตลาดหุ้นไทยจะปิดทำการ 1 วัน ซึ่งจะเป็นผลให้นักลงทุนชะลอการลงทุนก่อนเข้าวันหยุด จึงคาดว่า ดัชนีฯวันนี้ มีแนวโน้มที่จะ Sideway ปริมาณการซื้อขายจะเบาบางลง

ปัจจัยที่คาดว่าจะมีผลต่อตลาดในระหว่างวัน ประกอบด้วย ทิศทางตลาดหุ้นรอบบ้าน ราคาน้ำมัน ผลการประชุมครม. (เริ่มประชุม 9.00 น.) และการแถลงในเรื่องการประมูลคลื่นความถี่ 900 Mhz โดย กสทช. 

กลยุทธ์การลงทุน เม็ดเงินของนักลงทุนต่างประเทศที่เข้าตลาดพันธบัตรของไทย (วานนี้ +1.13 หมื่นล้านบาท) ขณะที่ net sell ในตลาดหุ้นและ SET50 Futures เป็นสัญญาณว่าตลาดหุ้นจะยังเดินหน้าต่อไม่ได้ การเข้าลงทุนจึงยังต้องจำกัดกรอบเวลาสั้นๆ ไปก่อน เน้นลงทุนในหุ้นที่มีปัจจัยบวกไว้ก่อน

ทั้งนี้ หุ้นที่คาดว่า นักลงทุนจะให้ความสนใจในวันนี้ อาทิ IRPC, LPN, BTS

Stock in Focus: VNG (ราคาเหมาะสมจาก IAA Consensus 14.06 บาท)

 

บล.ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (5 เม.ย.) ว่า ตลาดไทยวันนี้มีแนวโน้มจะซึมลงหลุด 1,400 จุด ด้วยแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่อ่อนแอลงต่อเนื่อง  หลังผู้นำซาอุดิอาระเบียประกาศจะไม่ลดกำลังการผลิต หากอิหร่านยังคงเดินหน้าเพิ่มการผลิตและส่งออกน้ำมันมากขึ้น ส่งผลให้หุ้นกลุ่มพลังงานมีแนวโน้มจะกดดันตลาดได้ต่อ ประกอบกับตลาดไทยขาดปัจจัยใหม่ๆมาสนับสนุนและตลาดในภูมิภาคส่วนใหญ่เป็นลบในวันนี้ sentiment โดยรวมจึงค่อนข้างอ่อนแอ

แนวรับ/แนวต้าน: 1380/1410 สัดส่วนการลงทุน: เงินสด 60% : พอร์ตหุ้น 40%

กลยุทธ์: เก็บสะสมหุ้นที่ราคาไม่แพงและมีพื้นฐานดี มี Story หนุนเป็นรายตัว และคาดจะรายงานงบออกมาดีในปีนี้

หุ้นแนะนำ: EPG target 16 (Theme ผลประกอบการรายงานออกมาดี), STA target 14 (Theme ราคายางฟื้นตัว), ASEFA target 7 (Theme การประมูลงานโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐและเอกชน)

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (5 เม.ย.) ว่า มีมุมมองเป็นกลางถึงลบต่อตลาดวันนี้ คาด SET sideways down ตามตลาดหุ้นภูมิภาค เราเริ่มเห็นข่าวในเชิงลบมากขึ้นอย่างเช่น กระแสข่าวการปรับขึ้นดอกเบี้ยของเฟดอาจเร็วกว่าที่คาดหลังตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐออกมาดี ราคาทองคำและน้ำมันดิบร่วงต่อเนื่อง แบงก์พาณิชย์ไทยเริ่มปรับลดดอกเบี้ยเงินกู้ซึ่งจะทำให้ส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยลดลงทำให้แนวโน้มกำไรของกลุ่มแบงก์น่าจะชะลอตัวต่อเนื่อง ค่าเงินบาทที่แข็งค่าในช่วงที่ผ่านมา และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10 ปี ปรับลงแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ อาจเป็นปัจจัยหนุนกนง.พิจารณาการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

กลยุทธ์วันนี้: Selective BUY/ ซื้อเมื่ออ่อนตัว

หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น: AAV BA EGP (ได้ประโชยน์จากราคาน้ำมันดิบร่วง), SAWAD (ได้ประโยชน์ดอกเบี้ยต่ำ)

คาดการณ์มุมมองทางเทคนิค กราฟล่าสุดแสดงภาพการแกว่งตัวแต่เป็นสัญญาณลักษณะจะ breakout ในทางขึ้น โดยได้แรงหนุนของ MA10 และ MA25 สนับสนุนภาพใหญ่ของ SET มี  momentum ในทางขาขึ้นในสั้นและระยะกลาง แนวโน้มของตลาดจะเคลื่อนไหวที่กรอบ 1,400-1,415

หุ้นที่เลือกวันนี้มีโอกาสปรับขึ้น แนะนำซื้อเก็งกำไร TTCL และ TPOLY

Back to top button