PLANB บวก 6.15% คาดเก็งงบฯ 1Q59 สดใส กูรูแนะซื้อเป้า 7.30 บ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PLANB ณ เวลา 12.00 น.อยู่ที่ระดับ 6.90 บาท บวก 0.40 บาท หรือ 6.15% ด้วยมูลค่าซื้อขาย 149.79 ล้านบาท

บล.เอเซีย พลัส ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (21 เม.ย.) ว่า วานนี้ (20 เม.ย.) คณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (คนร.) มีมติเห็นชอบการปรับแผนการจัดหารถเมล์ NGV ใหม่ของ ขสมก.จากเดิมมีแผนจะจัดหาทั้งหมด 3 พันคัน ด้วยงบฯ 1.3 หมื่นล้านบาท แต่ตัดงบฯลงเหลือ 4 พันล้านบาท โดยลดการจัดหารถเมล์ใหม่ NGV เหลือ 489 คัน แต่เพิ่มจัดหารถเมล์พลังงานไฟฟ้าใหม่อีก 200 คัน งบส่วนที่เหลือใช้ปรับปรุงรถเก่าอีก 672 คัน คาดจัดประมูลและลงนามในสัญญากับผู้ชนะได้ภายในเดือน ก.ค. 58

ประเด็นดังกล่าวเป็น Sentiment เชิงลบต่อราคาหุ้น เนื่องจาก PLANB มีสัดส่วนรายได้เกือบ 14% จากสื่อรถเมล์ โดยได้สิทธิให้บริการสื่อโฆษณาทั้งภายนอกและภายในของรถโดยสารประจำทางราว 2.5 พันคัน เป็นสิทธิในรถของ ขสมก.จนถึงปี 2570 จำนวน 1.5 พันคันในปัจจุบัน (แต่ใช้งานจริงอยู่เพียง 1 พันคัน) และได้สิทธิรวมถึงสิทธิในรถเมล์ใหม่ทั้งหมดหาก ขสมก.จัดซื้อรถเพิ่มเติมดังกล่าวข้างต้นไว้ด้วย

อย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยไม่ได้รวมกำลังให้บริการสำหรับแผนซื้อรถเมล์ 3 พันคันของ ขสมก. ไว้ในประมาณการปัจจุบัน และคาดว่าการเติบโตของสื่อขนส่งมวลชนของ PLANB จะเติบโตจากสื่อรถไฟฟ้า MRT เป็นหลัก ทั้งนี้ รายได้จากสื่อรถเมล์ซึ่งผู้ลงโฆษณาต้องมีรายจ่ายค่าทำสื่อ (รอบตัวรถ)

ด้วย อีกทั้ง ผู้ประกอบการไม่มั่นใจในการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในระยะสั้น ทำให้การใช้งานสื่อดังกล่าวชะลอตัวลงมาตั้งแต่งวด 3Q58 จนทำให้ PLANB มีกำลังให้บริการสื่อรถเมล์เหลือ 50% โดยประมาณอย่างไรก็ตาม ฝ่ายวิจัยได้ปรับลดประมาณการจากผลกระทบดังกล่าวไปก่อนหน้านี้แล้ว ดังนั้นการปรับแผนจัดหารถเมล์ใหม่ของ ขสมก.ในข้างต้นจึงไม่ส่งผลต่อประมาณการในปัจจุบันของฝ่ายฯที่คาดว่ากำไรปีนี้ทั้งปีจะเติบโต 35% มาอยู่ที่ 540 ล้านบาท จากเพิ่มกำลังการให้บริการโดยเฉพาะสื่อกลางแจ้ง ต่อเนื่องในปี 2558 ซึ่งจะรับรู้รายได้เต็มปีในปีนี้ และคาดจะขยายพื้นที่ให้บริการต่อเนื่องทั้งในและต่างประเทศ จึงยังคงมุมมองกำไรในปี 2560-63 คาดเติบโตเฉลี่ย 24% ต่อปี

ทั้งนี้ แนวโน้มผลประกอบการระยะสั้นงวด 1Q59 สดใส โดยในเบื้องต้นคาดจะมีกำไรเติบโต 43% yoy แต่ลดลง 26%qoq จากผลของฤดูกาล ขณะที่ราคาหุ้นปรับตัวลงเกือบ 6% ใน 2 วันทำการ เชื่อว่าได้สะท้อนประเด็นดังกล่าวไปแล้ว จนมี upside ราว 12.3% จากมูลค่าพื้นฐานในปัจจุบัน จึงแนะนำทยอย “ซื้อ”เป้า 7.30