108 เหตุผลโมนิก้าและทีมงาน

*วานนี้หลายคนอาจมองการเคลื่อนตัวของดัชนีเป็นแบบ m-shape หรือ u-shape และอาจเป็นแบบ w-shape ก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดพลาดแต่อย่างใด เพราะกระบวนการวิเคราะห์ดังกล่าวมีเหตุผลรองรับกันทั้งนั้น “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นเข้าใจหลักการลงทุนเสียก่อนว่า อย่าลืมมองความเป็นจริงรอบด้านที่เกิดขึ้น เพื่อพิจารณาผลกระทบที่เกิดขึ้นได้อย่างแม่นยำไงล่ะค่ะ


*วานนี้หลายคนอาจมองการเคลื่อนตัวของดัชนีเป็นแบบ m-shape หรือ u-shape และอาจเป็นแบบ w-shape ก็ไม่ใช่เรื่องที่ผิดพลาดแต่อย่างใด เพราะกระบวนการวิเคราะห์ดังกล่าวมีเหตุผลรองรับกันทั้งนั้น “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักเล่นเข้าใจหลักการลงทุนเสียก่อนว่า อย่าลืมมองความเป็นจริงรอบด้านที่เกิดขึ้น เพื่อพิจารณาผลกระทบที่เกิดขึ้นได้อย่างแม่นยำไงล่ะค่ะ

*งานนี้ไม่ต้องสนใจปัจจัยรอบด้านมากก็จริง แต่ต้องเข้าใจธรรมชาติของหุ้นที่ล้อไปกับดัชนี เพื่อประเมินผลได้ผลเสียจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ซึ่งเป็นข้อมูลพื้นฐานที่ “โมนิก้า” ใช้ประกอบการวิพากษ์วิจารณ์เป็นประจำ และจังหวะนี้ต้องไม่ลืมว่า การโค้งตัวลงของดัชนีคล้ายคลึงกับก่อนหน้านี้ พร้อมกันนั้นยังสื่อให้รู้ว่า จังหวะของชาวสวนกำลังมาถึงแล้วนะคะ

*สาเหตุที่ทำให้เดี๊ยนมั่นใจเช่นนั้นล้วนมาจากแพทเทิร์นทุกอย่างยังเหมือนเดิม บวกกับนักลงทุนสถาบันพากันเทขายอย่างหนักหน่วง จึงมีความเป็นไปได้ที่ดัชนีจะอ่อนตัวลงอีก บวกกับดัชนีอ่อนตัวหลุดแนวรับสำคัญที่บริเวณ 1,420 จุดลงมาเป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 1 เดือน “โมนิก้า” ถึงไม่แปลกใจหากดัชนีจะอ่อนตัวลงมาอีก เพราะทั้งทิศทาง และน้ำหนัก มาทางนี้แล้วน่ะสิ

*ด้วยเหตุนี้ข้อเสนอในช่วงหลังๆ ถึงมีแค่การแนะนำให้เล่นหุ้นรายตัว ใครชอบหุ้นตัวใหญ่ ต้องเข้าทำให้เร็วที่สุด ใครชอบหุ้นกลาง ต้องจับจังหวะช่วงเด้ง ส่วนใครที่ชอบหุ้นเล็ก ต้องกำหนดช่องเล่น 3 ช่อง แล้วออกของทันที “โมนิก้า” ถึงอยากให้เหล่านักเล่นลองประเมินการอ่อนตัวของดัชนีลงมาปิดที่ 1,408.71 จุด ลบไป 2.10 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.04  หมื่นล้านบาท มีอะไรต้องสนใจอีกไหมเจ้าค่ะ

*หากยังไม่เข้าใจ “โมนิก้า” ขอแนะนำให้ย้อนกลับไปดูแพทเทิร์นการทะยานขึ้นของหุ้น AOT ในช่วง 4 เดือนที่ผ่านมาเป็นอย่างไร? วันนี้รูปแบบดังกล่าวกำลังเดินตามรอยอีกครั้ง เดี๊ยนถึงย้ำเสมอว่า หุ้นแต่ละตัวมีลักษณะเฉพาะตัวที่แตกต่างกันไปก็จริง แต่แพลตฟอร์มการเคลื่อนตัวของหุ้นมักมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเอง เซียนหุ้นสำนักต่างๆ ถึงจะหันมาเล่นเทคนิคกันเยอะแยะไปหมด วานนี้ถึงเห็นหุ้นปิดเสมอตัวที่ 406 บาท เพราะคนซื้อเขารู้ว่า หุ้นจะขึ้นไปแถว 440 บาทอีกครั้งไงล่ะค่ะ

*ดาวเด่นอีกหนึ่งตัวที่ “โมนิก้า” อยากให้แฟนคลับจับตาดูให้ดีๆ ในเที่ยวนี้ก็คือ SUPER  ในเมื่อแผนงานทุกอย่างยังเป็นไปตามที่พรายกระซิบเล่าให้ฟัง ก็ถูกต้องแล้วที่ราคาหุ้นปรับตัวขึ้นสวนภาวะ งานนี้ไม่ต้องไปสืบเสาะแสวงหาประเด็นอื่นให้เสียเวลา แค่รู้ว่า ในแต่ละไตรมาสจะเห็นโปรเจ็กต์ใหม่เกิดขึ้นเรื่อยๆ เดี๋ยวหุ้นก็วิ่งกลับไปที่ 2 บาทในไม่ช้า ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 1.68 บาท บวกไป 0.14 บาท หรือขึ้นไป 9% ด้วยมูลค่า 1.16 พันล้านบาท มันเป็นผลมาจากความเชื่อที่ว่า ทำได้จริงๆ..หากทำไม่ได้ตามที่พูด ก็รูดลงไป 1 บาทเท่านั้นเองเจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ PERM ถูกปูฐานด้วยความเชื่อเรื่อง turnaround ตั้งแต่ต้นเดือน มี.ค.  ต่อเนื่องถึงเดือน เม.ย.  หุ้นถึงไต่ระดับขึ้นอย่างแข็งแกร่ง จากหุ้นที่มีค่าตัวแค่ 1.10 บาท ล่าสุดมีค่าตัวอยู่ที่ 1.56 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 14.70%  ด้วยมูลค่า 105 ล้านบาท มันเป็นจังหวะของนักลงทุนระยะสั้นอย่างแท้จริง งานนี้ไม่ได้เชียร์ให้ซื้อสุดลิ่มทิ่มประตู แค่อยากบอกเล่าเรื่องราวของหุ้นที่มีแนวโน้มเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นก็เท่านั้นเอง

*เหมือนกับกรณีของหุ้นเดินเรือ TTA มองในมุมของการแสดงความเชื่อเรื่องผลการดำเนินงาน “โมนิก้า” ถือเป็นอีกหนึ่งความน่าสนใจที่ผู้เล่นต้องชะเง้อตามอง ยิ่งหุ้นฟอร์มตัวรอบใหม่ด้วยการขึ้นแรงแล้วพักสองสามวันต่อนั้นเริ่มขยับขึ้นอย่างเป็นล่ำเป็นสัน โดยที่วานนี้หุ้นขึ้นมาปิดที่ 9.50 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 440% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 540 ล้านบาท มันเป็นจังหวะที่น่าเสี่ยงดูสักตั้ง เพราะแนวต้านถัดไปอยู่แถว 11 บาทนะจะบอกให้

*ข้อมูลดังกล่าวสอดคล้องกับการทะยานขึ้นของ GPSC พอทุกอย่างเข้าที่เข้าทางเป็นที่เรียบร้อย แรงซื้อก็ไหลมาเทมาไม่ขาดสาย จนความวิตกกังวลต่างๆ มลายหายไปภายใน 2 สัปดาห์ พร้อมกับหนุนราคาหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 29.25 บาท บวกไป 1.50 บาท บวกไป 5.40% ด้วยมูลค่า 995 ล้านบาท แถมเป็นการปิด new high นับตั้งแต่เข้าตลาดหุ้น “โมนิก้า” พูดได้ทันทีว่า มันเป็นเรื่องของจังหวะล้วนๆ หุ้นถึงมีโอกาสถีบตัวขึ้นไปอีกไงล่ะค่ะ

*ส่วนที่เห็นว่าเสี่ยงเต็มสองลูกตา “โมนิก้า” ให้ความสำคัญไปที่หุ้น VTE การขึ้นเที่ยวนี้วัดกันที่เรื่องเทคนิคล้วนๆ ปัจจัยพื้นฐานมีปะปนบ้างเล็กน้อย บวกกับประวัติความเป็นมาออกไปในโทนสีเทา จึงไม่ต้องแปลกใจที่เดี๊ยนยังมีอะไรบางอย่างติดอยู่ในใจ ก็ในเมื่อยังทำอะไรไม่ได้เป็นชิ้นเป็นอัน การที่หุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 3.28  บาท บวกไป 0.22 บาท หรือขึ้นไป 7% ด้วยมูลค่า 144 ล้านบาท ย่อมเป็นเรื่องที่ผู้เล่นต้องคิดเองว่า จะเอากันอย่างไร? (อย่าคิดลึกนะตัวเอง)

*ตบท้ายกันที่ AQUA จู่ๆ ออกเพรสข่าวเริ่ดหรูอลังการว่า จ่ายปันผล 100% พอตัวอีฉันไปเปิดข้อมูลดูจริงๆ กลับพบว่า 100% เป็นงบเฉพาะกาล พอมาดูงบรวมกลายเป็นว่า จ่ายปันผล 50% ของกำไรสุทธิแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นการเล่นคำที่ทำเอาคุณย่าของอีฉันน้ำหมากกระชอกออกจากปากแบบนี้ สงสัยอยากให้ทุกคนจดจำ ซีอีโอ ป้ายแดงอย่าง “สุมาลี อ่องจริต” ว่า แค่เริ่มต้นก็เสียวซ่านสุดๆ อยู่บริหารงานไปนานๆ จะโชว์ทีเด็ดมากกว่านี้ใช่อ๊ะป่าว!

Back to top button