รวมทีม 14 หุ้นตัวจี๊ด! กำไร Q1/59 ทะยาน-มีประเด็นบวกเฉพาะตัว
รวมทีม 13 หุ้น สุดแกร่ง! กำไร Q1/59 ทะยาน-มีประเด็นบวกเฉพาะตัว
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (26 เม.ย.) ว่ายังมีมุมมองเป็นกลางต่อตลาดวันนี้ คาด SET น่าจะ Sideways ด้วยบรรยากาศการลงทุนที่ยังคงซบเซา เนื่องจากนักลงทุนระมัดระวังการซื้อขายมากขึ้นจากทิศทางตลาดที่ยังไม่ชัดเจน แม้ตลาดเชื่อว่าเฟดจะไม่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยแต่นักลงทุนยังต้องการรอฟังแถลงการณ์ของเฟดที่มีต่อเศรษฐกิจและนโยบายการเงินของสหรัฐหลังการประชุมเฟด 27 เม.ย.59 สำหรับหุ้น Big Cap. หรือ Blue chips ขาดปัจจัยใหม่สนับสนุนทำให้ราคาหุ้นน่าจะค่อนข้างนิ่ง ขณะที่หุ้นขนาดกลางเล็กน่าจะเป็นสีสันกับตลาดมากขึ้น
อย่างไรก็ดียังเน้นเล่นเก็งกำไรหุ้นในกลุ่มที่แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 1/59 ออกมาดี ได้แก่ กลุ่มสินเชื่อรายย่อย (SAWAD ,MTLS) ได้ประโยชน์จากต้นทุนดอกเบี้ยต่ำ, กลุ่มโรงพยาบาล (BDMS ,VIBHA ,CHG) จากจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นและมีการขยายสาขา กลุ่มท่องเที่ยว (AOT, MINT) จำนวนนักท่องเที่ยวยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง,กลุ่มอาหาร (CPF) ได้อานิสงส์ราคาหมู ไก่ กุ้ง ฟื้นตัว และ (MALEE ,TKN) ได้ยอดส่งออกเพิ่ม, กลุ่มพลังงานฟื้นตัวแต่ยังไม่มากเพราะราคาน้ำมันดิบทรงตัว และหุ้นที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวและกำไรโดดเด่นอาทิ (BIG ,ASEFA ,KCE และ EPG)
หุ้น/ข่าว/ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) ส่งออกไทยเดือนมี.ค เพิ่มขึ้น 1.3%จากปีก่อนดีกว่าตลาดคาดว่าจะหดตัว 5%จากปีก่อนแต่ต่ำกว่าเดือนก.พ ที่เพิ่มขึ้น 10.27%จากปีก่อนแม้การส่งออกฟื้นตัวต่อเนื่อง 2 เดือน แต่ส่วนใหญ่เป็นผลจากการส่งออกทองคำ ซึ่งหากไม่รวมการส่งออกทองคำ มูลค่าการส่งออกเดือนมี.ค. น่าจะติดลบ แต่ปัจจัยนี้ตลาดรับรู้ไปก่อนหน้านี้แล้วจึงไม่มีผลต่อตลาดโดยรวม
(-) เมื่อคืนราคาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย ปรับลง 2.5% อยู่ที่ US$42.64/บาร์เรล จากความกังวลต่อปริมาณการผลิตน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น หลังจากที่ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นเกือบ 5% ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยกำลังผลิตใหม่เพิ่มขึ้นมาจากคูเวตที่กลับมาผลิตน้ำมันดิบปกติและอิหร่านผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ไม่สามารถชดเชยกับสหรัฐผลิตน้ำมันลดลงเพียงเล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตามผลกระทบที่จะมีต่อหุ้น PTT และ PTTEP ไม่มากเพราะในช่วงที่ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นราคาหุ้นทั้งสองบริษัทไม่เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกับรคาน้ำมันในตลาด NYMEX แต่จะเคลื่อนไหวตามราคาน้ำมันดิบในตลาดล่วงหน้าในเอเชียมากกว่า
(+) ค่าเงินดอลลาร์จะเริ่มกลับมาอ่อนค่าอีกครั้งหลังเฟดไม่มีการปรับขึ้นดอกเบี้ยในประชุม FOMC วันที่ 26-27 เม.ย นี้ ซึ่งอาจจะช่วยหนุนราคาสินค้าโภคภัณฑ์ ทองคำและน้ำมันดิบให้ปรับตัวสูงขึ้น
(+) KCE (ซื้อ/เป้าใหม่ 95 จากเดิม 88) – คาดกำไรไตรมาส 1/59 กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 14%จากไตรมาสก่อนและ 57%จากปีก่อนอยู่ที่ 720 ล้านบาท ทำสถิติสูงสุดตั้งแต่ก่อตั้งบริษัทมา KCE เป็นผู้ผลิตแผงวงจรไฟฟ้า (PCB) รายใหญ่ที่สุดในเอเชียและเป็นเบอร์ 5 ของโลก
(+) TPCH (ซื้อ/เป้า 23.50) – คาดไตรมาส 1/59 มีกำไรสุทธิ 31 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2,215% จากปีก่อนแต่ลดลง 9%จากไตรมาสก่อน เนื่องจากโรงงานแม่วงมีหยุดบำรุงรักษาเครื่องจักร 8 วัน นอกจากนี้ยังได้ปรับลดประมาณการปีนี้ลง 15% และปีหน้า 15% จากการเลื่อนกำหนด COD โรงไฟฟ้าชีวมวลแห่งที่ 4 5 และ 6 ออกไปอีก 1 ไตรมาส ขณะที่ยังให้ราคาเป้าหมายเท่าเดิมที่ 23.50 บาท (อิง DCF@WACC 6%)
(+) BCP (ซื้อ/เป้า 37) – คาดไตรมาส 1/59 จะมีผลขาดทุนสุทธิ 90 ล้านบาท เนื่องจากมีหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่น 46 วันและมีผลขาดทุนจากสต๊อก 1.4 พันล้านบาท นอกจากนี้ Market GRM ปรับลงเหลือ US$5.65/บาร์เรล จาก US$8/บาร์เรล ในไตรมาส 4/58 อย่างไรก็ตามคาดไตรมาส 2/59 จะกลับมามีกำไรปกติ ส่วนประเด็นหยุดซ่อมบำรุงและ GRM ที่ปรับลงได้สะท้อนในราคาหุ้นแล้ว ดังนั้นจึงยังแนะนำ ซื้อ/เป้า 37 บาท