น้ำมันดิบปิดพุ่งหลังสต็อกสหรัฐฯลดลง-เฟดตรึงดอกเบี้ย

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (27 เม.ย.) หลังเฟดมีมติคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเมื่อวานนี้ พร้อมส่งสัญญาณว่ายังไม่รีบปรับขึ้นดอกเบี้ย นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และรายงานของสถาบันปิโตรเลียมอเมริกัน (API) ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 1.29 ดอลลาร์ หรือ 2.9% ปิด (27 เม.ย.) ที่ 45.33 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 1.44 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 47.18 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นขานรับที่ประชุมคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงินของเฟดที่ตัดสินใจคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ 0.25-0.50% ตามที่ตลาดการเงินคาดการณ์กันไว้ และส่งสัญญาณว่ายังไม่รีบปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยระบุว่า กิจกรรมทางด้านเศรษฐกิจชะลอตัวลง ขณะที่การขยายตัวด้านการใช้จ่ายในภาคครัวเรือนปรับตัวลดลง ส่วนเงินเฟ้อคาดว่าจะยังคงอยู่ต่ำกว่าเป้าหมายในระยะยาวของเฟดที่ระดับ 2% โดยถูกกระทบจากการลดลงของราคาน้ำมันและดัชนีราคาผู้บริโภค

นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนหลังจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และรายงานของ API ที่ระบุว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลง 1.1 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลของ API ออกมาสวนทางกับที่สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 540.6 ล้านบาร์เรล โดยตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล

ขณะเดียวกัน EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันเบนซินเพิ่มขึ้น 1.6 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่น ซึ่งรวมถึงฮีตติ้งออยล์และน้ำมันดีเซล ลดลง 1.7 ล้านบาร์เรล นอกจากนี้ EIA รายงานว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐยังคงปรับตัวลง โดยลดลงสู่ 8,938,000 บาร์เรล/วัน จากที่สูงถึง 9.7 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนก.พ.2015

Back to top button