น้ำมันดิบปิดบวกหลังสหรัฐฯเผยยอดการผลิตลดลง

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (28 เม.ย.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลง หลังจากผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (จีดีพี) ของสหรัฐชะลอตัวลงในไตรมาสแรก


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 70 เซนต์ หรือ 1.5% ปิด (28 เม.ย.) ที่ 46.03 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 96 เซนต์ หรือ 2% ปิดที่ 48.14 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนหลังจาก EIA เปิดเผยว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐยังคงปรับตัวลงในสัปดาห์ที่แล้ว โดยลดลงสู่ 8,938,000 บาร์เรล/วัน จากระดับสูงสุดถึง 9.7 ล้านบาร์เรล/วันในเดือนก.พ.ปีที่แล้ว ขณะเดียวกัน EIA รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 2 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 540.6 ล้านบาร์เรล แต่ตัวเลขดังกล่าวต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 2.4 ล้านบาร์เรล

นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นแรงกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาน้ำมันดิบ โดยเมื่อดอลลาร์อ่อนค่าลงนั้น จะส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบมีราคาลดลงและน่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่นๆ ทั้งนี้ ดอลลาร์อ่อนค่าลงหลังจากกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการจีดีพีเบื้องต้นในไตรมาสแรก โดยระบุว่าจีดีพีขยายตัวเพียง 0.5% ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ไตรมาสแรกของปี 2014 ขณะที่นักวิเคราะห์ไว้คาดการณ์ก่อนหน้านี้ว่า จีดีพีในไตรมาสแรกจะขยายตัว 0.7%

Back to top button