แขกที่ไม่ได้รับเชิญ พลวัต 2016

ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น นายฮารุฮิโกะ โครูดะ เปรียบเปรยไว้ดีว่า ค่าเงินเยนยามที่ควบคุมได้ยากในช่วงหลายเดือนมานี้ของญี่ปุ่นคือแขกที่ไม่ได้รับเชิญและส่งผลให้การแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นมีโอกาสที่จะฟื้นตัวช้าลง เนื่องจากอาเบะโนมิกส์ทำงานไม่ได้ผล จากอุปสรรคค่าเงินเยน


วิษณุ โชลิตกุล

 

ผู้ว่าการธนาคารกลางญี่ปุ่น นายฮารุฮิโกะ โครูดะ เปรียบเปรยไว้ดีว่า ค่าเงินเยนยามที่ควบคุมได้ยากในช่วงหลายเดือนมานี้ของญี่ปุ่นคือแขกที่ไม่ได้รับเชิญและส่งผลให้การแก้ปัญหาทางเศรษฐกิจของญี่ปุ่นมีโอกาสที่จะฟื้นตัวช้าลง เนื่องจากอาเบะโนมิกส์ทำงานไม่ได้ผล จากอุปสรรคค่าเงินเยน 

ค่าเงินเยนแข็งแกร่งเพิ่มขึ้นถึง 13% ในหลายเดือนมานี้ เทียบกับค่าของดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 18 เดือน สร้างความเสี่ยงและความไม่แน่นอน ที่คาดว่าอาจจะทำให้ญี่ปุ่นกลับไปสู่ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำครั้งที่สองภายในสองปี และ ทำให้เป้าหมายเงินเฟ้อห่างไกลออกไปยิ่งขึ้นทุกขณะ ตัวเลขดัชนีราคาผู้บริโภคที่ถดถอยถึง 0.3% ในเดือนมีนาคม ถือว่าเป็นจุดตกต่ำที่สุดในรอบ 3 ปี

  ขณะเดียวกัน แขกที่ไม่ได้รับเชิญตามนิยามของนายคูโรดะก็ทำการตระเวนเยือนตลาดเก็งกำไรไปทั่ววานนี้เช่นกัน ทำให้กราฟของตลาดหุ้นเสียหายมากขึ้น แม้จะได้รับอานิสงส์จากการอ่อนค่าของดอลลาร์และการไหลเข้าของเงินทุนเก็งกำไร

ที่ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้และฮ่องกงวานนี้ ถูกทดสอบจากแขกที่ไม่ได้รับเชิญเช่นกันเมื่อดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทำร่วมกับไฉซิน ปรับตัวลงแตะระดับ 49.4 ในเดือนเม.ย. จากเดือนมี.ค.ที่ระดับ 49.7 

ดัชนี PMI ที่เคลื่อนไหวต่ำกว่าระดับ 50 บ่งชี้ว่า ภาคการผลิตของจีนยังคงอยู่ในภาวะหดตัว ทำให้ตลาดหุ้นฮ่องกงที่ไม่มีภูมิคุ้มกันอื่นใด ปรับตัวลง 390.11 จุด ในขณะที่เซี่ยงไฮ้ บรรดากองทุนพยุงหุ้นของจีน ออกมาดันตลาดหุ้นให้บวกตามสัญญาณที่ออกมาจากประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน ซึ่งได้ออกมาให้คำมั่นว่า จะสนับสนุนการดำเนินการที่เหมาะสมในตลาดหุ้นจีน ยังผลให้ มีแรงซื้อเข้ามาดันดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตพุ่ง 54.32 จุด

อย่างที่ทราบกันดี เมื่อใดที่เศรษฐกิจจีนเริ่มป่วย ตลาดอื่นก็ต้องเตรียมตัวเข้าห้องไอซียู กันเป็นแถว โดยเฉพาะตลาดหุ้นยุโรปที่เปราะบางอยู่เดิม เปิดตลาดอ่อนตัวจากความกังวลเกี่ยวกับผลประกอบการของบริษัทต่างๆ ที่อ่อนตัวลง จากกำไรสุทธิของธนาคารขนาดใหญ่สองแห่งคือ เอชเอสบีซี โฮลดิ้งส์ และ ยูบีเอส ที่ลดลงรุนแรง เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปีที่แล้ว รวมทั้งดัชนี PMI ของจีนที่ปรับตัวลงด้วยเช่นกัน ส่งผลต่อราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเมื่อวานนี้ที่มีความพยายามจะรีบาวด์หลังจากร่วงลงก่อนหน้านั้นหนึ่งวัน ให้ร่วงลงต่อไปอีกโดยไม่ได้สนใจกับค่าดอลลาร์ที่อ่อนแอและไหลออกจากสหรัฐฯไปเก็งกำไรในตลาดอื่นๆ

การร่วงลง 3 วันต่อเนื่องของราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก (ท่ามกลางความพยายามที่จะรีบาวด์กลับเป็นขาขึ้นในการซื้อขายในตลาดเก็งกำไรระหว่างวัน) เริ่มส่งสัญญาณชัดเจนว่าราคาน้ำมันที่เป็นอยู่มีสภาพเป็น ราคาฟองสบู่ จากแรงเก็งกำไรของกองทุนเฮดจ์ฟันด์มากกว่า หลังจากที่อิรักเปิดตัวเลขผลผลิตน้ำมันเดือนเมษายน เข้าใกล้สถิติสูงสุดของเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมาอีกครั้ง สะท้อนภาวะน้ำมันล้นตลาดยังดำเนินต่อไป

นักวิเคราะห์ตลาดน้ำมันดิบตั้งคำถามว่า ตัวเลขจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ใช้งานในสหรัฐฯที่ลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 6 ติดต่อกัน จนถึงสัปดาห์ล่าสุดที่ผ่านมา สู่ระดับ 332 แท่น ไม่สามารถเทียบได้เลยกับตัวเลขผลผลิตน้ำมันดิบของกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) ที่เพิ่มเพิ่มขึ้น 484,000 บาร์เรลต่อวัน เป็น 33.217 ล้านบาร์เรลต่อวัน ในเดือนเมษายนที่ผ่านมา และคาดว่ายังจะเพิ่มขึ้นในเดือนพฤษภาคมนี้อีก หากแนวโน้มการประชุมหาทางออกจากวิกฤติน้ำมันล้นตลาดโลกยังไม่มีข้อยุติ

ข้อมูลเกี่ยวกับเทคโนโลยีการผลิตน้ำมันในสหรัฐฯ ยืนยันให้เห็นว่าโอกาสที่พวกเขาจะทำการผลิตออยล์เชลล์ครั้งใหม่ หากราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นไปเหนือระดับ 50 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เป็นสิ่งที่ไม่ได้ยากลำบากอะไรเลย เพราะพวกบริษัทต่างๆ เริ่มเรียนรู้ที่จะควบคุมต้นทุนได้ชำนาญขึ้น

ความเปราะบางครั้งใหม่ของตลาดน้ำมันดิบ ที่มีความอ่อนไหวและเริ่มไม่เชื่อว่าราคาน้ำมัน จะวิ่งต่อขึ้นไปได้อีกไกลเนื่องจากผลผลิตน้ำมันล้นตลาดต่อเนื่อง หลังจากเมื่อวานนี้นักวิเคราะห์ในธุรกิจน้ำมันดิบของสหรัฐฯได้ออกมายืนยันอีกครั้งหนึ่งแล้วว่าปริมาณอุปสงค์ในตลาดเกิดใหม่ของโลกไม่ได้เพิ่มขึ้นตามที่คาดหมายกันไว้ก่อนหน้านี้

สำหรับดัชนีตลาดหุ้นไทย ความพยายามของนักลงทุนต่างชาติและสถาบัน เพื่อขับเคลื่อนให้ตลาดเดินหน้าต่อเหนือแนวรับที่ 1,400 จุดในช่วงเปิดตลาดเช้าวานนี้ โดยอาศัยการไหลเข้าของทุนและค่าเงินบาทที่แข็งให้เป็นประโยชน์ ถูกบรรยากาศจากจีนและราคาน้ำมันดิบที่ร่วงในภาคบ่ายของตลาด ดันให้ดัชนีร่วงหลุดมาใต้แนวรับดังกล่าวอย่างง่ายดาย

สัญญาณทางเทคนิค ระบุชัดเจนขึ้นว่า ทิศทางของตลาดหุ้นไทยเดินมาถึงทางแพร่งสำคัญอีกครั้ง เพราะค่าบาทแข็ง-ดอลลาร์อ่อน แต่ราคาน้ำมันดิ่งลงกลางคันบ่ายนี้ กลายเป็นแรงซื้อ และแรงขาย ต่อสู้กันไปมา

ในขณะที่ กราฟ SET และกราฟ set50 futures ก็คาบเส้น บ่งบอกว่า โอกาสขึ้น-ลงเท่ากับ 50-50 เท่ากัน โดยที่แนวโน้มการเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นในวันนี้ ซึ่งเป็นวันทำการสุดท้ายของสัปดาห์ก่อนวันหยุดยาว คาดว่าดัชนีจะแกว่งตัวทิศทางลงมากกว่าขึ้น แต่อาจไม่มาก เนื่องจากต่างชาติชะลอการซื้อขาย และปัจจัยพื้นฐานไม่มีอะไรเพิ่มเติม เว้นเสียแต่หุ้นบางรายการ อาจจะพุ่งสวนตลาดได้

เหตุผลที่ตลาดหุ้นไทยและตลาดหุ้นทั่วโลกจะไม่สามารถเดินหน้าต่อได้ไกล มาจากจีน ที่เริ่มแสดงอาการเปราะบางมากขึ้นเป็นระยะๆ ยังมาจากการที่อุปทานน้ำมันดิบในตลาดยังล้นเกินกว่าอุปสงค์จนไม่เห็นสัญญาณว่าตลาดจะเข้าสู่ดุลยภาพได้อย่างไร

หากว่าราคาน้ำมันดิบที่จะร่วงลง เป็นแขกที่ไม่ได้รับเชิญหลักของตลาดเก็งกำไรยามนี้ ในยามที่ดัชนีเศรษฐกิจทั่วโลกยังคงเปราะบาง ความพยายามของเฟดฯในการใช้มาตรการตรึงอัตราดอกเบี้ย ที่ส่งผลให้ดอลลาร์อ่อนค่าลง จนราคาสินค้าโภคภัณฑ์วิ่งขึ้นอย่างที่ผ่านมา 2 เดือน จะเป็นแค่การซื้อเวลาเลื่อนปัญหาออกไป ไม่ใช่การเกาถูกที่คันใช่หรือไม่

คำตอบยังคลุมเครือเกินไป และนั่นเป็นสิ่งที่นักลงทุนในตลาดต้องเพิ่มความระวังมากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่า

 

Back to top button