เหนือการเมือง (หลายขั้น)แฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

ใครก็ว่าธุรกิจสิ่งพิมพ์กำลังจะตกยุค หรือไม่ก็เป็นตะวันตกดิน เพราะมีสื่อออนไลน์ที่ไม่ต้องใช้กระดาษและแท่นพิมพ์เข้ามาแทนที่ เบียดขับธุรกิจพ้นยุคให้ล้มหายตายจากไป…แต่ข้อสรุปนี้ใช้การไม่ได้กับบริษัทเจ้าของโรงพิมพ์ใหญ่อย่าง บริษัท ที.เค.เอส. เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ TKS

ไม่เชื่อก็ดูงบการเงินอันแข็งแกร่งของบริษัทนี้ดู ก็จะเห็นชัดเจน

แม้ขาข้างหนึ่งของ TKS จะมีการลงทุนในบริษัทเครือข่ายด้านออนไลน์ที่ถือว่าช่ำชอง อย่างบริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด หรือ SYNNEX แต่รากฐานดั้งเดิมที่ยังเหนียวแน่น คือ ธุรกิจผลิตเครื่องเขียนและอุปกรณ์สำนักงาน และจำหน่ายกระดาษพิมพ์ต่อเนื่องสำหรับคอมพิวเตอร์ ยังคงให้น้ำนมเป็นทองคำต่อมาจนถึงปัจจุบันและในอนาคต

รายได้อาจจะทรงตัว แต่กำไรเติบโตต่อเนื่องทุกปี…นี่คือหุ้นปันผลที่ราคาไม่หวือหวา วอลุ่มซื้อขายแต่ละวันไม่เยอะ แต่ดูงบแล้ว น่าเหมาะสำหรับเก็บถือกันยาวๆ…ตามสไตล์วีไอ เขาล่ะ

กิจการดี มีสภาพคล่องทางการเงิน มีการจ่ายปันผล ไม่มีอะไรโดดเด่น เพราะทิศทางอุตสาหกรรม ก็คงอยู่อย่างนี้ไปเรื่อยๆ ไม่น่าจะโตไปมากกว่านี้ แต่…ถ้ามีงานใหญ่ทีไร มีงานเข้ามาโดดเด่นเป็นโบนัสเสมอ

ล่าสุดก็เช่นกัน

ท่ามกลางข้อถกเถียงกันว่า การเมืองไทยจะมีทิศทางไปทางไหน จะเป็นอำมาตยาธิปไตย หรือจะกระจายศูนย์ให้คนมีส่วนร่วมมากน้อยแค่ไหน…มันก็ต้องเขียนร่างรัฐธรรมนูญกันใหม่…จะรับหรือไม่รับก็ถกกันไปเรื่อยๆ ตามสไตล์สังคมไทย

ท่ามกลางข้อถกเถียงทางการเมือง (หรือการชาติ) หรือกันโกง…(จริงหรือเปล่ายังไม่มีใครรู้)…ก็มีสิ่งหนึ่งที่เหนือการเมืองเกิดขึ้น นั่นคือ งานพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญจำนวนหลายล้านเล่มเพื่อให้ประชาชนอ่านและพิจารณากัน

มูลค่าของการตีพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญเพื่อแจกจ่ายประชาชนนั้น ว่ากันว่ามูลค่าประมาณ 300 ล้านบาททีเดียว ในเวลาไม่กี่วัน ใครได้งานก็เรียกว่า ”บุญหล่นทับ”

ในฐานะเจ้าเก่าเล่ายี่ห้อ TKS เป็นหนึ่งในตัวเก็งรายสำคัญอย่างเลี่ยงไม่พ้น

งานนี้ หัวเรือใหญ่อย่าง ทายาทรุ่นที่สองของธุรกิจอย่าง  นางสาวศิริวรรณ สุกัญจนศิริ …คนข้างหมอนของนายสุพันธุ์ มงคลสุธี อดีตประธานสภาอุตสาหกรรม…  ในฐานะกรรมการผู้จัดการของ TKS จึงออกโรงมายืนยันว่า พร้อมเต็มที่สำหรับรับงานใหญ่นี้…ไม่มีเหลือง ไม่มีแดง มีแต่งานพิมพ์ของถนัด…อิ อิ อิ

TKS เสนอตัวเข้ารับงานพิมพ์ร่างรัฐธรรมนูญ โดยเชื่อว่างานที่มีขนาดใหญ่ขนาดนี้ และต้องการความเร็วสูงกว่าธรรมดา  โรงพิมพ์ของรัฐจะไม่สามารถทำได้  เนื่องจากในเบื้องต้นจะใช้เวลาในการจัดทำไม่เกินเดือนพฤษภาคม และเดือนมิถุนายนภาครัฐจะต้องดำเนินการแจกเอกสารดังกล่าวให้กับประชาชนแล้ว เพื่อให้ประชาชนพิจารณานำไปลงประชามติเดือนสิงหาคม

ศิริวรรณระบุว่า ขั้นตอนดังกล่าว  น่าจะรู้ผลว่าใครจะเป็นผู้ได้งานดังกล่าวในช่วงประมาณ 2 สัปดาห์ข้างหน้านี้ โดยเบื้องต้นบริษัทประเมินว่ามีโอกาสที่จะได้งานดังกล่าว เนื่องจากก่อนหน้านี้เคยได้รับงานรูปแบบนี้จากภาครัฐมาแล้ว คาดว่ามูลค่าโครงการจะไม่เกิน 300 ล้านบาท เนื่องจากภาครัฐมีการปรับลดขนาดของตัวเอกสารลง

งานดังกล่าว ถือเป็นโอกาสที่หาไม่ได้ง่าย และจะช่วยให้ผลการดำเนินงานในปี 2559 บริษัทประเมินรายได้ไว้ที่ประมาณ จำนวน 1,650 ล้านบาท หรือเติบโต 20% จากปี 2558 ที่มีรายได้ 1,539 ล้านบาท ก้าวกระโดดขึ้นไปอีกไม่ต้องเหนื่อยยากกับความพยายามขยายฐานลูกค้าใหม่  เพียงแค่อาศัยการบริหารคลังสินค้า และงานพริ้นติ้งให้ดีก็ไปได้ฉลุย

งานนี้ ถือเป็นโอกาสทองสำหรับ TKS นอกเหนือจากงานไปรษณียบัตรทายผลฟุตบอลยูโร ซึ่งจะมีการแข่งกันภายในเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม 2559

ใครจะสีเสื้ออะไร หรือถือหางใคร งานนี้ TKS และ ศิริวรรณ ขอวางตัวเหนือการเมือง

ขอห้อยหลวงพ่อโกย (เงิน) อย่างเดียว…เรื่องอื่นว่ากันทีหลัง