บลจ.กสิกรไทย ออกกองไฮยิลด์บอนด์ผลตอบแทน 2.10% ขายถึง 9 พ.ค.นี้
บลจ.กสิกรไทย ออกกองไฮยิลด์บอนด์ ผลตอบแทน 2.10% ขายถึง 9 พ.ค.นี้
นายนาวิน อินทรสมบัติ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) เปิดเผยถึงสถานการณ์การลงทุนว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 0.25-0.50% ซึ่งเป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ โดย Fed ได้แถลงว่าจะไม่เร่งรีบในการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ขณะที่ผลการประชุมธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ -0.1% และคง QE ไว้ที่ 80 ล้านล้านเยน
ด้านปัจจัยในประเทศ สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ได้ปรับลดคาดการณ์ GDP ปีนี้เหลือ 3.3% จากเดิมที่ 3.7% โดยคาดว่าการส่งออกจะหดตัว -0.7% ทั้งนี้ในภาวะที่ตลาดการเงินทั่วโลกยังคงมีความผันผวนต่อเนื่อง และตลาดยังไม่มีปัจจัยใหม่ๆ เข้ามาสนับสนุน บลจ.กสิกรไทยจึงแนะนำทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่ยอมรับความเสี่ยงได้ไม่มากนัก โดยสามารถเลือกลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้ประเภทกำหนดอายุโครงการเพื่อโอกาสล็อกผลตอบแทนที่แน่นอน พร้อมทั้งสามารถพักเงินระหว่าง 3-6 เดือน เพื่อรอดูจังหวะการลงทุนต่อไปได้
ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ได้เปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน ซีดับบลิว (KEFF6MCW) ในระหว่างวันที่ 3-9 พฤษภาคม 2559 โดยประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนคาดว่าจะได้รับที่ 2.10% ต่อปี และกองทุนเปิดเค เอ็นแฮนซท์ ตราสารหนี้ต่างประเทศ 3 เดือน เอซี (KEFF3MAC) ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนคาดว่าจะได้รับที่ 2.00% ต่อปี โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี โดยผู้ลงทุนต้องลงทุนด้วยเงินขั้นต่ำ 1,000,000 บาท
นอกจากนี้ บลจ.กสิกรไทย ยังได้เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนต่อเนื่องให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้แบบที่มีกำหนดอายุโครงการ (Fixed Term Fund) ของบลจ.กสิกรไทย ซึ่งเมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจัดการจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนที่ผู้ลงทุนเลือกได้กองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุน คือ กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค เอ็มพลัส (K-MPLUS) ซึ่งอยู่ในกลุ่มกองทุนรวมตราสารหนี้ ของบลจ.กสิกรไทย