SPALI เหมาะลงทุนกลาง-ยาว

นักวิเคราะห์มองว่า SPALIจะมีรายได้ในไตรมาส 1 ปี 59 อยู่ที่ 6,209 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24 จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่จะลดลง 4.4% จากงวดเดียวกันของไตรมาสก่อน โดยได้แรงหนุนจาก Presales ที่ทำได้ดีถึง 5,294 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนของแนวราบที่เด่นถึง 70% และคอนโดมิเนียมที่ 30% โดยยอดของ ไตรมาส 1 ปี 59 คิดเป็น 23% ของเป้าที่ตั้งไว้ในปีนี้ที่ 24,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน


–คุณค่าบริษัท–

 

นักวิเคราะห์มองว่า บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALIจะมีรายได้ในไตรมาส 1 ปี 59 อยู่ที่ 6,209 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 24 จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่จะลดลง 4.4% จากงวดเดียวกันของไตรมาสก่อน โดยได้แรงหนุนจาก Presales ที่ทำได้ดีถึง 5,294 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนของแนวราบที่เด่นถึง 70% และคอนโดมิเนียมที่ 30% โดยยอดของ ไตรมาส 1 ปี 59 คิดเป็น 23% ของเป้าที่ตั้งไว้ในปีนี้ที่ 24,500 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.5% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ประกอบกับมีโครงการคอนโดมิเนียมใหม่เริ่มส่งมอบ 2 โครงการคือ Supalai Vista@Tiwanon และ Supalai City Resort รัชโยธิน พหลโยธิน 32 และเราคาดอัตราการทำกำไรขั้นต้นที่ 38.8% ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ยังทรงตัว ดังนั้นคาดกำไรสุทธิที่ 1,415 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 57% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 3% จากงวดเดียวกันของไตรมาสก่อน)

ขณะที่ผลจากแรงหนุนของมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์ทำให้คาดว่าใน เม.ย. 59 SPALI มียอดส่งมอบสูงถึง 4,000 ล้านบาท โดยทำยอด 1,000 ล้านบาทได้ในวันที่ 28 เม.ย. เพียงวันเดียว ดังนั้นคาดว่าแนวโน้มผลประกอบการของไตรมาส 2 ปี 59 จะคงแข็งแกร่งใกล้เคียงไตรมาส 1 ปี 59 และคาดว่าหลังหมดมาตรการในเดือน พ.ค. – มิ.ย. สำหรับ SPALI ยอดจะอ่อนตัวไม่มากรวมทั้งมียอด Backlog จากคอนโดรอส่งมอบ

ทั้งนี้ คงประมาณการรายได้ของปีนี้ที่ 22,480 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น 5.2% จากงวดเดียวกันของปีก่อน) มี Secured Revenue แล้ว 79% และกำไรสุทธิของปีนี้จะเติบโต 12.1% จากงวดเดียวกันของปีก่อน เท่ากับ 4,873 ล้านบาท โดยสัดส่วนการบันทึกรายได้น้ำหนักจะอยู่ในครึ่งแรกของปี 59 ประมาณ 60% และ 40% ในครึ่งหลังของปี 59

อีกทั้งมีการปรับประมาณการรายได้และกำไรสุทธิของในปี 2560 เพิ่มขึ้น 8% เพื่อสะท้อน Backlog ที่รอส่งมอบในปี 2560 ที่สูงถึงกว่า 12,000 ล้านบาท Secured Revenue ที่ 47% ประกอบกับคาดว่า SPALI จะสามารถเติมยอด Backlog ได้จากโครงการคอนโดมิเนียมและยอดแนวราบ โดยเราคาดรายได้ของปี 2560 ที่ 25,532 ล้านบาท( เพิ่มขึ้น13.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน) และกำไรสุทธิที่ 5,507 ล้านบาท (เพิ่มขึ้น13% จากงวดเดียวกันของปีก่อน)

ส่วนผลการดำเนินงานสำหรับปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2558 บริษัทมีรายได้รวมขยับขึ้นมาอยู่ที่ 21,523.16 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 18,671.39 ล้านบาท แต่ขณะที่กำไรลดลงเหลือ 4,348.72 ล้านบาท หรือ 2.53 บาทต่อหุ้น จากงวดเดียวกันของปีก่อน 4,478.11 ล้านบาท หรือ 2.61 บาทต่อหุ้น อันเนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นลดลง เหตุจากต้นทุนที่ดินและค่าก่อสร้างมีการปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น

ที่สำคัญก็คือ ฐานะทางการเงินของบริษัทค่อนข้างแข็งแกร่งจริงๆ เพราะมีสินทรัพย์หมุนเวียนมากถึง 44,003.15 ล้านบาท เมื่อนำมาเทียบกับหนี้สินหมุนเวียนเพียง 10,410.77 ล้านบาท ได้ค่า Current Ratio อยู่ที่ระดับ 4.23 เท่า ถือว่า สภาพคล่องทางการเงินมีมากพอสมควร ขณะที่ปัญหาหนี้สินก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง แม้บริษัทมีหนี้สินรวม 26,837.16 ล้านบาท เมื่อนำมาเทียบกับส่วนของผู้ถือหุ้น 20,450.03 ล้านบาท ได้ค่า D/E อยู่ที่ระดับ 1.32 เท่า ถือว่าหนี้สินยังยอมรับได้ และเป็นหนี้ในการลงทุน

ในขณะที่นักวิเคราะห์บล. เมย์แบงก์ กิมเอ็ง เชื่อว่า SPALI จะเป็น 1 ในหุ้นที่ใน 12 เดือนข้างหน้าจะสามารถให้ผลตอบแทนที่โดดเด่นทั้งจาก Capital Gain และ Dividend Yield โดยประเมินมูลค่าที่เหมาะสมด้วยวิธี PER ที่ 7.4 เท่า ราคาเป้าหมาย 12 เดือนเท่ากับ 23 บาทหุ้น ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนเป็น “ซื้อ”

 

ผู้ถือหุ้นรายใหญ่

1.นายประทีป ตั้งมติธรรม 408,982,344 หุ้น 23.83%

2.นางอัจฉรา ตั้งมติธรรม 90,188,200 หุ้น 5.25%

3.บริษัท ไทยเอ็นวีดีอาร์ จำกัด 81,157,656 หุ้น 4.73%

4.CHASE NOMINEES LIMITED 76,188,000 หุ้น 4.44%

5.SKANDINAVISKA ENSKILDA BANKEN S.A. LUXEMBOURG 70,562,200 หุ้น 4.11%

 

รายชื่อกรรมการ

1.นาย ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการ

2.นาย ประทีป ตั้งมติธรรม ประธานกรรมการบริหาร

3.นาย ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ

4.นาย ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการ

5.นาย อธิป พีชานนท์ กรรมการ   

Back to top button