6 หุ้นอสังหาฯPE ต่ำ!

“ข่าวหุ้นธุรกิจ”ได้ทำการคัดเลือกหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างที่มีค่า PE ต่ำกว่า ค่า PE ของตลาดที่ระดับ 20.63 เท่า พร้อมมีหลักเกณฑ์ในการอิงจากบทวิเคราะห์ของนักวิเคราะห์ที่ยังคงแนะนำ “ซื้อ”


–เส้นทางนักลงทุน–

 

ข่าวหุ้นธุรกิจได้ทำการคัดเลือกหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้างที่มีค่า PE ต่ำกว่า ค่า PE ของตลาดที่ระดับ 20.63 เท่า พร้อมมีหลักเกณฑ์ในการอิงจากบทวิเคราะห์ของนักวิเคราะห์ที่ยังคงแนะนำ “ซื้อ”

ผลจากการสำรวจข้อมูล ณ วันที่ 03 พ.ค. 59 พบว่า มีหุ้นที่ค่า PE ต่ำ! และมีความน่าสนใจอยู่ 6 ตัว เหตุเพราะมีบทวิเคราะห์ที่ค่อยซัพพอร์ตว่าราคาหุ้นยังคงสามารถปรับตัวขึ้นไปได้ หรือที่เรียวว่ายังมีอัพไซส์เหลืออยู่ให้นักลงทุนเข้าไปไล่เก็บหุ้นนั่นเอง

สำหรับตัวแรกเป็น SIRIหรือ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) โดยมีค่า PE อยู่ที่ 6.28 เท่า ซึ่งถือว่าราคาหุ้นยังไม่แพง ขณะที่นักวิเคราะห์บล.ไอร่า มองผลการดำเนินงานหลักปี 59 เติบโตต่อเนื่องจากปี 58 และคาดความแข็งแกร่งทางธุรกิจของ SIRI หลังการร่วมทุนกับ BTS สามารถหนุนการเติบโตระยะยาวของบริษัทได้ไม่ยาก ประเมินราคาเหมาะสมปี59 ที่ 1.76 บาท อ้างอิง PER 9 เท่า ณ ระดับราคาปัจจุบันมี Upside ประมาณ 14% ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ”

ตัวที่ 2 SYNTEC หรือ บริษัท ซินเท็ค คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) โดยมีค่า PE อยู่ที่ 7.30 เท่า ซึ่งถือว่าราคาหุ้นยังไม่แพง ขณะที่นักวิเคราะห์บล.เออีซี มองว่าบริษัทมีประเด็นบวกหลายประเด็นในอนาคตจาก 1) การฟ้องร้องคดีต่างๆมูลค่ากว่า 1 พันล้านบาท 2) Hidden Asset Value กว่า 3 ร้อยล้านบาท จากหุ้น BEM (จำนวน 75 ล้านหุ้น ทุน 2.95 บาท) และที่ดินบริเวณรามอินทรา (55 ไร่ ทุน 1.8 ล้านบาทต่อไร่, ราคาตลาด 4.5 ล้านบาทต่อไร่ ) และ 3) การเข้าซื้อ UOB8TF ซึ่งหลังดีลเสร็จสิ้นจะหนุนให้มูลค่าพื้นฐานเพิ่มขึ้นอีกหุ้นละ 0.28-0.30 บาท ภายใต้ประมาณการใหม่ ให้ราคาเป้าหมายปี 59 ที่ 3.30 บาท ซึ่งยังมี Upside 13% จึงยังแนะนำ “ซื้อ”

ตัวที่3 SF หรือ บริษัท สยามฟิวเจอร์ ดีเวลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) โดยมีค่า PE อยู่ที่ 7.51 เท่า ซึ่งถือว่าราคาหุ้นยังไม่แพง ขณะที่นักวิเคราะห์บล.ฟิลลิป ยังคงมีมุมมองที่ดีต่อผลการดำเนินงานในอีก 2 ปีข้างหน้า โดยจะมีทิศทางที่สามารถเติบโตได้ต่อเนื่องจากการขึ้นค่าเช่า ขยายพื้นที่เช่า และการลงทุนในโครงการใหม่ คงแนะนำ “ซื้อ” ราคาพื้นฐานปี 59 ที่ 8.40 บาท ทั้งนี้มูลค่าที่ประเมินยังไม่รวมส่วนต่อขยายของโครงการ Mega Bangna, กำไรจากการขายที่ดินบางใหญ่, และโครงการใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อย่าง โครงการเมการังสิต

ตัวที่4 QH หรือ บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) โดยมีค่า PE อยู่ที่ 7.66 เท่า ซึ่งถือว่าราคาหุ้นยังไม่แพง ขณะที่นักวิเคราะห์บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง คาดว่าผลประกอบการของไตรมาส 1 ปี 59 จะเติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลงจากงวดเดียวของไตรมาสก่อน โดยรายได้แม้มีปัจจัยหนุนจากโครงการแนวราบแต่ยอดจากคอนโดมิเนียมอ่อนตัวลง ขณะที่ค่าใช้จ่ายและส่วนแบ่งกำไรยังอยู่ในเกณฑ์ปกติ คาดว่าในปีนี้ QH มี Downside ที่ Secured Revenue ที่ค่อนข้างต่ำจากการสะสม Backlog ของคอนโดมิเนียมที่น้อยลง ขณะที่ช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาราคาสุทธิไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก แต่มีการเก็งกำไรจากบริษัทร่วมลงทุนและผลตอบแทนจากเงินปันผลปีละ 6% ประเด็นการลงทุน แนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ราคาเป้าหมาย 2.50 บาท

ตัวที่ 5 BJCHI หรือ บริษัท บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) โดยมีค่า PE อยู่ที่ 7.70 เท่า ซึ่งถือว่าราคาหุ้นยังไม่แพง ขณะที่นักวิเคราะห์บล.เคทีบี ยังคงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อหุ้น BJCHI ยังมีความน่าสนใจจากการให้อัตราเงินปันผลที่สูง โดยบริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการปี 2558 สูงที่ 0.50 บาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินปันผลตอบแทนทั้งที่สูงถึง 6.85% ยังมองว่า BJCHI เป็นหุ้นพื้นฐานดี, ไม่มีหนี้และมี D/E ratio ต่ำเพียง 0.22 เท่า และ บริษัทยังมีนโยบายซื้อหุ้นคืนอีกด้วย ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมาย 8.50 บาท

ตัวสุดท้าย SPALI หรือ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) โดยมีค่า PE อยู่ที่ 8.09 เท่า ซึ่งถือว่าราคาหุ้นยังไม่แพง ขณะที่นักวิเคราะห์บล.กสิกรไทย จากบริษัทประกาศยอดขายไตรมาส 1 ปี 59 ที่น่าประทับใจที่ 5.4 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 53.8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และแม้จะลดลง 43.4% จากงวดเดียวของไตรมาสก่อน และคิดเป็น 22.1% ของเป้าหมายทั้งปีที่ 24.5 พันล้านบาท แต่ก็ถือว่าสูงกว่าเป้าหมายยอดขายในไตรมาสที่ 1 ปี 59 ของบริษัทที่ 5.0 พันล้านบาทพอสมควร

นอกจากนี้ยอดขายแนวราบที่ทำได้สูงถึง 4.0 พันล้านบาท ถือว่าเป็นระดับที่น่าประทับใจ ส่งผลให้เป้าหมายรายได้ปี 2559 ที่ 22.0 พันล้านบาทในปัจจุบันมีความแน่นอนแล้ว 83.9% ขณะที่ราคาหุ้นถือว่าไม่แพง และผลตอบแทนปันผลที่ 5.7% คงคำแนะนำ ซื้อ ให้ราคาเป้าหมาย 21.60 บาท

ถือว่าข้อมูลข้างต้นเป็นเพียงการหยิบยก หุ้นที่อยู่ในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่มีค่า PE ต่ำเท่านั่น เพราะถือว่าโอกาสที่ราคาหุ้นสามารถปรับตัวขึ้นได้ยังค่อนข้างเป็นไปได้

ตราบใดที่ยังมีบทวิเคราะห์ซัพพอร์ต!

 

ตารางหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่มีค่า PE ต่ำ (ข้อมูล ณวันที่ 3 พ.ค.59)

หลักทรัพย์ ราคาหุ้น
(บาท)
PE
(เท่า)
PBV
(เท่า)
DIVYLD
(%)
SIRI 1.58 6.28 0.81 7.79
SYNTEC 2.92 7.30 1.36 3.77
SF 5.95 7.51 1.30 2.52
QH 2.24 7.66 1.10 6.31
BJCHI 6.10 7.70 1.81 7.87
SPALI 20.20 8.09 1.77 4.88

Back to top button