น้ำมันดิบปิดบวกหลังเกิดเหตุไฟป่าในแหล่งน้ำมันแคนาดา
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเมื่อคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา (6 พ.ค.) เนื่องจากเกิดไฟป่าเป็นวงกว้างในแหล่งทรายน้ำมันของแคนาดา
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.เพิ่มขึ้น 34 เซนต์ หรือ 0.8% ปิด (6 พ.ค.) ที่ 44.66 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค.เพิ่มขึ้น 36 เซนต์ หรือ 0.8% ปิดที่ 45.37 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น หลังเกิดเหตุไฟป่าเป็นวงกว้างถึง 101,000 เฮคตาร์ในภาคตะวันตกของแคนาดา ซึ่งส่งผลให้ต้องอพยพประชาชนออกนอกพื้นที่อย่างเร่งด่วน
ก่อนหน้านี้ ประชาชนราว 88,000 รายต้องอพยพออกจากเขตฟอร์ท แมคเมอร์เรย์ ซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันจากทรายที่สำคัญของแคนาดาในสัปดาห์ที่ผ่านมา ในขณะที่บริษัทน้ำมันหลายแห่งซึ่งรวมถึงซันคอร์ เอ็นเนอจี, เชลล์ และ ฮัสกี ได้ปิดดำเนินงานผรือลดกำลังการผลิตลง
รายงานระบุว่า เขตฟอร์ท แมคเมอร์เรย์ มีกำลังการผลิตน้ำมันดิบจากทรายระหว่าง 900,000 ถึง 1 ล้านบาร์เรลต่อวัน และคาดว่าไฟป่าจะส่งผลให้การผลิตต้องปิดดำเนินงาน ในขณะที่ท่อส่งน้ำมันบางแห่งได้ปิดการดำเนินงานไปแล้ว
ด้านบริษัทเบเกอร์ ฮิวส์ ผู้ให้บริการข้อมูลเกี่ยวกับน้ำมันของสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่เปิดดำเนินงานของสหรัฐลดลง 4 แห่ง มาอยู่ที่ 328 แห่งในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำสถิติลดงเป็นสัปดาห์ที่ 7 ติดต่อกัน ข้อมูลดังกล่าวถือเป็นปัจจัยหนุนต่อตลาดน้ำมัน สำนักข่าวซินหัวรายงาน