THAI รับ cabin factor ปีนี้อาจไม่ถึง 80% เผยมีแผนทำการบินร่วมกับ NOK
THAI รับ cabin factor ปีนี้อาจไม่ถึง 80% อย่างที่คาด แต่เชื่อจะไม่ขาดทุน เผยมีแผนทำการบินร่วมกับ NOK หลังผนึกโลว์คอสต์แอร์ไลน์ 8 สายการบิน เตรียมเงินลงทุนจำนวน 1 หมื่นล้านบาทเพื่อลงทุนด้านอะไหล่และชิ้นส่วนเครื่องบิน ขณะที่มีแผนออกหุ้นกู้ วงเงินราว 6-7 พันลบ.ทดแทนหุ้นกู้ที่ครบกำหนดในพ.ค.นี้
นายจรัมพร โชติกเสถียร กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) หรือ THAI เปิดเผยว่า อัตราส่วนบรรทุกผู้โดยสาร (cabin factor) ในไตรมาส 1/59 อยู่ที่ 77.5% แต่ยังไม่ถึง 80% ตามที่บริษัทตั้งเป้าหมายไว้ แม้ว่าเป็นช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ดังนั้น ทั้งปี 59 จึงคาดว่า cabin factor เฉลี่ยอาจจะพลาดเป้าจาก 80% ขณะที่การแข่งขันรุนแรงทำให้ไม่สามารถปรับราคาขายตั๋วโดยสารขึ้นได้
“yield ลดลงเล็กน้อย ราคาขายลดลงไม่มาก เพราะราคาเราค่อนข้าง dynamic …การดำเนินงานมาถูกทางแล้ว ผู้โดยสารมากขึ้น cabin factor สูงขึ้น แต่ไม่สูงอย่างที่หวังไว้ที่ 80%…สิ้นปีนี้น่าจะเป็นไปตามแผน คาดว่า 3 ไตรมาสที่เหลือน่าจะดีขึ้น และตามแผนจะไม่แดง(ขาดทุน)”นายจรัมพรกล่าว
อย่างไรก็ตาม เชื่อว่า การดำเนินงานของบริษัทมาถูกทาง เพราะมีจำนวนผู้โดยสารมากขึ้นมาที่ 5.9 ล้านคนสูงกว่าปีก่อน 5.3% ซึ่งมีจำนวน 5.6 ล้านคน และในไตรมาส 2/59 ซึ่งเป็นช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยว (low season) ก็ต้องให้มีการบริหารอย่างมีประสิทธิภาพ และดูแลต้นทุนให้ดี ทั้งนี้ โดยปกติผลประกอบการในไตรมาส 2 จะต่ำกว่าไตรมาส 1 อยู่แล้ว
โดยในปีนี้บริษัทได้เข้าสู่ระยะที่ 2 ของแผนปฏิรูปองค์กรคือ “สร้างความแข็งแกร่งในการแข่งขัน” โดยมีกลยุทธ์ในการดำเนินงาน 4 กลยุทธ์
1) การหารายได้ โดยเน้นที่ แผนการเพิ่มรายได้ในทุกๆด้าน
2) การบริหารจัดการค่าใช้จ่าย ในด้านการบริหารจัดการต้นทุน การบริหารจัดการกระแสเงินสดและโครงสร้างเงินทุน
3) การสร้างศักยภาพในด้านต่างๆ อาทิ การบริหารเครือข่ายเส้นทางบิน (Network Management & Optimization) การวางแผนฝูงบิน (Fleet Plan) การเพิ่มศักยภาพระบบบริหารรายได้ (Revenue Management Enhancement) และ 4) การสร้างความเป็นเลิศในการบริการลูกค้า ซึ่งหลายแผนงานได้ดำเนินการต่อเนื่องมาจากปี 58 เช่น การยกระดับการบริการชั้นธุรกิจ (Business Class Service Upgrade)
“ณ วันนี้เรายังอยู่ในระยะที่ 2 ของแผนปฏิรูปที่ใช้เวลา 2 ปี (ปี 59- 60) ซึ่งปีนี้เราจะสร้างความแข็งแกร่งองค์กร โดย 5 ไตรมาสที่ผ่านมาเรา strength ตอนนี้เข้าสู่กลยุทธ์ขายให้มากขึ้น และปรับปรุงการบริการ”นายจรัมพร กล่าว
ทั้งนี้ในเดือน มิ.ย.-ก.ค.59 บริษัทจะรับมอบเครื่องบินใหม่แอร์บัสรุ่น A350 จำนวน 2 ลำ ซึ่งจะนำไปบินเส้นทางที่เมืองเมลเบิร์น คาดว่าเส้นทางนี้จะช่วยเพิ่มกำไรได้ ขณะเดียวกันบริษัทจะปลดระวางเครื่องบินแอร์บัส A330 จำนวน 2 ลำ เนื่องจากครบกำหนดเช่า ทำให้บริษัทยังคงจำนวนฝูงบินที่ 95 ลำในสิ้นปี 59 และในปี 60 จะรับมอบเครื่องบินใหม่อีก 7 ลำ เป็นเครื่องบินแอร์บัส A 350 จำนวน 5 ลำ และ เครื่องบินโบอิ้ง 787 จำนวน 2 ลำ ขณะที่มีแผนปลดระวางเครื่องบินโบอิ้ง B777 จำนวน 2 ลำ ปัจจุบันบริษัทมีเครื่องบินรอขายจำนวน 12 ลำ
โดยในไตรมาส 1/59 บริษัทมีจำนวนเครื่องบินที่ใช้งาน 95 ลำ น้อยกว่าไตรมาสเดียวกันของปีก่อน 9 ลำ แต่จากการปรับเที่ยวบินและใช้เครื่องบินให้เหมาะสม ทำให้มีการใช้ประโยชน์ของเครื่องบินได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นเป็น 11.5 ชั่วโมง จาก 10.7 ชั่วโมง ทำให้บริษัทและบริษัทย่อยมีปริมาณการผลิตผู้โดยสาร (ASK) ลดลงเพียง 1.8% โดยมีปริมาณการขนส่งผู้โดยสาร (RPK) เพิ่มขึ้น 0.9%
ขณะที่บริษัทจะทำการบินร่วม (Code Share) กับสายการบินนกแอร์ หลังจากที่ NOK ได้รวมตัวพันธมิตรสายการบินราคาประหยัด 8 สายการบินในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยมีระบบสำรองบัตรโดยสารที่พัฒนาโดยบริษัท Air Black Box (ABB) ซึ่งจะเชื่อมโยงเครือข่ายการบิน (Connecting flight) เข้าไว้ด้วยกัน ทั้งนี้ เบื้องต้นคาดจะทำ Code share ในจังหวัดที่การบินไทยไม่ได้ทำการบิน อาทิ น่าน พิษณุโลก เป็นต้น และจะสามารถส่งต่อผู้โดยสารไปเที่ยวบินต่างประเทศได้ คาดจะเริ่มได้ในช่วงครึ่งหลังปีนี้
ด้านนายณรงค์ชัย ว่องธนะวิโมกษ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการเงินและการบัญชี THAI เปิดเผยว่า บริษัทเตรียมจะออกหุ้นกู้ วงเงิน 6-7 พันล้านบาท เพื่อทดแทนหุ้นกู้เดิมที่ครบกำหนดไถ่ถอนในเดือน พ.ค.นี้
โดยปัจจุบัน THAI มีกระแสเงินสดในมือจำนวนมากประมาณ 1.5-1.8 หมื่นล้านบาท เนื่องจากในไตรมาส 1/59 มีกำไรก่อนหักภาษี ดอกเบี้ย ค่าเสื่อมราคาและค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) จำนวน 1.2 หมื่นล้านบาท เมื่อเทียบกับครึ่งแรกของปี 58 ที่ EBITDA บางมาก ทั้งนี้ เบื้องต้นคาดจะนำเงินไปจ่ายคืนหนี้บางส่วน โดยปีก่อนชำระคืนแล้ว 2 พันล้านบาท จากเงินกู้ทั้งหมด 2 แสนล้านบาท ในปีนี้บริษัทได้เตรียมเงินลงทุนจำนวน 1 หมื่นล้านบาทเพื่อลงทุนด้านอะไหล่และชิ้นส่วนเครื่องบิน นอกจากนี้ได้ตั้งงบประมาณจำนวน 5 พันล้านบาทสำหรับการดำเนินการตามแผนปฏิรูป โดยปัจจุบันได้มีพนักงานได้ยื่นความประสงค์เข้าร่วมโครงการร่วมใจจากแล้ว ซึ่งฝ่ายบริหารจะพิจารณารายชื่อต่อไป
ด้านเรืออากาศโท เฉลิมพล อินทรวงศ์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ฝ่ายช่าง THAI เปิดเผยว่า ได้เตรียมเสนอแผนการร่วมทุนกับแอร์ฟรานซ์ ลงทุนธุรกิจซ่อมอากาศยาน วงเงินลงทุนไม่เกิน 1 พันล้านบาทที่สนามบินสุวรรณภูมิต่อคณะกรรมการบริษัทในเดือน มิ.ย.นี้ โดยสัดส่วนลงทุน THAI จะถือ 51% แอร์ฟรานซ์ 49% ทั้งนี้หากคณะกรรมการอนุมัติ คาดว่า ในเดือนก.ค.น่าจะสรุปและจัดตั้งบริษัทได้ นอกจากนี้ บริษัทเตรียมโรงเรียนฝึกช่างที่ร่วมมือกับแอร์บัส คาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในเดือนก.ย.นี้