5 หุ้นลีสซิ่งตัวจิ๊ด กำไร Q1/59 โตแร๊งส์!!

จัด 5 หุ้นลีสซิ่งกำไร Q1 โดดเด่น แถมมีปัจจัยพื้นฐานหนุน ฟากโบรกฯเชียร์ซื้อ การันตี Q2 กำไรโตต่อเนื่อง


จัด 5 หุ้นลีสซิ่งกำไร Q1 โดดเด่น แถมมีปัจจัยพื้นฐานหนุน ฟากโบรกฯเชียร์ซื้อ การันตี Q2 กำไรโตต่อเนื่อง

“ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจราคาหุ้นบริษัทจดทะเบียน (บจ.) กลุ่มธุรกิจการเงิน (FINCIAL) เงินทุนและหลักทรัพย์ (FIN) ในตลาดหลักทรัพย์ โดยใช้เกณฑ์คัดเลือกบจ.ที่ผลประกอบการไตรมาส 1/59 (สิ้นสุด 31 มี.ค.59) ที่มีกำไรเติบโตโดดเด่นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน รวมทั้งเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานมาสนับสนุน ซึ่งคัดเลือกได้ 5 บริษัทดังนี้

 

อันดับ 1 บริษัท กรุ๊ปลีส จำกัด (มหาชน) หรือ GL รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.59 (รวมบริษัทย่อย) มีกำไรสุทธิ 222.16ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.1456 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 101.53% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 110.24 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.1013 บาทต่อหุ้น

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานมีกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกผลเช่าซื้อและการเพิ่มขึ้นของรายได้ดอกผลจากสินเชื่อแก่ผู้บริโภคโดยมีสินทรัพย์ค้าประกันและการเพิ่มขึ้นของรายได้อื่นอีกทั้งการลดลงจากขาดทุนจากการจำหน่ายสินทรัพย์รอการขายและหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญ

ด้าน บล.ทรีนีตี้ แนะนำ “ซื้อเมื่ออ่อนตัว” ปรับเพิ่มราคาเป้าหมายสะท้อนธุรกิจในอินโดฯเป็น 30 บาท/หุ้น ส่วนผลกระทบจากการออก GL-W4 และหุ้นกู้แปลงสภาพ จะยังไม่เห็นในระยะสั้นนี้ โดยราคาหุ้นที่ปรับตัวลงมาทำให้ Upside อาจเริ่มน่าสนใจมากขึ้น

 

อันดับ 2 บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ MTLS รายงานผลประกอบการงวดไตรมาส 1 สิ้นสุดวันที่ 31 มีนาคม 2559 (รวมบริษัทย่อย) มีกำไรสุทธิ 280.01 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.13 บาท เพิ่มขึ้น 54% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 181.45 ล้านบาท กำไรต่อหุ้น 0.09 บาท

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในไตรมาสดังกล่าวปรับตัวขึ้น เนื่องจากบริษัทมีรายได้รวมเพิ่มขึ้นตามการขยายสาขาและยอดปล่อยสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น  

ด้าน บล.ฟินันเซีย ไซรัส แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 25 บาท/หุ้น คาดแนวโน้มกำไรสุทธิไตรมาส 2/16 น่าจะเพิ่มขึ้นต่อจากไตรมาส 1/59 มองเป้าหมายการเติบโตของสินเชื่อที่ 50% มีโอกาสทำได้แข็งแกร่งกว่านั้นเนื่องจากการเปิดสาขาในพื้นที่ใหม่อย่างภาคอีสานและใต้ ค่อนข้างประสบความสำเร็จ

 

อันดับ 3  บริษัท ศรีสวัสดิ์ พาวเวอร์ 1979 จำกัด (มหาชน) หรือ SAWAD รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.59 (รวมบริษัทย่อย) มีกำไรสุทธิ 420.07 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.40 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 51% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 278.12 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.27 บาทต่อหุ้น

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในไตรมาสดังกล่าวที่มีกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทมีการปล่อยสินเชื่อเพิ่มมากขึ้น

ด้าน บล.เอเชีย เวลท์ แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 57 บาท/หุ้น พร้อมคงประมาณการกำไรสุทธิปี 59 อยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.5% จากปีก่อน

 

อันดับ 4 บริษัท ลีซ อิท จำกัด (มหาชน) หรือ LIT รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.59 มีกำไรสุทธิ 20.04 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.10 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 28% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 15.67 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.08 บาทต่อหุ้น

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานในไตรมาสดังกล่าวที่เพิ่มขึ้น เนื่องจากบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้น สาเหตุหลักเกิดจากการขยายตัวของสินเชื่อระยะสั้นซึ่งเป็นไปตามแผนกลยุทธ์

ด้าน นายสมพล เอกธีรจิตต์ กรรมการผู้จัดการ LIT เปิดเผยว่า โดยปกติในไตรมาสที่ 1 จะเป็นไตรมาสที่จะมีกิจกรรมทางธุรกิจต่ำที่สุดตามผลของฤดูกาล แต่บริษัทยังคงสามารถทำกำไรรายไตรมาสได้สูงสุดนับตั้งแต่จัดตั้งบริษัท ซึ่งจากนี้ไปในไตรมาสที่เหลือจะเป็นไตรมาสที่จะมีกิจกรรมทางธุรกิจที่เข้มข้นมากขึ้นตามผลของฤดูกาล และฝ่ายบริหารคาดหวังและจะพยายามสร้างผลการดำเนินงานให้เติบโตอย่างต่อเนื่องต่อไป

 

อันดับ 5 บริษัท ราชธานีลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ THANI รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 1/59 สิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.59 มีกำไรสุทธิ 209.56 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.09 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 173.89 ล้านบาท หรือมีกำไรสุทธิ 0.07 บาทต่อหุ้น

ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานที่มีกำไรเพิ่มขึ้น เนื่องจากค่าใช้จ่ายทางการเงินลดลง จากการจัดหาแหล่งเงินกู้ยืมที่มีต้นทุนทางการเงินที่ต่ำ สำหรับค่าใช้จ่ายหนี้สูญและหนี้สงสัยจะสูญเพิ่มขึ้นจากงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการตั้งสำรองตามปกติของบริษัท ซึ่งมาจากฐานสินเชื่อที่ขยายเพิ่มขึ้นและการพิจารณาตั้งสำรองทั่วไปเพิ่มเติม

ด้าน บล.เอเซีย พลัส คาดผลประกอบการไตรมาส 2/59 คาดจะยังเติบโต new high จากการเติบโตของสินเชื่อทุกกลุ่ม และการลดลงของ NPL การเติบโตที่โดดเด่นในปีนี้ทำให้ฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มประมาณการและ Fair Value ขึ้นราว 9%

ขณะที่ บล.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ แนะนำ “ซื้อ” คาดการณ์รายได้ปีนี้จะเติบโต 10% ตามสินเชื่อเช่าซื้อรถบรรทุกที่มีแนวโน้มขยายตัวตามภาคก่อสร้าง และยังได้อานิสงส์จากต้นทุนทางการเงินที่ลดลงด้วยหลังธนาคารปรับลดอัตราดอกเบี้ย MLR ในไตรมาส 2/59  พร้อมให้มูลค่าเหมาะสมที่ 4 บาท

 

*ทั้งนี้ข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ การตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button