วนเวียนที่เดิมโมนิก้าและทีมงาน

*การลงทุนในตลาดหุ้นไทยมันคลาสสิกตรงที่ ทุกอย่างยังเป็นเหมือนเดิม แต่อารมณ์ของนักเล่นดันเปลี่ยนตลอดเวลา ส่งผลให้จังหวะในการเข้าทำผิดเพี้ยนไปจากก่อนหน้า จนนำไปสู่การเข้าลงทุนในหุ้นผิดตัว เพราะคิดว่า ไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้อีกแล้ว แต่ความเป็นจริงที่พบเห็นกันเต็มสองลูกตาก็คือ หุ้นส่วนใหญ่ยังไม่สามารถฝ่ายอดเดิมขึ้นไปได้ ขณะเดียวกันหุ้นก็มีโอกาสรูดทะลุแนวรับด้านล่างเช่นกันนะคะ


*การลงทุนในตลาดหุ้นไทยมันคลาสสิกตรงที่ ทุกอย่างยังเป็นเหมือนเดิม แต่อารมณ์ของนักเล่นดันเปลี่ยนตลอดเวลา ส่งผลให้จังหวะในการเข้าทำผิดเพี้ยนไปจากก่อนหน้า จนนำไปสู่การเข้าลงทุนในหุ้นผิดตัว เพราะคิดว่า ไม่มีอะไรแย่ไปกว่านี้อีกแล้ว แต่ความเป็นจริงที่พบเห็นกันเต็มสองลูกตาก็คือ หุ้นส่วนใหญ่ยังไม่สามารถฝ่ายอดเดิมขึ้นไปได้ ขณะเดียวกันหุ้นก็มีโอกาสรูดทะลุแนวรับด้านล่างเช่นกันนะคะ

*วานนี้ถึงเห็นดัชนีลงมายืนอยู่ที่ 1,400.50 จุด ลบไป 6.07 จุด ด้วยมูลค่า 4.31 หมื่นล้านบาท มันเป็นเกมที่กองทุนตัวแสบถนัดอยู่แล้ว เพราะหลักการลงทุนในเที่ยวนี้เป็นแบบ “ขึ้นขาย ลงซื้อ” ส่วนปอบผีฟ้ายังคงถนัดเรื่องเข้าทำอย่างรวดเร็ว ไม่ยึดติดกับอะไรทั้งนั้น ทางด้านฝรั่งตาน้ำข้าวก็เรื่อยๆ เฉื่อยๆ ดูภาพรวมจากภายนอกเป็นไปในทิศทางไหนเป็นหลัก ขณะที่พลพรรคแมงเม่าก็ตีกินกันไปเรื่อยๆ ตามประสานักเล่น “มาไว ไปไว” นะจะบอกให้

*ด้วยเหตุนี้ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับพิจารณาถึงปัจจัยในสัปดาห์มีอะไรสำคัญบ้าง? เพราะสิ่งที่ทุกคนเห็นในเที่ยวนี้คือ ผลประกอบการยังไม่เข้าตากรรมการสักเท่าไหร่! บวกกับกูรูบางสำนักเตรียมปรับเป้าดัชนีลงอีกในไม่ช้า สันนิษฐานได้เลยว่า วันไหนที่หุ้นพุ่งขึ้นแรงแซงทางโค้ง ต้องมีข่าวดีเกี่ยวกับตัวเลขเศรษฐกิจ แต่หลังจากนั้นจะตามาด้วยแรงเทขายทำกำไรเป็นจำนวนมาก (เด้งรับข่าวแล้วเลิก) ไงล่ะค่ะ

*วันนี้ไม่ต้องถามถึงสาเหตุที่ทำให้ JAS กระชากขึ้นมาปิดที่ 4.74 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 2.60% ด้วยมูลค่า 2 พันล้านบาท เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นเที่ยวนี้คือ ความสบายใจของคนที่ถือหุ้นตัวนี้ล้วนๆ หลังจากเคลียร์ชัดทุกประเด็น มหกรรมการลงทุนรอบใหม่ถึงเกิดขึ้นอีกครั้ง หุ้นถึงพยายามไต่เพดานขึ้นไปยืนแถว 5 บาทตลอดเวลา วันนี้ถึงพูดได้ทันทีว่า เคาะขวาแล้ว..ห้ามลุกไปไหน เพราะหุ้นกำลังอยู่ในช่วงทดสอบแรงเทขายเจ้าค่ะ

*เหมือนกับในรายของ WHA หากมองไซเคิลของหุ้นตั้งแต่เดือน มีนาคม ถึงเดือน พฤษภาคม ทุกคนคงร้องอ๋อไปตามกัน! เพราะการเคลื่อนตัวเป็นแบบ w-shape ซึ่งมีกรอบด้านบนอยู่ที่ 3.20 บาท แม้บางครั้งจะขึ้นไปสูงกว่านั้น แต่สุดท้ายก็ลงมากองอยู่ที่กรอบด้านล่างที่บริเวณ 2.90 บาทเป็นประจำ ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 3.18 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 3% ด้วยมูลค่า 510 ล้านบาท ซึ่งเป็นการทะยานขึ้นพร้อมกับผลงานที่ยอดเยี่ยมแบบนี้..น่าจะมีโอกาสพลิกแนวต้านกลายเป็นแนวรับนะคะ

*ส่วนที่น่าเป็นกังวล “โมนิก้า” ขอโฟกัสไปที่หุ้น DELTA กระชากขึ้นมาปิดที่ 65.25 บาท บวกไป 4 บาท หรือขึ้นไป 6.5% ด้วยมูลค่ากว่า 525 ล้านบาท เพราะเป็นการเด้งขึ้นท่ามกลางทิศทางขาลง ซึ่งมีความเสี่ยงสูงกว่าปกติ แถมเที่ยวนี้เป็นการขึ้นทั้งที่ผลประกอบการไม่หนุน เดี๊ยนถึงอยากให้แฟนคลับหันกลับไปดูว่า ในช่วงปลายเดือนเมษายน หุ้นอยู่ที่ 90 บาท ต่อจากนั้นหุ้นรูดลงอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีการเด้งขึ้นในบางจังหวะ แต่ภาพใหญ่ยังไหลรูดเหมือนคนท้องเสียแบบนี้..คุ้มที่จะเสี่ยงจริงไหม?

*หากต้องการเสี่ยงจริงๆ “โมนิก้า” ขอพ้อยท์ไปที่หุ้นไก่ห้าดาว CPF เพราะการทะยานขึ้นมาปิดที่ 29 บาท บวกไป 0.50 บาท ด้วยมูลค่า 1,120 ล้านบาท มันเป็นการทำ new high ในรอบหลายเดือนที่มาพร้อมกับผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ซึ่งถือเป็นทางเลือกที่น่าสนใจกว่าตัวอื่นๆ วันนี้ถึงต้องถามใจแฟนคลับผู้น่ารักกันอีกครั้งว่า พร้อมที่จะเสี่ยงกับหุ้นตัวนี้ไหมค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ SCI มันเป็นจังหวะของการตามกระแส ในเมื่อโปรเจ็กต์มีมูลค่ามหาศาลขนาดนั้น “โมนิก้า” ย่อมเกิดอารมณ์คล้อยตามไปด้วยอย่างแน่นอน จนกลายเป็นหุ้นที่ต้องขอพูดถึงบ่อยๆ เพราะของเขาดีจริงๆ ก็จำเป็นต้องเม้าท์ถึงเยอะหน่อย ล่าสุดหุ้นวิ่งขึ้นมาปิดที่ 10.50 บาท บวกไป 0.60 บาท หรือขึ้นไป 6% ด้วยวอลุ่มที่หนาแน่น หุ้นมีโอกาสไปต่อค่อนข้างสูงนะเนี่ย

*อีกหนึ่งรายที่ฟอร์มตัวแบบ w-shape เหมือนหลายรายข้างต้น “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่หุ้นขยะทองคำ BWG ล่าสุดพุ่งขึ้นมาปิดที่ 1.75 บาท บวกไป 0.07 บาท หรือขึ้นไป 4% ด้วยมูลค่า 470 ล้านบาท มันเป็นจังหวะที่น่าสนใจเหลือเกิน แถมเป็นการทดสอบยอดเดิมที่บริเวณ 1.80 บาทเป็นครั้งที่ 3 ย่อมเป็นจังหวะที่เดี๊ยนให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ เพราะมันหมายถึงโอกาสขึ้นไปสร้างฐานใหม่ กับการร่วงหล่นไปตั้งหลักแถวบริเวณ 1.60 บาทอีกครั้งน่ะสิ

*ตบท้ายกันที่ TPAC จู่ๆ เด้งขึ้นมาปิดที่ 8.35 บาท บวกไป 1.30 บาท หรือขึ้นไป 18% แถมเป็นการขึ้นแบบไม่บอกให้รู้ล่วงหน้า มันส่อไปในทางสงครามวันเดียวชัดๆ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับเข้าใจแพทเทิร์นของหุ้นตัวนี้เป็นแบบลากแล้วทุบตั้งแต่วันนี้ เพราะตัวเลขผลประกอบการไตรมาส 1 ไม่ซัพพอร์ตเอาเสียเลย จึงกลายเป็นหุ้นที่เหมาะสำหรับนักผจญภัยเพียงเท่านั้น..ทราบแล้วบอกต่อด้วยนะจ๊ะ

Back to top button