น้ำมันดิบปิดลบหลังสต็อกสหรัฐฯพุ่ง
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (18 พ.ค.) สำนักงานสารสนเทศด้านการพลังงานของรัฐบาลสหรัฐ (EIA) เปิดเผยว่า สต็อกน้ำมันดิบปรับตัวเพิ่มขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ หลังเฟด ส่งสัญญาณว่าอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนหน้า
สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมิ.ย.ลดลง 12 เซนต์ หรือ 0.3% ปิด (18 พ.ค.) ที่ 48.19 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนก.ค.ลดลง 35 เซนต์ หรือ 0.7% ปิดที่ 48.93 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบปรับตัวลง หลัง EIA รายงานเมื่อช่วงค่ำวานนี้ตามเวลาไทยว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 1.3 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว สู่ระดับ 541.3 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่า สต็อกน้ำมันดิบจะลดลง 2.8 ล้านบาร์เรล ส่วนสต็อกน้ำมันเบนซินลดลง 2.5 ล้านบาร์เรล ขณะที่สต็อกน้ำมันกลั่นลดลง 3.2 ล้านบาร์เรล
นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังได้รับแรงกดดันจากสกุลเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (FED) ส่งสัญญาณในรายงานการประชุมประจำวันที่ 26-27 เม.ย.ซึ่งมีการเปิดเผยเมื่อวานว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนมิ.ย. หากเศรษฐกิจสหรัฐฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ การแข็งค่าของดอลลาร์จะส่งผลให้สัญญาน้ำมันดิบซึ่งซื้อขายในรูปสกุลเงินดอลลาร์นั้น มีราคาสูงขึ้นและไม่น่าดึงดูดใจสำหรับนักลงทุนที่ถือสกุลเงินอื่น