ดาวโจนส์ปิดลบ 23.22 จุด หลังราคาน้ำมันแผ่ว-เฟดส่งสัญญาณขึ้นดบ.

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (26 พ.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากตลาดพุ่งขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่อ่อนแรงลง และเจ้าหน้าที่ของเฟด ยังคงออกมาส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด (26 พ.ค.) ที่ 17,828.29 จุด ลดลง 23.22 จุด หรือ -0.13%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,901.77 จุด เพิ่มขึ้น 6.88 จุด หรือ +0.14% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,090.10 จุด ลดลง 0.44 จุด หรือ -0.02%

ในช่วงแรกนั้น ตลาดหุ้นนิวยอร์กเปิดในแดนบวกเนื่องจากนักลงทุนขานรับข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐ รวมถึงยอดสั่งซื้อสินค้าคงทนเดือนเม.ย.ที่พุ่งขึ้น 3.4% เนื่องจากจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งในภาคขนส่ง และจำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 10,000 ราย สู่ระดับ 268,000 รายในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 21 พ.ค.

อย่างไรก็ตาม ตลาดอ่อนแรงลงในเวลาต่อมา เนื่องจากนักลงทุนเทขายทำกำไรหลังจากตลาดทะยานขึ้นติดต่อกัน 2 วันทำการก่อนหน้านี้ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลง รวมทั้งความวิตกกังวลที่เกิดขึ้นหลังจากเจ้าหน้าที่เฟดยังคงออกมาส่งสัญญาณเรื่องการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย

นายเจอโรม เพาเวล หนึ่งในคณะผู้ว่าการของธนาคารกลางสหรัฐ (FED) เปิดเผยเมื่อวานนี้ว่า เฟดอาจปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้า ถ้าหากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐปรับตัวสอดคล้องกับการคาดการณ์ของเฟด โดยนายเพาเวลกล่าวว่า เขาสนับสนุนการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป

การแสดงความเห็นของนายเพาเวลสอดคล้องกับเจ้าหน้าที่เฟดหลายรายที่ออกมาระบุก่อนหน้านี้ว่า เฟดมีแนวโน้มปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในไม่ช้า ขณะที่รายงานการประชุมของเฟดประจำเดือนเม.ย.ระบุว่า มีแนวโน้มที่เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนหน้า หากข้อมูลเศรษฐกิจบ่งชี้การขยายตัวที่แข็งแกร่งในไตรมาส 2

หุ้นกลุ่มเคมีภัณฑ์ปรับตัวลง โดยหุ้นดาว เคมิคอล หุ้นอีสต์แมน เคมิคอล และหุ้นลีอองเดลล์บาเซล อินดัสทรีส์ ต่างก็ปรับตัวลงอย่างน้อย 1.1% หุ้นกลุ่มธนาคารและกลุ่มการเงินร่วงลง โดยหุ้นซิตี้กรุ๊ป และหุ้นแบงก์ ออฟ อเมริกา ต่างก็ปรับตัวลงกว่า 1.4% ขณะที่หุ้นซีบีอาร์อี กรุ๊ป ร่วงลง 2% และหุ้นชาร์ลส์ ชวาบ คอร์ป ดิ่งลง 1.6%

อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีปรับตัวขึ้นติดต่อกัน 3 วันทำการ หลังจากบริษัทเทคโนโลยีหลายแห่งเปิดเผยผลประกอบการที่ดีเกินคาด โดยหุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 1.3% หุ้นยาฮู อิงค์ ทะยานขึ้น 3.3% หุ้นฮิวเล็ต-แพคการ์ด (HP) พุ่งขึ้น 6.9% ส่วนหุ้นแอปเปิลปรับตัวขึ้นกว่า 1%

นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐในวันนี้ ซึ่งได้แก่ ประมาณการจีดีพีไตรมาส 1/2559 ครั้งที่ 2, การใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือนมี.ค. และความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนพ.ค.โดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน นอกจากนี้ นักลงทุนยังคงจับตาการกล่าวสุนทรพจน์ของนางเจเน็ต เยลเลน ประธานเฟด ในวันนี้ ในพิธีรับมอบรางวัลจากมหาวิทยาลัยฮาวาร์ด เพื่อหาสัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยสหรัฐ

Back to top button