(ไม่) ดีแต่พูดแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น
งบการเงินของ บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG เป็นหนึ่งในหุ้นส่วนน้อยที่มีช่วงเวลานับไม่เหมือนกับริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยโดยทั่วไป คือ ปิดสิ้นงวดในเดือนมีนาคมของทุกปี
งบการเงินของ บริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG เป็นหนึ่งในหุ้นส่วนน้อยที่มีช่วงเวลานับไม่เหมือนกับริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นไทยโดยทั่วไป คือ ปิดสิ้นงวดในเดือนมีนาคมของทุกปี
ปีนี้ งบงวดปีก็เพิ่งจะประกาศออกมา ท่ามกลางการตั้งตารอของนักลงทุน และนักวิเคราะห์ เพราะผู้นำสูงสุดของบริษัทในยามนี้ คือ นายภวัฒน์ วิทูรปกรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งเป็นคนที่ค่อนข้างทำงานเก็บเนื้อเก็บตัว…ถึงขนาดที่ทำให้คนเข้าใจกันผิดๆ ว่า ดร.เฉลียว วิทูรปกรณ์ รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารเป็นผู้บริหารสูงสุด
ความจริงแล้ว ไม่ว่าใครจะนั่งตำแนห่งอะไรใน EPG ก็ไม่น่ามีปัญหา เพราะ…คนในตระกูลนี้เก่งกันทุกคน เก่งทั้งทำและเก่งทั้งพูด…จนคนนอกครอบครัวไม่รู้ว่า ใครเก่งกว่าใคร
น่าขอบใจ ดีเอ็นเอ ของบรรพชนตระกูลนี้ ดร.ซิวซี แซ่ตั้ง ที่ผลิตทายาทคุณภาพเยี่ยมยอดกันทั้งตระกูล.. และน่าอิจฉาพร้อมกันไปด้วย
งบสิ้นงวดปีนี้ ซึ่งถือเป็นงวดปีที่ 2 นับแต่เข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ปรากฏว่าสวยสดงดงาม…ตามที่เคยพูดกันเอาไว้ก่อนหน้า ทั้งรายได้และกำไรสุทธิ
ในแง่รายได้ EPG มีรายได้รวมทั้งสิ้น 8,768 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 26% เมื่อเทียบกับช่วงปีก่อนที่มีรายได้รวม 6,915 ล้านบาท ขณะที่ต้นทุนรวมอยู่ที่ระดับ 5,853 ล้านบาท ปรับเพิ่มขึ้น 14% จากงวดปีก่อนที่มีต้นทุนรวม 5,092 ล้านบาท
ความสามารถในการเพิ่มรายได้จากสินค้าหลากหลายของบริษัทที่ไม่ด้อยกว่ากัน ในบรรดาสินค้าพลาสติกรูปแบบต่างๆ ที่มีนวัตกรรมโยงใยด้วยงานวิจัยทางเทคโนโลยีที่โดดเด่น 3 กลุ่ม ไม่ว่าจะเป็น…ธุรกิจหลัก ได้แก่ พื้นปูกระบะ (Bed Liner) หลังคารถกระบะ (Canopy) ฝาครอบรถกระบะ (Deck Cover) รวมถึง บรรจุภัณฑ์พลาสติก ภายใต้แบรนด์ EPP ชิ้นส่วนอุปกรณ์และตกแต่งยานยนต์ ภายใต้แบรนด์ AEROKLAS และท้ายสุด……ผลิตภัณฑ์ใหม่ บันไดข้างรถ (Side Step) รวมถึงการขยายธุรกิจใหม่ในประเทศออสเตรเลีย (TJM)
สำหรับนักบริหาร การมีนวัตกรรม ทำให้โอกาสเพิ่มรายได้ไม่ใช่เรื่องยาก แต่การจัดการต้นทุนถือเป็นความสามารถเฉพาะตัวห้ามเลียนแบบ…การที่ผู้บริหารสามารถทำให้ต้นทุนขายสินค้าปรับเพิ่มขึ้น 14% จากปีก่อน ถือเป็นอัตราการเพิ่มขึ้นที่ต่ำกว่าการเติบโตของยอดขาย เกิดจาก 2 ปัจจัยหลัก …ราคาวัตถุดิบที่ลดลง และประสิทธิภาพการผลิตที่เพิ่มขึ้นจากการปรับปรุงกระบวนการผลิตและเปลี่ยนทดแทนเครื่องจักรใหม่
ใครที่เคยสัมผัสและเห็นพี่น้องวิทูรปกรณ์ ที่พูดเก่งไฟแลบ…ชนิดไม่มีช่องว่างให้แทรกมากนัก เมื่อมาเจอตัวเลขจากงบการเงินล่าสุด คงต้องยกนิ้วกันเลยว่า ไม่ใช่แค่พูดเก่งอย่างเดียว..หรือ ดีแต่พูด… แต่ทำเก่งกว่าพูดเสียอีก
ซูฮก..ซูฮก…ซูฮก
อย่าว่าแต่นักลงทุนทั่วไปที่จะยอมรับ เพราะขนาดนักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์หลายรายก็ยังยอมรับด้วย ถึงขั้นระบุชนิดฟันธงกันเลยว่า งวดปีใหม่ข้างหน้าหรือ งวดปี 2560 (ตั้งแต่ เมษายน 2559–มีนาคม 2560) คาดว่าจะมีกำไรเติบโตขึ้น 17% โดยปรับราคาเป้าหมายปีหน้า ที่ระดับ 15 บาท และแนะนำ “ซื้อ” เพราะชื่นชอบในประสิทธิภาพในการผลิตและการประหยัดโดยขนาด
การประเมินอย่างนี้ สอดรับกับข้อมูลที่ ดร.เฉลียว วิทูรปกรณ์ ที่เปิดเผยว่า กลุ่มธุรกิจทั้ง 3 สายงานหลักยังคงได้รับออเดอร์เข้ามาต่อเนื่อง แม้ภาพรวมเศรษฐกิจไทยและต่างประเทศจะชะลอตัว เพราะบริษัทมีสินค้าที่ป้อนเข้าสู่ตลาดที่หลากหลาย จึงทำให้สามารถกระจายคำสั่งซื้อออกไป
ราคาหุ้นของ EPG ที่ผ่านมา ถูกขับเคลื่อนโดยผลประกอบการเป็นสำคัญ …ดังนั้นในอนาคต หากผลประกอบการยังแข็งแกร่งต่อไป เพื่อบรรลุเป้าหมายผงาดติดอันดับ 1 ใน 3 ของโลก…ก็ไม่แปลก
ผู้บริหารที่พูดก็ดี ทำก็เก่ง (มาก).. ไม่ได้หาได้ง่ายๆ เหมือนสินค้าแบกะดิน
เพียงแต่อาจจะไม่ได้หวือหวา..แบบข่าวสารของดาราโทรทัศน์ ที่อยู่ในโลกมายา…
อิ อิ อิ