ระบอบคนดีไม่ลงกันทายท้าวิชามาร

ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมามีเรื่องเซอร์ไพรส์เมื่อ น.พ.เรวัตวิศรุตเวช อดีตอธิบดีกรมการแพทย์และอดีตที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดินไม่ผ่านการเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดินเพราะ สนช.ลงคะแนนเห็นชอบเพียง 66 เสียงไม่เห็นชอบ 66เสียงงดออกเสียง 24 คนโดยมีข่าวว่าสนช.ข้องใจฐานเคยเป็นที่ปรึกษา ณัฐวุฒิใสยเกื้อ อดีต รมช.พาณิชย์และที่ปรึกษาสมศักดิ์เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา


ใบตองแห้ง

 

ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมามีเรื่องเซอร์ไพรส์เมื่อ น.พ.เรวัตวิศรุตเวช อดีตอธิบดีกรมการแพทย์และอดีตที่ปรึกษาผู้ตรวจการแผ่นดินไม่ผ่านการเห็นชอบให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจการแผ่นดินเพราะ สนช.ลงคะแนนเห็นชอบเพียง 66 เสียงไม่เห็นชอบ 66เสียงงดออกเสียง 24 คนโดยมีข่าวว่าสนช.ข้องใจฐานเคยเป็นที่ปรึกษา ณัฐวุฒิใสยเกื้อ อดีต รมช.พาณิชย์และที่ปรึกษาสมศักดิ์เกียรติสุรนนท์ อดีตประธานรัฐสภา 

อ้าวแล้วทำไมได้คะแนนมาตั้ง 66 เสียงก็มีข่าวว่า น.พ.เรวัตสนิทสนมกับพรเพชรวิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติซึ่งเป็น 1 ในกรรมการสรรหาและเป็นผู้ตรวจการแผ่นดินมาก่อน 

นี่คือภาพสะท้อนของระบอบที่กำลังปกครองประเทศไทยเลือกคนด้วยคุณธรรมความสามารถจริงไหมหรืออาศัยความใกล้ชิดส่วนตัวใช้วิจารณญาณหรือใช้อคติตัดสินคน 

ใช่เลยข้อหาเคยใกล้ชิดนักการเมืองย่อมมีผลแต่ สนช.ชุดนี้ไม่ใช่หรือเลือกพล.ต.อ.วัชรพลประสารราชกิจรองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี(พล.อ.ประวิตรวงษ์สุวรรณ) เป็นปปช.และต่อมาก็ได้เป็นประธานหรือเห็นว่า ปปช.ไม่ต้องตรวจสอบรัฐบาลนี้อยู่แล้ว 

บางคนอ้างว่าการที่สนช.ไม่เห็นด้วยกับกรรมการสรรหาแสดงให้เห็นว่าระบอบนี้ก็มีการ “ถ่วงดุล” เหมือนที่ผู้ตรวจการแผ่นดินยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความพ.ร.บ.ประชามติสวนความเห็น กกต. และกรธ.ที่เต้นเหยงๆอ้างคน “บิดเบือน” 

แต่ก่อนหน้านี้เราก็เห็นผู้ตรวจการแผ่นดินฟ้องศาลปกครองว่า ปตท.คืนท่อก๊าซไม่ครบเห็น คตง.ส่งปปช.เอาผิดผู้บริหารปตท. และอดีตรัฐมนตรีคลังอ้างว่าคืนท่อก๊าซไม่ครบตามคำสั่งศาลปกครองสูงสุดทั้งที่ศาลปกครองสูงสุดรับรองเองว่าคืนครบแล้ว (ท่ามกลางเสียงไชโยโห่ร้องของนักทวงคืน) 

วิษณุเครืองาม เคยกล่าวว่าถ้ารัฐธรรมนูญผ่านผู้ตรวจการแผ่นดินจะมีบทบาทเหมือนพระอินทร์ถ้าไม่ปรับตัวจะเป็นสามล้อถูกหวยว่าที่จริงไม่ใช่แค่ผู้ตรวจหรอกแต่รัฐธรรมนูญ 2540, 2550 ได้ทำให้ศาลและองค์กรอิสระเป็นดั่ง “เทพ” ที่จุติมาปราบโกงกระทั่งเกิดรัฐประหารล้มรัฐบาลก็ยังไม่ยุบศาลรัฐธรรมนูญองค์กรอิสระ 

เกษียรเตชะพีระกล่าวว่ารัฐไทยเป็นรัฐที่รวมศูนย์สูงแต่ด้อยเอกภาพคืออำนาจรวมศูนย์แต่ระดับบนแตกเป็นเสี่ยงเต็มไปด้วย elite กลุ่มต่างๆที่เติบโตจากระบอบอุปถัมภ์ต่างจากระบอบสังคมนิยมแบบพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่ชื่นชมกันรัฐไทยรวมศูนย์ขึ้นบนแต่ก็แก่งแย่งกันว่าตรงนี้เขตอำนาจกู 

คสช.พยายามจะลดอำนาจการเมืองรวมศูนย์อำนาจกลับมาไว้ที่ระบบราชการซึ่งมีทหารเป็นศูนย์กลางอย่างที่ พล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชาไปกล่าวที่สิงคโปร์ว่าทหารจะต้องมีบทบาทพัฒนาประเทศแปลว่ากองทัพจะไม่ลดขนาดลดกำลังพลแต่จะสถาปนาตนเป็นผู้ขับเคลื่อนประเทศ 

ปัญหามี 2 ประการหนึ่ง รัฐราชการปัจจุบันหมดยุคเทคโนแครต “ข้าราชการพันธุ์พิเศษ” คนดีคนเก่งมานมนานเทคโนแครตคนสุดท้าย คือโฆสิตปั้นเปี่ยมรัษฎ์ซึ่งเคยมีบทบาทยุคป๋าเปรมยุคหลังๆคนดีคนเก่งมักอยู่ในภาคเอกชนหรือภาควิชาการมากกว่า

 สองรัฐราชการปัจจุบันยังแยกตนไปเป็นองค์กรเทพต่างๆซึ่งสร้างอาณาจักร ขยายอาณาจักรประกวดความดีงาม ด้วยการไล่จับผิดคนป่วนอำนาจบริหาร อำนาจนิติบัญญัติเตะตัดขาการตัดสินใจต่างๆ 

ระวังนะครับอำนาจที่ตั้งใจสร้างไว้เตะตัดขาการเมืองเมื่อการเมืองหมดอำนาจก็จะเตะตัดขากันเอง

 

Back to top button