10 หุ้นอสังหาฯ ตัวท็อป! แนวโน้ม Outperformกำไร Q2 โตก้าวกระโดดรับยอดโอนถล่มทลาย

ชู 10 หุ้นอสังหาฯ ฟอร์มดี หลังตัวเลขดัชนีกลุ่มอสังหาฯ เริ่มฟื้น แนวโน้มผลประกอบการ Q2/59 โตก้าวกระโดด รับยอดโอนทะลัก ด้าน Valuation ถูก พร้อมให้ผลตอบแทนปันผลสูงปรี๊ด!


ชู 10 หุ้นอสังหาฯ ฟอร์มดี หลังตัวเลขดัชนีกลุ่มอสังหาฯ เริ่มฟื้น แนวโน้มผลประกอบการ Q2/59 โตก้าวกระโดด รับยอดโอนทะลัก ด้าน Valuation ถูก พร้อมให้ผลตอบแทนปันผลสูงปรี๊ด!

ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ได้ทำการสำรวจบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นอย่างโดดเด่น หลังดัชนีกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ปรับตัวดีขึ้น อีกทั้งมีปัจจัยบวกจากแนวโน้มผลประกอบการไตรมาส 2/59 ที่คาดจะเติบโตอย่างก้าวกระโดด ซึ่งได้ทำการคัดเลือกมาทั้งหมด 12 บจ. ดังนี้

 

อันดับ 1 บริษัท ควอลิตี้เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ QH ราคาหุ้นปิดตลาดวานนี้ (6 มิ.ย.) อยู่ที่ 2.64 บาท บวก 0.08 บาท หรือ 3.13% สูงสุดที่ 2.72 บาท ต่ำสุดที่ 2.62 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 579.50 ล้านบาท

อันดับ 2 บริษัท อนันดา ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ANAN ราคาหุ้นปิดตลาดวานนี้ (6 มิ.ย.) อยู่ที่ 4.06 บาท บวก 0.28 บาท หรือ 7.41% สูงสุดที่ 4.10 บาท ต่ำสุดที่ 3.80 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 293.43 ล้านบาท

อันดับ 3 บริษัท พฤกษา เรียลเอสเตท จำกัด (มหาชน) หรือ PS ราคาหุ้นปิดตลาดวานนี้ (6 มิ.ย.) อยู่ที่ 26.50 บาท บวก 0.50 บาท หรือ 1.92% สูงสุดที่ 26.75 บาท ต่ำสุดที่ 26 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 91.22 ล้านบาท

อันดับ 4 บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) หรือ AP ราคาหุ้นปิดตลาดวานนี้ (6 มิ.ย.) อยู่ที่ 6.60 บาท บวก 0.10 บาท หรือ 1.54% สูงสุดที่ 6.80 บาท ต่ำสุดที่ 6.55 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 238.35 ล้านบาท

อันดับ 5 บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH ราคาหุ้นปิดตลาดวานนี้ (6 มิ.ย.) อยู่ที่ 9.20 บาท บวก 0.10 บาท หรือ 1.10% สูงสุดที่ 9.25 บาท ต่ำสุดที่ 9.10 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 224.14 ล้านบาท

อันดับ 6 บริษัท ณุศาศิริ จำกัด (มหาชน) หรือ NUSA ราคาหุ้นปิดตลาดวานนี้ (6 มิ.ย.) อยู่ที่ 0.54 บาท บวก 0.01 บาท หรือ 1.89% สูงสุดที่ 0.55 บาท ต่ำสุดที่ 0.53 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 24.72 ล้านบาท

อันดับ 7 บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ PRIN ราคาหุ้นปิดตลาดวานนี้ (6 มิ.ย.) อยู่ที่ 1.43 บาท บวก 0.03 บาท หรือ 2.14% สูงสุด 1.46 บาท ต่ำสุดที่ 1.41 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 12.44 ล้านบาท

อันดับ 8 บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI ราคาหุ้นปิดตลาดวานนี้ (6 มิ.ย.) อยู่ที่ 1.67 บาท บวก 0.04 บาท หรือ 2.45% สูงสุดที่ 1.70 บาท ต่ำสุดที่ 1.63 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 527.51 ล้านบาท

อันดับ 9 บริษัท เสนาดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SENA ราคาหุ้นปิดตลาดวานนี้ (6 มิ.ย.) อยู่ที่ 3.22 บาท บวก 0.14 บาท หรือ 4.55% สูงสุดที่ 3.22 บาท ต่ำสุดที่ 3.10 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 92.30 ล้านบาท

อันดับ 10 บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI ราคาหุ้นปิดตลาดวานนี้ (6 มิ.ย.) อยู่ที่ 22 บาท บวก 0.30 บาท หรือ 1.38% สูงสุดที่ 22 บาท ต่ำสุดที่ 21.70 บาท มูลค่าซื้อขายที่ 169.72 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ นายเทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส ระบุว่าวานนี้ (6 มิ.ย.) ณ เวลา 10.11 น. ดัชนีกลุ่มอสังหาริมทรัพย์บวก 1.32% มาอยู่ที่ 276.95 จุด เพิ่มขึ้น 3.62 จุด โดยหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์มีความน่าสนใจลงทุนจาก 2 ปัจจัยในเรื่องผลประกอบการงวดไตรมาส 2/59 คาดว่าจะมีการเติบโตแบบก้าวกระโดด เนื่องจากมีการโอนกันมากขึ้น อีกส่วนก็เป็นเรื่อง Valuation ถือว่าถูก ขณะที่มีการอัตราผลตอบแทนจากการจ่ายเงินปันผลที่สูง แต่สำหรับมาตรการกระตุ้นอสังหาริมทรัพย์รอบใหม่จากภาครัฐบาลนั้นขณะนี้ยังไม่ชัดเจน แต่ก็ยังต้องติดตามต่อไป

 

ขณะเดียวกัน นายภาดล วรรณรัตน์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ระบุว่า ราคาหุ้น QH วานนี้ (6 มิ.ย.) ปรับตัวขึ้น ด้วยวอลุ่มเทรดที่เข้ามาอย่างคึกคัก คาดว่าจะเป็นการสลับตัวเล่นกันในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ เพราะเมื่อวันที่ 3 มิ.ย.ที่ผ่านมาก็มาเล่น PS แต่วานนี้มาเลือกเล่น QH ทั้งนี้ หากมองหุ้นในกลุ่มอสังหาริมทรัพย์จะเห็นได้ว่าเริ่มฟื้นขึ้น เนื่องจากมีการเทรด P/E ที่ต่ำ ขณะที่ให้อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลสูง โดย QH ให้ถึง 5.5% ต่อปี

 

นอกจากนี้ นักวิเคราะห์บริษัทหลักทรัพย์บัวหลวง ระบุในบทวิเคราะห์ (6 มิ.ย.) ว่า ได้ปรับเพิ่มน้ำหนักการลงทุนกลุ่มอสังหาริมทรัพย์เป็น “มากกว่าตลาด” โดย Top Picks คือ ANAN ,AP ,LH และ SPALI เนื่องจากคาดว่ากำไรจะเติบโตในช่วงครึ่งปีหลังของปี 59 จนถึง ปี 60 ดีที่สุด โดยมีปัจจัยสนับสนุนจาก

1) คาดมาร์จิ้นจะผ่านจุดต่ำสุดในไตรมาส 2/59เพราะมาตรการกระตุ้นช่วยลด inventory ลงไปได้ 14% จากปีก่อน

2) คาดกำไรจะเติบโตในช่วงครึ่งปีหลังของปี 59 เนื่องจากมีคอนโดสร้างเสร็จพร้อมโอน

3) คาดยอดจองซื้อ (Presales) กลับมาโตในช่วงเดือนมิ.ย.นี้ เนื่องจากมีการเปิดตัวโครงการใหม่เป็นจำนวนมาก และ P/E กลุ่มที่ถูกมากเพียง 8.4 เท่า (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในอดีตที่ 10.8 เท่า)

 

*อนึ่งข้อมูลที่มีการนำเสนอข้างต้น เป็นเพียงข้อแนะนำจากข้อมูลพื้นฐานเพื่อประกอบการตัดสินใจของนักลงทุนเท่านั้น และมิได้เป็นการชี้นำ หรือเสนอแนะให้ซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ การตัดสินใจซื้อหรือขายหลักทรัพย์ใดๆ ของผู้อ่าน ไม่ว่าจะเกิดจากการอ่านบทความในเอกสารนี้หรือไม่ก็ตาม ล้วนเป็นผลจากการใช้วิจารณญาณของผู้อ่าน

Back to top button