อีกาคาบข่าว(ลือ)แฉทุกวัน ทันเกมหุ้น
จู่ๆ โดยไม่มีปี่มีขลุ่ย...ราคาหุ้นของบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK ก็วิ่งขึ้นจากระดับ 7.70 บาทเมื่อปิดตลาดวันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน ก็มีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่องพร้อมด้วยมูลค่าซื้อขายหนาแน่นผิดปกติ ดันราคาพุ่งขึ้นไปจนถึงราคาสูงสุดของวันที่ 9.60 บาท ก่อนที่จะมีแรงขายทำกำไรออกมาจนถึงช่วงเวลาปิดตลาดวันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน ที่ 8.55 บาท
จู่ๆ โดยไม่มีปี่มีขลุ่ย…ราคาหุ้นของบริษัท สายการบินนกแอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOK ก็วิ่งขึ้นจากระดับ 7.70 บาทเมื่อปิดตลาดวันศุกร์ที่ 3 มิถุนายน ก็มีแรงซื้อเข้ามาต่อเนื่องพร้อมด้วยมูลค่าซื้อขายหนาแน่นผิดปกติ ดันราคาพุ่งขึ้นไปจนถึงราคาสูงสุดของวันที่ 9.60 บาท ก่อนที่จะมีแรงขายทำกำไรออกมาจนถึงช่วงเวลาปิดตลาดวันจันทร์ที่ 6 มิถุนายน ที่ 8.55 บาท
แรงซื้อที่หนาแน่นดังกล่าว เกิดจากกระแสข่าว (ที่อ้างว่า) “วงใน” ที่ระบุว่า ในไตรมาส 2 ของปีนี้ งบการเงินของ NOK จะกลับมามีกำไรอีกสวยงาม หลังจากขาดทุนไตรมาสแรกไปแล้วเพราะปัญหาความขลุกขลักของเที่ยวบินที่เกิดจากการขาดแคลนนักบินนานหลายเดือน
ข่าวเรื่องผลประกอบการที่จะเทิร์นอะราวด์ของบริษัทจดทะเบียน มีเสน่ห์เสมอ…ใครจะกล้าเถียง
-ข่าวลือดังกล่าวมาจากการชี้นำในบางสื่อว่า NOK ราศีจับ เพราะตัวแปรหลายข้อคือ 1) ยอดขายตั๋วพุ่ง หนุนผลงานไตรมาสสอง 2) เพิ่มเส้นทางบินใหม่โดยจับมือ 8 สายการบินชั้นนำ สยายปีกฐานลูกค้าเต็มสูบ 3) นักวิเคราะห์ไม่รู้สำนักไหน ชี้ว่าอนาคตไกล 10.40 บาท 4) รับมอบเครื่องบินไอพ่น (Boeing 737-800 New Generation) จำนวน 1 ลำ ส่งผลให้มีเครื่องบิน เพิ่มเป็น 29 ลำ ทำให้ศักยภาพดียิ่งขึ้น
เพียงแต่ข่าวลือทำนองนี้ มักจะเป็นความจริงเสียเพียงส่วนน้อย เพราะดูยังไงเสีย โอกาสที่ NOK จะกลับมาทำกำไรไตรมาสสองของปีนี้ ค่อนข้างยาก …เพราะขนาดไม่มีปัญหาอะไร ยังขาดทุนเลย
หากย้อนดูงบการเงินจะเห็นชัดว่า 3 ปีนับตั้งแต่เข้าตลาดมา NOK มีกำไรเฉพาะปีแรกเท่านั้น แต่หลังจากนั้น แม้จะมีรายได้เติบโตสวยงามตลอด แต่ก็ปรากฏตัวเลขขาดทุนสุทธิมาโดยตลอด 2 ปีรวด โดยปี 2557 ขาดทุนสุทธิ 471.66 ล้านบาท ปี 2558 ขาดทุนไปอีก 726.10 ล้านบาท และไตรมาสแรกปี 2559 ก็ขาดทุนบานเบอะไตรมาสเดียว 405.82 ล้านบาท
เว้นเสียแต่ว่า ซีอีโอสุดหล่อ..แต่อีคิวชวนตั้งคำถาม…อย่าง นายพาที สารสิน จะมีความสามารถเหนือกว่าระดับสามัญมนุษย์ที่ทำให้ NOK กลับมากำไรโดดเด่นเหนือคำบรรยายได้…ถ้าเป็นเช่นนั้นจริงก็ต้องขอยกนิ้วให้ว่าเจ๋งจริง
เมื่อยังพิสูจน์ไม่ได้ เพราะยังไงก็ต้องรอว่าข่าวลือจะจริงหรือไม่ ในการรายงานงบการเงินในเดือนสิงหาคมโน่นแหละ..จะรู้ว่าจริงหรือไม่จริง
ดังนั้น ในช่วงเวลาเฉพาะหน้า ทางตลาดก็เลยต้องป้องกันไว้ก่อน ขึ้นเครื่องหมาย TA ให้กับหุ้น NOK ในทันทีเช้าวานนี้ เริ่มตั้งแต่ 7-27 มิถุนายน ด้วยคำชี้แจงว่า “…สภาพการซื้อขายหลักทรัพย์เปลี่ยนแปลงไปอย่างมากจากวันก่อนหน้าเพื่อให้ผู้ถือหุ้นและหรือผู้ลงทุนได้มีข้อมูลในการประกอบการตัดสินใจลงทุนอย่างครบถ้วน…”
การขึ้นเครื่องหมาย TA ดังกล่าว เกิดขึ้นพร้อมกับที่ฝ่ายบริหารของ NOK ชี้แจงข้อเท็จจริงว่า “….บริษัทไม่มีพัฒนาการใดๆ ที่ยังไม่ได้เปิดเผย หรือสารสนเทศที่มีนัยสำคัญที่บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาและอาจเปิดเผยต่อตลาดหลักทรัพย์ฯในระยะเวลาอันใกล้ เช่น การเพิ่มทุน การร่วมทุน การได้มาหรือจำหน่ายไปซึ่งทรัพย์สินหรือข้อพิพาทที่สำคัญ ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อสภาพการซื้อขายที่เปลี่ยนแปลงไป ขณะที่บริษัทไม่ทราบถึงสาเหตุอื่นใดที่อาจส่งผลกระทบต่อการซื้อขาย…”
เมื่อเกิดสถานการณ์พลิกผันอย่างนี้ บรรดาป๋าดัน..ก็ต้องสั่งถอยอย่างเดียว ไม่เป็นอย่างอื่น
ราคา NOK เมื่อวานนี้ก็เลยร่วงกลับมาดูเชิงกัน โดยปิดตลาดที่ 8.35 บาท …เรียกว่ากลัวเสียฟอร์มและขาดทุนหนักก็เลยต้องหาทางประคองกันเอาไว้สุดฤทธิ์…ส่วนใครเป็นใครเบื้องหลังการดันราคาครั้งนี้ …อย่าได้ถาม เพราะแม้กระทั่งตลาดฯ หรือ ก.ล.ต.ก็ไม่มีทางตรวจสอบได้หรอก…เพราะอาจจะต้องรอชาติหน้าบ่ายๆ
การนำเอาเรื่องราวของหุ้นบริษัทที่เคยมีผลประกอบการย่ำแย่ (ขาดทุนมากขึ้น หรือ กำไรลดน้อยถอยลง) มาแต่งเรื่องว่ากำลังจะเทิร์นอะราวด์นั้น ไม่ใช่เรื่องใหม่ และไม่ใช่ครั้งสุดท้าย เพราะเสน่ห์ของข่าวลือดังกล่าว เร้าใจเกินจะห้ามบรรดาแมงเม่าในตลาดได้ …แม้จะรู้ดีว่า มีความเสี่ยงสูง
โดยข้อเท็จจริง หากพิจารณา “ระหว่างบรรทัด” ของคำชี้แจงผู้บริหารของ NOK จะเห็นว่ามีความชัดเจนในตัว ที่ยืนยันอีกครั้งว่าปัญหาของการขาดแคลนนักบิน NOK นั้น ยังไม่ได้รับการแก้ไขชนิด 100% และอาจจะทำให้ผลประกอบการยังคงขาดทุนในไตรมาส 2 ต่อไปได้
ที่ผ่านมา สถิติของธุรกิจการบินระบุว่า ไตรมาส 2 และ 3 เป็นโลว์ซีซั่นของธุรกิจสายการบินพาณิชย์มาโดยตลอด โอกาสขาดทุนจึงมีสูงกว่าไตรมาสแรก หรือไตรมาสสุดท้ายของปี …ตรรกะที่วา NOK จะกลับมาทำกำไรในไตรมาสสองปีนี้ จึงต้องผ่านการกรองให้รอบคอบ
ที่สำคัญ ความเสียหายของแบรนด์สินค้าของนกแอร์ ที่ย่อยยับจากการที่ NOK ทำลายจุดขายสำคัญของธุรกิจโดยตรงจากการที่ขาดความแม่นยำต่อเวลาขึ้นลงของเที่ยวบิน ความปลอดภัย และความสะดวกอื่นๆ หลังจากเกิดการขาดแคลนนักบินกะทันหัน …ยังส่งผลให้ความไม่เชื่อมั่นของผู้โดยสารดำรงอยู่ แม้จะสร่างซาไปมากพอสมควร แต่จะให้ลืมสนิทคงยาก…
สงครามวันเดียวของหุ้น NOK จึงจบลงเร็วกว่าธรรมดา
อิ อิ อิ