PTTGC:ธุรกิจโอเลฟินส์หนุนกำไรปีนี้แนะซื้้อ P/E ต่ำสุดในกลุ่ม-ปันผลสูง

PTTGC แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 70 บาท โดยราคาหุ้นมี Valuation ที่จูงใจ ณ ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ P/E ปี 59 ที่ 9.3 เท่า ซึ่งต่ำสุดในกลุ่มปิโตรเคมีของภูมิภาคเอเชียซึ่งมีค่า P/E เฉลี่ย 14 เท่า และจ่ายปันผลสูง


บล.ดีบีเอสฯ ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (8มิ.ย.) ว่าบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC ธุรกิจโอเลฟินส์ทำกำไรได้ดีและหนุนผลประกอบการปี 59 เนื่องจากอุปทานที่ค่อนข้างตึงตัวและอุปสงค์ที่ยังสูงของกลุ่มผลิตภัณฑ์เอทธีลีน ทำให้มาร์จิ้นยังแข็งแกร่ง โดยราคาผลิตภัณฑ์เพิ่มใน ไตรมาส 2/59 เพราะหลายโรงงานในภูมิภาคปิดซ่อมบำรุง ขณะที่อุปสงค์เอเชียตะวันออกเฉียงเหนือแข็งแกร่ง ภาวะอุปทานล้นของโพรพิลีนผ่อนคลายลงเนื่องจากอุปสงค์ที่สูงขึ้นจากลุ่มบรรจุภัณฑ์ และโรงงานใหม่เปิดดำเนินการล่าช้า

ความเสี่ยงจากภาวะอุปทานล้นเกินในผลิตภัณฑ์อะโรเมติกส์ยังคงมีอยู่ และมีโอกาสที่มาร์จิ้นจะอ่อนลงจาก ไตรมาส 1/59 เพราะจะมีกำลังการผลิตใหม่ของรีไลแอนซ์ อินเดียเข้ามาในช่วง 2H59 โดยเป็นกำลังการผลิตพาราไซลีน 2.2 ล้านตัน/ปี เริ่มผลิตเชิงพาณิชย์ตั้งแต่ก.ย.59 และ PTTGC ก็มีกำลังการผลิตเข้ามาตั้งแต่พ.ค.59 อีก 7.5% เป็น 2.4 ล้านตัน/ปีด้วย

โครงการ MTPR (“Map Tha Put Retrofit”) ทำให้มีกำลังการผลิตเพิ่ม 4% ต่อปีในช่วงปี 59-63 โดยเป็นการลงทุนขยายกำลังการผลิตส่วนอะโรเมติกส์และฟีนอลในปี 59 และหลังจากนั้นจะลงทุนขยายโรงงานแนฟทาในพื้นที่เดิมจ.ระยอง โดยจะพัฒนาแนฟทาเป็นผลิตภัณฑ์โอเลฟินส์แทนที่จะขายออกข้างนอก ซึ่งจะทำให้มีกำไรเพิ่มขึ้น โครงการอัพเกรดแนฟทานี้จะเริ่มลงทุนไตรมาส 1Q61 และเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ในปี 63 โรงงานใหม่นี้ทำให้กำลังการผลิตโอเลฟินส์เพิ่ม 25% จากปัจจุบันและทำให้มีความยืดหยุ่นในการใช้วัตถุดิบรวมทั้งบริหารภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น (โรงงานใหม่ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจาก BOI) ผู้บริหารคาดว่าจะสรุปเรื่องเม็ดเงินลงทุนได้ในปลายปี 59 นี้ สำหรับการลงทุนในใน Shale gas ที่สหรัฐ จะตัดสินใจในปลายปีนี้ ในเบื้องต้นบริษัทมีแผนที่จะสร้างโรงงานอีเธนขนาด 1 ล้านตัน/ปีที่เบลมอนต์ รัฐโอไฮโอ เพื่อขายในพื้นที่โดยผ่านพันธมิตรทางธุรกิจ

เรามีมุมมองเชิงบวกในระยะกลาง-ยาวกับบริษัท จากการที่บริษัทเพิ่มกำลังการผลิตและการปรับปรุงประสิทธิภาพอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีการปรับกลยุทธ์ด้านการตลาด โดยหันมาเจาะตลาดอาเซียนที่มีอุปสงค์เติบโตสูงมากขึ้น ลดการพึ่งพาตลาดจีน (มีแผนลดการส่งออกไปจีนจาก 17% เป็น 10% เพิ่มการส่งออกไปอาเซียนจาก 3% เป็น 5% ในปี 59 และเป็น 10-15% ในอีก 2 ปีข้างหน้า) ผู้บริหาร PTTGC ให้ Guidance ว่ารายได้ในปี 60 จะเติบโตไม่น้อยกว่า 17% หลังกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 7% จากปัจจุบันที่มีกำลังการผลิตรวม 8.75 ล้านตัน/ปี

แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 70 บาท โดยราคาหุ้น PTTGC มี Valuation ที่จูงใจ ณ ราคาปัจจุบันซื้อขายที่ P/E ปี 59 ที่ 9.3 เท่า ซึ่งต่ำสุดในกลุ่มปิโตรเคมีของภูมิภาคเอเชียซึ่งมีค่า P/E เฉลี่ย 14 เท่า และจ่ายปันผลสูง โดยคาดการณ์อัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลปี 59-61 ไว้ที่ปีละ 5%+/- ทั้งนี้บริษัทมีความได้เปรียบผู้ประกอบการรายอื่นในสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะใช้วัตถุดิบเป็นก๊าซ ซึ่งราคาก๊าซจะปรับขึ้นช้ากว่าแนฟทา

Back to top button