SET ไปต่อรับ Fund Flow ไหลเข้าเคาะ 9 บจ.เด็ด หุ้นพลังงานนำตลาด
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นโดยได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงานที่ได้รับผลดีจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกซึ่งฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เชื่อว่ายังมีแรงหนุน Fund Flow ต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะ Fund Flow จากยุโรปที่คาดว่าจะไหลเข้าจาก ECB ที่เริ่มเข้าซื้อบอนด์เอกชนราว 5-10 พันล้านยูโรต่อเดือน
ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์ รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.15 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.08 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียอ่อนตัวลง หลังเงินเยนแข็งค่าฉุดตลาดหุ้นญี่ปุ่นปรับตัวลดลง แม้ราคาน้ำมันที่ดีดตัวจะหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานให้ปรับตัวสูงขึ้นก็ตาม
นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสปรับตัวขึ้นโดยได้แรงหนุนจากหุ้นในกลุ่มพลังงานที่ได้รับผลดีจากราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกซึ่งฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่เชื่อว่ายังมีแรงหนุน Fund Flow ต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะ Fund Flow จากยุโรปที่คาดว่าจะไหลเข้าจาก ECB ที่เริ่มเข้าซื้อบอนด์เอกชนราว 5-10 พันล้านยูโรต่อเดือน
การลงทุนเน้นกลุ่มที่ได้รับผลดีจากการปรับขึ้นของราคาน้ำมัน และกลุ่มที่ถูกปรับประมาณการกำไรขึ้น หุ้นเด่นเลือก PTT-PTTEP-PTTGC-SGP-IRPC-GPSC-BEAUTY-ROBINS และ SEAFCO
บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (9 มิ.ย.) ว่า ราคาน้ำมันปรับสูงขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ต่อเนื่องจากสต็อกน้ำมันสหรัฐฯที่ปรับลดลง เป็นปัจจัยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงาน (PTT PTTEP PTTGC) รวมไปถึงสภาพคล่องตลาดเงิน-ทุน โลกสูง มอง Fed ไม่ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุมใน 1-2 เดือนนี้ หนุน SET ปรับสูงขึ้นด้วยเป้าหมาย 1,460 จุด เหมือนเดิม
แนะนำเก็งกำไรใน 1) กลุ่มหุ้นที่ได้รับผลดีจากราคาน้ำมันปรับสูงขึ้น : “ซื้อ” PTTGC SGP (กำไรเติบโตสูง +60% ปีนี้ PE ต่ำ 7.5 เท่า) และ “เก็งกำไร” PTT (ต้าน 326/340 บาท)
2) กลุ่มหุ่นที่ถูกปรับประมาณการกำไรขึ้น : “ซื้อ” ROBINS (ปรับเป้าหมายพื้นฐานขึ้นเป็น 67 บาท อัตรากำไรดีกว่าที่คาด) CPF (ราคาหมูสูง ธุรกิจกุ้งฟื้นตัว) IRPC GPSC BEAUTY
และ 3) กลุ่มรับเหมาฯ การลงทุนภาครัฐฯ เร่งตัว : “ซื้อ” SEAFCO (แนวต้าน 11.4 – มีโอกาสรับงานฐานรากเพิ่มจากรถไฟรางคู่ การขยายสนามบินสุวรรณภูมิ หนุนกำไรโต 40% ต่อปี PE ต่ำสุดในกลุ่มรับเหมาฯ)
บล.แอพเพิล เวลธ์ ระบุในบทวิเคราะห์ (9 มิ.ย.) แนะนำกลยุทธ์การลงทุน ตลาดหุ้นไทยยังได้แรงหนุนจากกลุ่มพลังงาน และทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐที่อาจจะเริ่มทยอยปรับขึ้นได้ช่วงปลายปี พ.ย. หรือ ธ.ค. นี้ ส่งผลให้เม็ดเงินยังคงไหลเข้าเก็งกำไรสินทรัพย์เสี่ยง ฝ่ายวิจัยยังแนะนำถือพอร์ตการลงทุน โดยวางแนวต้านที่ระดับ 1,460-1,480 จุด แนะนำเก็งกำไร PTT, PTTEP และ PTTGC (+ทิศทางราคาน้ำมันตลาดโลก )
บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (9 มิ.ย.) แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้มีมุมมองเป็นกลางถึงบวกต่อตลาดวันนี้ SET น่าจะ Sideways up จากแรงหนุน Fund Flow ต่างชาติที่ไหลเข้าตลาดหุ้นต่อเนื่อง โดยเฉพาะ Fund Flow จากยุโรปที่คาดว่าจะไหลเข้าจาก ECB ที่เริ่มเข้าซื้อบอนด์เอกชนราว 5-10 พันล้านยูโรต่อเดือน นำโดยหุ้นกลุ่มน้ำมันที่ได้อานิสงส์จากราคาน้ำมันดิบที่ปรับขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 และยังมีโอกาสปรับขึ้นได้อีกจากภาวะอุปทานตึงตัวค่อนข้างมากในระยะสั้นทั้งเหตุ Supply Disruption ค่าเงินดอลลาร์อ่อนค่า และ EIA คาดปริมาณการผลิตในเดือนพ.ค. ลดลงมากถึง 200,000 บาร์เรล/วัน ซึ่งถือว่าเป็นการปรับลงมากสุดภายในเดือนเดียว ประกอบกับ EIA ยังรายงานสต๊อกน้ำมันดิบสหรัฐสัปดาห์ที่ผ่านมาลดลงอีก 3.2 ล้านบาร์เรล ดังนั้นราคาหุ้นกลุ่มพลังงานยังคงปรับขึ้นต่อได้
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective BUY/ยังเน้นขึ้นขายแล้วรอซื้อกลับ
หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น : PTTGC และ PTT (มีแนวโน้มปรับประมาณการเพิ่มหลังราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นมากกว่าคาด)