SET เสี่ยงรูดต่อ เหตุไร้ปัจจัยใหม่หนุนชู 7 หุ้นประจันบานปันผลสูง-พื้นฐานดี

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยคาดจะเปิดในแดนลบและซึมตัวลง จากแรงกดของดัชนีในภูมิภาคที่ปรับตัวลง และเสี่ยงเจอแรงขายทำกำไรหุ้นในกลุ่มหลักๆ หลังไม่มีปัจจัยหนุนประเมินกรอบการพักฐานที่บริเวณ 1,420-1,440 จุดขณะที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลง


ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์รายงาน เช้านี้ ณ เวลา 9.22 น. ค่าเงินบาทอยู่ที่ 35.22 บาทต่อเหรียญ ขณะที่ตลาดหุ้นเอเชียเปิดปรับตัวลงตามตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปที่ร่วงลงเมื่อคืนนี้เช่นกัน หลังราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงลงราว 1.3% นอกจากนี้ นักลงทุนยังระมัดระวังการซื้อขายก่อนที่การประชุมเฟด และธนาคารกลางญี่ปุ่นจะมีขึ้นในสัปดาห์หน้า

นักวิเคราะห์มองดัชนีหุ้นไทยมีแนวโน้มเปิดในแดนลบและซึมตัวลงจากแรงกดของดัชนีในภูมิภาคที่ปรับตัวลง และเสี่ยงเจอแรงขายทำกำไรหุ้นในกลุ่มหลักๆ หลังไม่มีปัจจัยหนุน ขณะที่ราคาน้ำมันในตลาดโลกปรับตัวลง ประเมินกรอบการพักฐานที่บริเวณ 1,420-1,440 จุด หุ้นเด่นเลือก  JASIF-DIF-BTSGIF-KTC-MTLS-UNIQ และ STEC

 

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ (10 มิ.ย.) มีมุมมองเป็นกลางต่อตลาดวันนี้  คาดว่า SET น่าจะผันผวนในทิศทางลงตามตลาดหุ้นต่างประเทศ และรอปัจจัยบวกใหม่เข้าสู่ตลาด แม้ตลาดจะถูกแรงเทขายทำกำไรระยะสั้นออกมาต่อเนื่องหลัง SET ปรับขึ้นต่อเนื่องกว่า 2 สัปดาห์ติดต่อกัน แต่ก็ไม่น่าจะปรับลงมาก ซึ่งเชื่อว่าน่าจะเป็นโอกาสในการเข้าซื้อสะสมรอบใหม่ หุ้นในกลุ่มธนาคารอาจได้รับแรงกดดันจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลทั่วโลกที่ปรับตัวลงต่ำสุดในรอบปี โดยเฉพาะอัตราผลตอบแทนพันธบัตรในยุโรปที่กำลังเข้าสู่ระดับต่ำสุดใหม่หลัง ECB เริ่มเข้าซื้อ Corporate Bond เมื่อวันพุธที่ผ่านมา ส่งผลให้ค่าเงินยูโรอ่อนค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐและอัตราผลตอบแทนพันธบัตรของสหรัฐอายุ 10 ปีก็ปรับตัวลงต่ำสุดตั้งแต่เดือนก.พ.

อย่างไรก็ดีเชื่อว่าเหตุการณ์นี้จะกดดันให้เฟดยังไม่รีบปรับขึ้นดอกเบี้ย และ Fund Flow จะยังไหลเข้าหาสินทรัพย์ที่มีอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าอย่างตลาดหุ้น หรือ พันธบัตรรัฐบาลของประเทศที่ยังมีอัตราผลตอบแทนที่อยู่ในระดับสูง โดยเฉพาะในเอเชียรวมถึงบ้านเราด้วย แต่ในทางตรงกันข้ามการที่ Bonds Yield ต่ำมากๆ ก็แสดงถึงภาวะเศรษฐิจโลกอ่อนแอมาก 

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ Selective BUY หุ้นเก็งกำไรระยะสั้น MTLS (เจ้าแม่เงินกู้)

 

บล.ธนชาต ระบุในบทวิเคราะห์ (10 มิ.ย.) ว่า SET ยังไม่ไม่ถึงเป้าหมายที่ 1,460 จุด แต่เริ่มมีสัญญาณ “พักฐาน” ระยะสั้นเกิดขึ้นแล้วเมื่อวานนี้ ประเมินกรอบการพักฐานที่บริเวณ 1,420-1,440 จุด ขณะที่แรงขายทำกำไรน้ำมันดิบ Brent หลังปรับสูงขึ้นแรงก่อนหน้านี้ กดดันราคา 1.1% จะเป็นอีกปัจจัยที่กดดัน SET วันนี้

สำหรับการประชุม Fed ในเดือน มิ.ย.-ก.ค.นี้ คาดว่าจะคงดอกเบี้ยที่ 0.25-0.50% ต่อไป กดดัน Bond Yield 10 ปีสหรัฐฯ ต่ำสุดตั้งแต่ ก.พ. ที่ 1.68% เช้านี้ ขณะที่ Bond Yield 10 ปีไทยลดลงอยู่ที่ 2.07%

แนะนำ “Selective” กลุ่มหุ้นที่มีกระแสเงินสดสม่ำเสมอ, ผลตอบแทนปันผลสูง, Beta ต่ำรองรับการพักฐานของ SET และได้รับผลดีจากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยต่ำ ล่าสุด Bond Yield 10 ปีไทยลดลงเหลือ 2.07% อย่าง Infrastructure Fund คาดว่าจะให้ผลตอบแทนดีกว่าตลาดในช่วงการ “พักฐาน แนะนำ “ซื้อ” JASIF (ปันผล 9.4%) DIF (ปันผล 6.7%), BTSGIF (ปันผล 5.8%) รวมไปถึงบัตรเครดิตอย่าง KTC (ปันผล 4% พื้นฐาน 110 บาท)

 

บล.ซีไอเอ็มบี (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (10 มิ.ย.) ว่า หากทิศทางตลาดในต่างประเทศในอาทิตย์หน้า ซึมตัวลง ทิศทางตลาดหุ้นไทยน่าจะกลับมาแกว่งตัวแรงขึ้น หลังดัชนีไม่ผ่าน 1,450 จุด นอกจากนั้นปัจจัยที่จะหนุนตลาดใหม่ๆ ยังไม่มีเข้ามา ทำให้มองว่าในสัปดาห์หน้าดัชนี SET จะลงมาเล่นในกรอบ 1,400+/- จุด ส่วนกลุ่มอุตสาหกรรมที่อาจจะเผชิญแรงขาย คือ ธนาคารพาณิชย์ สื่อสาร อสังหาริมรัพย์ ค้าปลีก โยงท่องเที่ยวและพลังงาน

อย่างไรก็ตามกลุ่มที่คาดว่าน่าจะกระเตื้องขึ้นมา คือ รับเหมาและวัสดุก่อสร้างเล็ก เนื่องจากราคาหุ้นยังติดลบหรือยัง Underperform กว่าดัชนี SET รวมทั้งแรงคาดหวังว่าในครึ่งปีหลังปี 59 จะมีเม็ดเงินลงทุนในโครงสร้างพื้นฐาน ส่วนการขึ้นลงของกลุ่มหลักๆตั้งแต่ต้นปีถึงปัจจุบันพบว่ากลุ่มพลังงาน ขึ้นสูงสุดประมาณ 30% ส่วน ค้าปลีก สื่อสาร ธนาคารและอสังหาริมทรัพย์ ปรับตัวขึ้นในกรอบ 10-15%

สำหรับทิศทางดัชนีในวันนี้ คาดจะเปิดในแดนลบและซึมตัวลง จากแรงกดของดัชนีในภูมิภาคและแรงขายทำกำไรหุ้นในกลุ่มหลักๆ หลังไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ ขณะที่ตลาดหุ้นไทยขึ้นไปเล่นที่ค่า P/E เกือบสูงสุดในรอบ 10 ปี โดยดัชนีจะเริ่มแกว่งตัวแรงขึ้น โดยวันนี้มองแนวต้านที่ 1,440-1,445 จุดส่วนแนวรับที่ 1,428-1,424 จุด วันนี้แนะนำ ซื้อเก็งกำไร UNIQ และ STEC

 

บล.เคจีไอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ (10 มิ.ย.) ว่า SET วันศุกร์แกว่งลง โดยช่วงสั้นดัชนีอาจอ่อนกว่าที่คาดไว้เล็กน้อย หุ้นโลกกลับมากังวลเศรษฐกิจชั่วคราว หลังตัวเลขส่งออก/นำเข้าจีน รวมทั้งเงินเฟ้อจีน ต่ำคาดใน พ.ค. ผนวกข่าวสารเช่น ธนาคารกลางเกาหลีใต้ลดดอกเบี้ย (ผิดจาก consensus คาด) และประธาน ธ.กลางยุโรเตือนความเสี่ยงของเศรษฐกิจในยูโรโซน

ด้านแรงสนับสนุนจากตลาดน้ำมันลดลง โดยราคาน้ำมันปรับฐาน 2% หลังดัชนีเงินดอลล่าร์ฯ รีบาวด์ ทั้งนี้มองฟันด์โฟลว์ชะลอชั่วคราว เพราะนักลงทุนคงเลือกรอปัจจัยสำคัญในสัปดาห์หน้า เช่น การตัดสินใจของ MSCI ว่าจะรวมหุ้น A-share ของจีนเข้าดัชนีหรือไม่ 14 มิ.ย. และผลประชุม ธ.กลางสหรัฐฯ 15 มิ.ย. 59 ทั้งนี้มองความเสี่ยงทางลงของดัชนีที่ 1,420 จุด อิง current PE ที่ 17 เท่า โดยระดับดัชนีดังกล่าวสูงขึ้นจาก 1,400 จุด 

Back to top button