พาราสาวะถี อรชุน
มีคนเยาะหยันว่าวันนี้ของ สมชัย ศรีสุทธิยากร ถึงขั้นลงไปทะเลาะกับเด็กหัวเกรียนระดับมัธยมศึกษากันแล้ว หลังจากตั้งป้อมจะเอาผิดกับกลุ่มพลเมืองโต้กลับที่ทำคลิปเพลงไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ โดยหนึ่งในนั้นมี พริษ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน จากกลุ่มศึกษาเพื่อความเป็นไท คนที่เคยเตรียมป้ายไปชูถาม พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อปีที่ผ่านมา
มีคนเยาะหยันว่าวันนี้ของ สมชัย ศรีสุทธิยากร ถึงขั้นลงไปทะเลาะกับเด็กหัวเกรียนระดับมัธยมศึกษากันแล้ว หลังจากตั้งป้อมจะเอาผิดกับกลุ่มพลเมืองโต้กลับที่ทำคลิปเพลงไม่รับร่างรัฐธรรมนูญ โดยหนึ่งในนั้นมี พริษ ชิวารักษ์ หรือ เพนกวิน จากกลุ่มศึกษาเพื่อความเป็นไท คนที่เคยเตรียมป้ายไปชูถาม พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เมื่อปีที่ผ่านมา
ด้วยสถานะของเพนกวินที่ยังเป็นเด็กนักเรียนมัธยมปลาย หลายคนจึงตั้งคำถามว่าเหตุใดผู้มีอำนาจจึงกลัวกันถึงขนาดนั้น แม้กระทั่ง มีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ.ก็ยังแสดงความไม่พอใจต่อการเคลื่อนไหวของนักเรียนคนนี้รวมทั้งกลุ่มที่เรียกร้องไม่ให้มีการยกเลิกเรียนฟรีในระดับชั้นม.ปลาย ซึ่งทั้งหมดเคยไปชูป้ายถามมีชัยเมื่อคราวไปบรรยายเรื่องร่างรัฐธรรมนูญที่มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต มาแล้ว
ล่าสุดกับการที่สมชัยขู่ว่าคนที่ปรากฏในคลิปเพลงดังกล่าวหากบริสุทธิ์ใจให้รีบไปแจ้งความลงบันทึกประจำวันไว้ว่าไม่ได้เจตนาทำผิดกฎหมายประชามติ แต่พริษกลับประกาศว่าไม่ทำตามคำแนะนำของกกต.คนดังกล่าว พร้อมกับตั้งคำถามว่า “ผมผิดอะไร” ท่านกล่าวหาว่าการกระทำของผมอาจขัดกับกฎหมายความมั่นคง ความมั่นคงของท่านเปราะบางขนาดที่จะถูกคุกคามด้วยการเต้นของนักเรียนมัธยมปลายคนหนึ่งเลยหรือ
ก่อนจะตามมาด้วยคำถามอีกชุดใหญ่ เพียงแค่แสดงจุดยืนของตัวเองผ่านศิลปะอย่างสงบ ใช้สันติวิธี ก็ถือว่าเป็นการปลุกระดมได้แล้วหรือ การกล่าวหาว่าการกระทำของตนอาจขัดกับกฎหมายอาญา เพียงการเต้น การแสดงจุดยืนอย่างสันตินั้นจะผิดกฎหมายมาตราใดหรือ ตนมิได้พาดพิงใครในทางเสียหายอย่างเจาะจงรายบุคคล จะถือว่าหมิ่นประมาทผู้ใดได้หรือ และที่กล่าวหาว่าอาจละเมิดประกาศของคสช. ก็ขอถามว่าละเมิดประกาศฉบับใด ข้อใดหรือ เพียงเต้นกันเฉยๆ จะถูกดำเนินคดีเลยหรือ
เพนกวินยืนยันว่าทุกการกระทำล้วนบริสุทธิ์ใจ เป็นไปเพื่อทวงคืนสิทธิการศึกษา ซึ่งเป็นประโยชน์ส่วนรวมทั้งสิ้น การเต้นประกอบคลิปเพลงกระทำไปด้วยความซื่อสัตย์ต่อหลักการของตน มีผลประโยชน์ของสังคมเป็นใหญ่ ไม่ได้มุ่งทำร้ายใคร ไม่ได้ละเมิดสิทธิใคร เหตุใดกกต.สมชัยจึงคิดว่า การกระทำของตนและคนอื่นๆ ในคลิปจะละเมิดกฎหมายทั้งหลายเหล่านั้น ซ้ำยังจะให้ไปลงบันทึกประจำวันในความผิดที่ไม่ใช่ความผิดเสียอีก
ยืนยันว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมายอันชอบธรรมใดๆ ทั้งสิ้น การที่นักเรียนลุกขึ้นมาทวงสิทธิการศึกษาคืนนั้นจะเป็นความผิดไปได้อย่างไร ก่อนที่เด็กนักเรียนอย่างเพนกวินจะท้าทายต่อว่า หากคิดว่าทำผิด ก็ขอให้มาควบคุมตัวไปดำเนินคดีเสีย ให้จารึกไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ว่า ครั้งหนึ่งในประเทศไทย การลุกขึ้นทวงสิทธิและแสดงความคิดเห็นโดยสันตินั้นผิดกฎหมาย
จะต้องมีนักเรียนถูกลงโทษ เพียงเพราะลุกขึ้นมาทวงสิทธิเหนือสวัสดิการการศึกษาของตนเอง รวมถึงเพื่อนนักเรียนหลายล้านชีวิตและคนรุ่นลูกรุ่นหลานที่จะต้องเข้าสู่ระบบการศึกษาต่อไป ก่อนที่จะย้ำอีกคำรบว่า ขอให้คนทั่วไปช่วยเป็นสักขีพยานในคำถามของตนด้วยว่าผมผิดอะไร แต่ประสาสมชัยก็ต้องหาเหตุมาแถ เอ้ย!อธิบายให้ได้อีกนั่นแหละ
ความจริงแล้วในบริบทการลงประชามติหรือการเลือกตั้งโดยหลักสากลแล้ว หากมันไม่เสรีและเป็นธรรม ย่อมหนีไม่พ้นที่จะเกิดคำถามหลายประการตามมา โดยเฉพาะการที่กกต.ไล่บี้เอาผิดกับผู้ที่ตนเองมองว่าสุ่มเสี่ยงทำผิดกฎหมายประชามติ แต่กับสิ่งที่เป็นการกระทำของตนเองอย่างเช่นเพลงรณรงค์ประชามติที่ถูกมองว่าดูถูกคนบางภาคกลับไม่ได้ความสนใจที่จะแก้ไขหรือให้ความสำคัญ
ไล่เรียงกันตั้งแต่ ศุภชัย สมเจริญ ประธานกกต.ไปจนถึงกกต.คนอื่นๆ ต่างมองว่าสิ่งที่เป็นเสียงวิจารณ์เกิดจากอคติ ดังนั้น มุมของนักวิชาการที่เกาะติดเรื่องนี้มาตั้งแต่ต้นอย่าง สุรพศ ทวีศักดิ์ น่าจะมีน้ำหนักอยู่ไม่น้อย ความหมายของเพลงรณรงค์ประชามติของกกต.ไม่ใช่ความหมายอย่างที่ผู้แต่งและกกต.อ้างว่าต้องการจะสื่อ
หากแต่ความหมายที่แท้จริงหรือสารที่ปรากฏเป็นจริงของเพลงนี้คือความไม่ make sense เพราะขณะที่คุณยกย่องประชาชนว่ารักประชาธิปไตย รักเสรี และแนะนำให้พวกเขาใช้วิจารณญาณอย่างอิสระ แต่ปรากฏว่า การกระทำของคุณคือการปิดกั้นเสรีภาพในการแสดงออก อันเป็นเงื่อนไขจำเป็นของการใช้วิจารณญาณอย่างอิสระ
พูดอีกอย่างว่าเพลงไม่ได้ function ตามที่ผู้แต่งและกกต.พยายามอธิบายกับสังคม แต่เพลงมัน function ในการแสดงถึงความไม่มีความหมายของตัวมันเอง หรือแสดงถึงการที่คุณนั่นเองคือผู้ที่ทำให้ความหมายของเพลงเพี้ยนไปจากความหมายที่คุณพยายามอธิบายกับสังคม
ภายใต้การลงประชามติที่ไม่เสรีและเป็นธรรมตามหลักสากล การแสดงออกทางการเมืองใดๆ ที่ถูกต้องตามหลักประชาธิปไตย เช่น ยืน เดิน เต้น ร้องเพลง หรือการแสดงออกทางการเมืองใดๆ อย่างสันติวิธีที่ถูกต้องตามหลักประชาธิปไตยและหลักสิทธิมนุษยชนกลายเป็นสิ่งที่ผิด การแต่งเพลงยกย่องประชาชนว่ารักประชาธิปไตย รักเสรี และแนะนำให้ใช้วิจารณญาณอย่างอิสระจึงไม่มีความหมายใดๆ
ตัวเนื้อเพลงรณรงค์ประชามติ มันจึงสะท้อนตัวตนของคนบางกลุ่มที่ถือว่า การกระทำที่มีความหมายถูกหรือผิดในทางสังคมการเมืองขึ้นอยู่กับเจตนาดีหรือเจตนาบริสุทธิ์ที่ตัวเองใช้อ้างกับสังคมเท่านั้น โดยที่ความถูกผิดนั้น ไม่จำเป็นต้องวางอยู่บนฐานของความถูกต้องชอบธรรมตามหลักการและกติกาประชาธิปไตยแต่อย่างใด
เท่ากับว่า ถ้าอ้างเจตนาดี เจตนาบริสุทธิ์ต่อส่วนรวมก็ถือว่าตนเองเสียสละทำประโยชน์เพื่อชาติ โดยที่การทำเพื่อชาตินั้นไม่จำเป็นต้องอยู่ภายใต้กติกาที่เคารพอำนาจและสิทธิเสรีภาพของประชาชน เหมือนๆ กับคำถามต่อพฤติกรรมของผู้มีอำนาจที่ไล่บี้เอาผิดกับศูนย์ปราบโกงประชามติของกลุ่มนปช. ในเมื่อไม่มีเจตนาที่จะโกงหรือคิดว่าจะโกง จะไปกลัวอะไรกับศูนย์ปราบโกง