ซื้อเหนือฟ้า ที่ AAVแฉทุกวัน ทันเกมหุ้น

ธุรกรรม M&A ในการสยายอาณาจักรของกลุ่มศรีวัฒนประภา นำโดยนายวิชัย ศรีวัฒนประภา ครั้งล่าสุด ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ เพราะข่าวเรื่อง การเข้าซื้อถือหุ้นในบริษัทเจ้าของสายการบินโลว์คอสต์ของไทย เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ไม่ใช่เรื่องใหม่


ธุรกรรม M&A ในการสยายอาณาจักรของกลุ่มศรีวัฒนประภา นำโดยนายวิชัย ศรีวันประภา ครั้งล่าสุด ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจ เพราะข่าวเรื่อง การเข้าซื้อถือหุ้นในบริษัทเจ้าของสายการบินโลว์คอสต์ของไทย เอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ AAV ไม่ใช่เรื่องใหม่

เพียงแต่ค่อนข้างประหลาดตรงที่ กลายเป็นเกมเทกโอเวอร์กิจการอย่างเบ็ดเสร็จ ในราคาที่ต่ำกว่าบุ๊คแวลู ซึ่งถือเป็นราคาที่ต่ำชนิด “ไม่น่าเชื่อ

ก่อนหน้านี้ ตั้งแต่เดือนเมษายน ปรากฏข่าวเรื่องการขายหุ้นของกลุ่มนายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ให้กลุ่มคิง เพาเวอร์ หรือกลุ่มนายวิชัย ศรีวัฒนประภา ตามสื่อต่างๆ โดยในขณะนั้น โครงสร้างการถือหุ้นของ AAV ณ วันที่ 15 มี.ค. 2559 ระบุว่า กลุ่มของนายธรรศพลฐ์ ถือหุ้นใหญ่อันดับหนึ่ง ถือหุ้นรวมกัน 44%  ประกอบด้วย  น.ส.ภัทรี แบเลเว็ลด์ (ลูกสาว) ถือหุ้นจำนวน 921.50 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 19%  นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ถือหุ้นจำนวน 630.56 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 13% และ นางศิริธร แบเลเว็ลด์ (ภรรยา) ถือหุ้นจำนวน 582.02 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 12%

ข่าวที่เกิดขึ้น ทางตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้สั่งการให้บริษัทชี้แจงถึงข้อเท็จจริงในเรื่องดังกล่าว ถึง 3 ครั้ง ระหว่างวันที่ 7 เมษายน – 9 พฤษภาคม 2559 แต่ AAV ได้ปฏิเสธข่าวเรื่องดังกล่าว และได้รับแจ้งว่า ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆ และไม่มีการทำข้อตกลงใดๆ ในเรื่องการซื้อขายหุ้น AAV ให้กับกลุ่มบริษัท คิง เพาเวอร์

อีกทางหนึ่ง นายธรรศพลฐ์ เองก็ให้สัมภาษณ์ระหว่างนั้นครั้งหนึ่งว่า “เป็นเรื่องไร้สาระ

จู่ๆ วันที่ 13 มิถุนายน 2559 AAV แจ้งข่าวต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่าครอบครัวแบเลเว็ลด์ ได้ขายหุ้น AAV ให้แก่กลุ่มนายวิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าของกลุ่มคิง เพาเวอร์ และสโมสรฟุตบอลเลสเตอร์ ซิตี้ ในอังกฤษ ซึ่งเป็นช่วงเวลาไม่นานนักจากช่วงเวลาที่ตลาดหลักทรัพย์ฯ ให้บริษัทชี้แจงข้อมูล

ตลาดฯสั่งการใหม่ให้ชี้แจงภายในวันที่ 16 มิถุนายน 2559

รายละเอียดของการซื้อขายคือกลุ่มนายวิชัย ศรีวัฒนประภา เข้ามาถือหุ้นใน AAV จำนวน 1,931.59 ล้านหุ้น (39.82% ของทุนชำระของ AAV) โดยแบ่งเป็น นายวิชัย เข้าถือหุ้น 679,000,000 หุ้น คิดเป็น 14%  นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา ถือหุ้นรวม 485,088,286 หุ้น หรือ 10% นายอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา ถือหุ้น 282,500,000 หุ้น หรือ 5.82% ในขณะที่ครอบครัวแบเลเว็ลด์ลดการถือครองหุ้นเหลือเพียง 242.50 ล้านหุ้น หรือ 5%

การซื้อหุ้นของกลุ่มนายวิชัย ศรีวัฒนประภา ที่เกินกว่า 25% ทำให้กลุ่มนี้ มีหน้าที่ต้องทำคำเสนอซื้อหลักทรัพย์ AAV ต่อไป

ความน่าสนใจของดีลซื้อขาย อยู่ที่ว่าราคาหุ้น AAV ที่ประกาศขายในราคาระดับ 4.20 บาทต่อหุ้น ถือเป็นจุดต่ำกว่าบุ๊คแวลูของบริษัท ล่าสุดที่อยู่ในระดับ 4.36 บาท อีกทั้ง ราคาหุ้นที่ทำบิ๊กล็อตในครั้งนี้ยังต่ำกว่าราคาหุ้นในกระดานที่ปิดตลาดในวานนี้ที่ระดับ 6 บาท ถึงประมาณ 40%

ไม่ใช่เรื่องปกติธรรมดาอย่างแน่นอน เพราะหาก AAV เป็นบริษัทที่กิจการมีอนาคต การเสนอขายหุ้นในยามปกติจะต้องอยู่ที่ระดับขั้นต่ำคือ 1.5 เท่าของบุ๊ค ซึ่งน่าจะมีราคาเหมาะสมอยู่ที่ 6.54 บาทต่อหุ้น

การขายหุ้นที่ราคาต่ำกว่าบุ๊คนั้น มองแบบสมมติฐานได้ 2 สาเหตุคือ 1) ธุรกิจของ AAV มีอนาคตไม่แจ่มใสนัก 2) คนขายร้อนเงินหรือมีเหตุจูงใจให้ต้องเร่งขายด่วน โดยไม่ใส่ใจกับราคาขาย

ข้อแรก ไม่น่าจะเป็นไปได้ เพราะระดับคนอย่างวิชัย ศรีวัฒนประภา ที่ผ่านสังเวียนธุรกิจมาโชกโชนทั้งที่ฮ่องกง ไทย และอังกฤษ ย่อมไม่ซื้อของแพงเกินแน่นอน

ส่วนข้อสอง…ธรรศพลฐ์ ยืนยันเมื่อวานนี้ว่า ราคาซื้อขาย “…เป็นราคาที่ผมพอใจ..”

คำตอบแบบศรีธนญชัยอย่างนี้.. เอาที่พี่สบายใจก็แล้วกัน

ก็เงินที่พี่ได้ไป รวมจากการขายครั้งนี้ 7,944 ล้านบาท ก็คงอยู่ไปได้นานโข

เมื่อวานนี้ เสี่ยวิชัย กับ ธรรศพลฐ์ ก็เลยจัดแถลงข่าวถึงเจตนาในการเข้าซื้อกิจการสายการบินนี้ ได้เนื้อสาระอย่างย่นย่อว่า

– ธรรศพลฐ์ ยังคงนั่งบริหาร AAV ต่อไปอย่างน้อย 5 ปีเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับผู้ถือหุ้น

– วิชัย ย้ำว่า ต้องการเชื่อมธุรกิจดิวตี้ฟรี และการบินเพื่อผนึกธุรกิจลงตัว และมอบหมายให้นายอัยยวัฒน์ ศรีวัฒนประภา นายอภิเชษฐ์ ศรีวัฒนประภา และนายสมบัตร เดชาพานิชกุล เข้ามารับตำแหน่งคณะกรรมการ AAV รวม 3 คน

– ธรรศพลฐ์ ยืนยัน AAV ไม่มีแผนปรับโครงสร้างธุรกิจจากเดิม

– วิชัยเล็งให้ “ไทยแอร์เอเชีย” เพิ่มเที่ยวบินไปจีนหวังดึงนักท่องเที่ยวจีนเข้าไทยมาใช้บริการ คิง เพาเวอร์มากขึ้น

– วิชัยยืนยันไม่คิดเพิกถอน AAV ออกจากตลาดหุ้นหลัง คิง เพาเวอร์ถือหุ้นใหญ่

– ธรรศพลฐ์ แจงเหตุปฏิเสธข่าวขายหุ้น AAV ก่อนหน้าจบดีลเพราะเป็นเรื่องส่วนตัว

ทั้งหมดนี้..ใครจะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่.. บอกให้รู้ว่า เกมเศรษฐีระหว่าง คนรวยที่อยากต่อยอดความรวยอย่างเสี่ย วิชัย ศรีวัฒนประภา กับ มหาเศรษฐีพันล้านคนล่าสุดของไทย ทรรศพลฐ์ แบเลเวลด์ ได้มาถึงจุดลงตัวแล้ว

เหลือแต่อนาคตของ AAV เท่านั้น ที่ต้องติดตามกันต่อไป

Back to top button