จับตาเปลี่ยน CEO แบงก์ลูบคมตลาดทุน
ก่อนสิ้นปี 2559 จะมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารระดับสูงในวงการธนาคารพาณิชย์ของไทย 3-4 แห่ง
ธนะชัย ณ นคร
ก่อนสิ้นปี 2559 จะมีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารระดับสูงในวงการธนาคารพาณิชย์ของไทย 3-4 แห่ง
เป็นการเปลี่ยนแปลงเนื่องจากการหมดวาระครับ
แห่งแรก คือ ธนาคารทหารไทย จำกัด หรือ TMB ที่คุณบุญทักษ์ หวังเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร หมดวาระลงในเดือนกรกฎาคมนี้
คุณบุญทักษ์ อยู่ในตำแหน่งมาแล้ว 2 วาระ วาระละ 4 ปี รวมเบ็ดเสร็จก็ 8 ปี
เท่าที่ทราบกระบวนการสรรหาได้เริ่มมาแล้วตั้งแต่ปลายเดือนเมษายน 59
และน่าจะมีการประกาศบุคคลเข้ารับตำแหน่งคนใหม่หลังจากไตรมาส 2/59 ซึ่งผ่านมาจนถึงป่านนี้ ก็ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร ส่วนชื่อที่มีการระบุกันออกมาก่อนหน้านี้ เป็นเพียงคาดการณ์
มีประเด็นน่าสนใจสำหรับทีเอ็มบี
เพราะนักลงทุนต่างเฝ้าจับตาดูว่า ใครเล่าจะเข้ามาแทนที่คุณบุญทักษ์
รูปแบบ และสไตล์การทำงาน จะเหมือนกันหรือไม่
คุณบุญทักษ์นั้น จะบริหารธนาคารในรูปแบบตั้งการ์ดให้แน่น นั่นคือ ให้ความสำคัญกับเงินกองทุนต้องเข้มแข็ง ดั่งจะเห็นได้จาก Coverage Ratio ที่อยู่สูงกว่า 140% เป็นอันดับ 3 รองจากแบงก์กรุงเทพ และแบงก์กรุงศรีฯ
ทว่า ในมุมมองของนักวิเคราะห์ มีความเห็นเป็นเชิงบวก
นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่ มองว่า ไม่ว่าใครจะเข้ามาแทนที่คุณบุญทักษ์ ก็ไม่น่าจะส่งผลต่อผลประกอบการ หรือ จะทำให้เกิดการเปลี่ยนในทีเอ็มบีอย่างมีนัยสำคัญ
นั่นเพราะพื้นฐานของแบงก์ได้วางไว้อย่างแข็งแกร่งแล้ว
และเข้าใจว่า บุคคลที่จะเข้ามารับไม้ต่อนั้น ทางกลุ่มไอเอ็นจี และกระทรวงการคลัง ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ทีเอ็มบี ก็น่าจะคัดกรองมาอย่างดี
หรือบางทีคุณบุญทักษ์ อาจจะมีส่วนในการตัดสินใจด้วยก็ได้ เพราะว่านั่งในบอร์ดอยู่ด้วย
ซีอีโอแบงก์จะมีการเปลี่ยนแปลงอีกแห่งคือ แบงก์กรุงไทย หรือ KTB
คุณวรภัค ธันยาวงษ์ จะหมดวาระลงในเดือนพฤศจิกายนนี้ หลังนั่งในตำแหน่งนี้มาแล้ว 1 สมัย หรือ 4 ปี
เข้าใจว่า กระบวนการสรรหาซีอีโอ หรือ กรรมการผู้จัดการใหญ่คนใหม่ KTB น่าจะเริ่มได้ในช่วงต้นเดือนสิงหาคมนี้ หรือก่อนที่คุณวรภัค จะหมดวาระ 3 เดือน
ที่จริงแล้ว คุณวรภัค สามารถทำงานต่อได้อีก 1 สมัย
แต่อย่างว่าล่ะ บอสใหญ่ของแบงก์กรุงไทย กระบวนการสรรหานั้น อาจต่างกับธนาคารพาณิชย์ทั่วๆ ไปเพราะจะต้องไปถามที่กระทรวงการคลังในฐานะผู้ถือหุ้นใหญ่
หรือต้องถามรัฐบาลด้วย โดยเฉพาะรองนายกฯ ที่คุมเศรษฐกิจ ซึ่งขณะนี้ก็คือ ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์
หากรัฐบาล และคลังที่มีคุณอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ เป็น รมว.คลัง โอเคกับคุณวรภัค
กระบวนการสรรหาก็ไม่ไม่มีอะไรมาก อาจเพียงแค่เสนอบอร์ด และคุยกับคุณวรภัค หลังจากนั้น ก็ทำสัญญา เพื่อให้บริหารงานต่ออีก 1 สมัย
งานนี้ต้องวัดใจทั้งดร.สมคิด และคุณอภิศักดิ์ กันล่ะ
ธนาคารอีกแห่งคือ แบงก์ไทยพาณิชย์ หรือ SCB
หลังการหมดวาระของคุณกรรณิกา ชลิตอาภรณ์ ทาง SCB ก็แต่งตั้งผู้บริหารขึ้นมาแทน คือคุณญนน์ โภคทรัพย์ เป็นประธานเจ้าหน้าที่บริหาร
และคุณอาทิตย์ นันทวิทยา เป็นกรรมการผู้จัดการใหญ่
แต่เมื่อคุณญนน์ ลาออก และมีผลวันที่ 1 ก.ค. 59 ก็เลยมีการจับตาว่า แล้วใครล่ะที่จะเข้ามาแทนคุณญนน์
คนใน (แบงก์) หรือคนนอก (แบงก์) ข้ามห้วยมา
ส่วนประเด็นที่น่าสนใจคือ บุคคลที่จะเข้ามาแทนที่นั้น จะต้องมีความสามารถด้านคอนซูเมอร์ไฟแนนซ์อย่างดีมาก โดยเฉพาะงานลูกค้าทางด้านรีเทล หรือรายย่อย
แบงก์อีกแห่งคือ ธนาคารซีไอเอ็มบี ไทย
ดร.สุภัค ศิวะรักษ์ จะหมดวาระในปี 2559 นี้
แต่ก็มีความเป็นไปได้สูงที่กลุ่ม CIMB ที่เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ จะต่อวาระให้กับดร.สุภัค เพราะผลงานที่ผ่านมาถือว่าดี หรืออาจจะดีกว่าที่คาดไว้อีก
นอกจากเรื่องผลประกอบการแบงก์ในปีนี้แล้ว
ก็ยังต้องจับตาการเปลี่ยนแปลงในระดับ ซีอีโอ ควบคู่ไปด้วย