“สายย่อ” เตรียมทำงานโมนิก้าและทีมงาน
*บอกได้เลยว่า โลกของการลงทุน ไม่มีอะไรแน่นอนตายตัว ของที่เคยคิดว่า สงบราบเรียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จริงๆ อาจมีคลื่นใต้น้ำก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ “โมนิก้า” ถึงมีแนวความคิดที่ตรงกันข้ามกับพวกกองทุน และฝรั่งตาน้ำข้าว ซึ่งเป็นผลมาจากตลาดหุ้นไทยไม่ได้เลิศเลอเพอร์เฟ็กต์ขนาดนั้น แถมยังมีภูมิคุ้มกันที่ค่อนข้างเปราะบางเสียเหลือเกิน พอมีอะไรจากภายนอกเข้ามากระทบนิดหนึ่ง เป๋ไม่เป็นขบวนเลยแหละ!
*บอกได้เลยว่า โลกของการลงทุน ไม่มีอะไรแน่นอนตายตัว ของที่เคยคิดว่า สงบราบเรียบเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น จริงๆ อาจมีคลื่นใต้น้ำก่อตัวขึ้นอย่างช้าๆ “โมนิก้า” ถึงมีแนวความคิดที่ตรงกันข้ามกับพวกกองทุน และฝรั่งตาน้ำข้าว ซึ่งเป็นผลมาจากตลาดหุ้นไทยไม่ได้เลิศเลอเพอร์เฟ็กต์ขนาดนั้น แถมยังมีภูมิคุ้มกันที่ค่อนข้างเปราะบางเสียเหลือเกิน พอมีอะไรจากภายนอกเข้ามากระทบนิดหนึ่ง เป๋ไม่เป็นขบวนเลยแหละ!
*เหมือนกับกระแสข่าวเกี่ยวกับประเทศอังกฤษเตรียมถอนตัวออกจากสหภาพยุโรป “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่เซนซิทีฟสำหรับพวกนักลงทุนสถาบันจริงๆ แต่ไม่ใช่ตัวแปรหลักที่ชี้ขาดต่อการดำรงอยู่ของตลาดหุ้นไทย เพราะสิ่งที่น่าสนใจสุดคือ กำไรในไตรมาส 2 จะดีกว่าไตรมาส 1 แค่ไหน? ซึ่งจะเป็นตัวชี้ขาดว่า การปรับเป้าดัชนีปี 59 ขึ้นไปอยู่ที่ระดับ 1,450-1,460 จุด สมเหตุสมผลขนาดไหนพะยะค่ะ
*ตรงนี้เป็นข้อมูลที่นักลงทุนต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ และต้องคิดเผื่อต่อไปอีกนิดหนึ่งว่า หากดัชนีอ่อนตัวลงมายืนอยู่ที่แนวรับ 1,400 จุด บรรดาสายย่อต่างมีความพร้อมในการบุกตะลุยขนาดไหน? หรือแม้กระทั่งดัชนีตีกลับขึ้นมาปิดที่ 1,421.32 จุด บวกไป 10.13 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.23 หมื่นล้านบาท มันเป็นจังหวะที่นักเล่นต้องมองต่อไปว่า โอกาสที่จะขึ้นไปยืนเหนือแนวต้าน 1,430 จุดมีมากขนาดไหนด้วยนะคะ
*หากถามใจ “โมนิก้า” แบบส่วนตัวจริงๆ คงต้องบอกให้ทุกคนเข้าใจและเผื่อใจไว้บ้าง เพราะของมันเห็นกันอยู่ว่า เสียงส่วนใหญ่ของคนอังกฤษหนุนให้ออกจากสหภาพยุโรป ส่วนสาเหตุที่ต้องทำการระงับเรื่องดังกล่าวไว้ชั่วคราวนั้น มันเป็นผลมาจาก ส.ส. เมืองผู้ดีถูกฆาตกรรม ส่งผลให้การรณรงค์ออกจากสหภาพยุโรปดูแผ่วลง แต่การชี้ชะตายังขึ้นอยู่กับผลของการทำประชามติวันที่ 23 มิ.ย. จึงอย่าประมาทนะจะบอกให้
*เหมือนกับในรายของ BANPU ราคาหุ้นเด้งขึ้นมาปิดที่ 12.90 บาท บวกไป 0.50 บาท หรือขึ้นไป 4% ด้วยมูลค่า 1.71 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองเป็นแค่การรีบาวด์พื้นๆ ยังไม่มีนัยสำคัญอะไรมากมาย แถมไซเคิลของหุ้นเป็นภูเขาสามลูกขาลง โดยยอดสูงสุดของแต่ละภูเขาเตี้ยลดหลั่นกันมาอย่างเห็นได้ชัด วันนี้ถึงต้องลุ้นให้ขยับก้นขึ้นไปอีกนิดหนึ่ง เพื่อทำให้เทรนด์ของหุ้นพลิกโฉมเป็นอีกแบบหนึ่ง ถ้าเปลี่ยนทิศไม่ได้ จะอ่อนตัวลงมาอีกครั้งเจ้าค่ะ
*ส่วนที่พลิกโฉมอย่างมีนัยสำคัญ “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่ THAIราคาหุ้นทะยานขึ้นต่อเนื่อง 6 วันติดต่อกัน ก่อนจะลงเอยที่ราคา 19.10 บาท บวกไป 0.70 บาท หรือขึ้นไป 3.80% ด้วยมูลค่า 1.11 พันล้านบาท ซึ่งเป็นการทำ new high ในรอบ 2 ปี 6 เดือน 15 วัน มันเป็นจังหวะที่นักเล่นต้องเกาะติดทุกช็อต เพราะไซเคิลของหุ้นเป็นแบบขึ้นยาว พักฐานยาวเจ้าค่ะ
*สำหรับหุ้นไก่ย่างห้าดาว CPF กระชากขึ้นมาปิดที่ 28.25 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 4.60% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 780 ล้านบาท มันเป็นช็อตที่สยบทุกความเคลื่อนไหวได้เป็นอย่างดี พร้อมกับแสดงให้เห็นว่า ไม่ได้มีอาการฝ่อเหมือนที่บางคนบอกไว้ ถึงกระนั้นก็ไม่ควรตั้งอยู่บนความประมาท เพราะโพซิชั่นของหุ้นไม่ได้เปลี่ยนไปจากเดิมสักเท่าไหร่ จึงมีโอกาสอ่อนตัวมากกว่าขึ้น..งานนี้บอกได้ทันทีว่า สายย่อเตรียมตัวช้อนหุ้นได้เลยเจ้าค่ะ
*ส่วนที่สายย่อต้องระวังนิดหนึ่งกลายเป็น THCOM ราคาหุ้นอ่อนตัวอย่างต่อเนื่อง “โมนิก้า” ถือเป็นมูฟเมนต์ที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่! ยิ่งเห็นหุ้นอ่อนตัวลงมาปิดที่ 23.50 บาท ลบไป 1.20 บาท หรือลงไป 4.90% ด้วยมูลค่า 700 ล้านบาท ยิ่งทำให้คิดมากเป็นพิเศษ หลังหุ้นรูดทะลุจุดเด้งกลับที่ 24 บาทลงมาอย่างง่ายดาย ตามตำราเขาบอกไว้ว่า ถ้ากล้าก็ลองดูสักตั้ง หรือกลัวจนขนหัวลุก ก็ให้ถอยออกมาก่อนพะยะค่ะ
*ทางด้านหุ้น MACOใช้เวลาแค่ 4 วันวิ่งจากระดับ 1.10 บาท ขึ้นมาปิดที่ 1.31 บาท บวกไป 0.12 บาท หรือขึ้นไป 10% ด้วยมูลค่า 165 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นประเด็นที่น่าขบคิดเป็นอย่างยิ่ง เพราะคนที่เข้ามาเทกโอเวอร์อย่าง VGI เขาตั้งราคาทำเทนเดอร์ฯ ไว้ที่ 1.10 บาทเท่านั้น จู่ๆ เข้ามาไล่ราคากันแบบนี้ มันผิดสูตรไปหน่อยไหม? ต้องติดตามดูกันดีๆ เจ้าค่ะ
*หากยังไม่เข้าใจอย่างถ่องแท้ “โมนิก้า” ขอแนะนำแฟนคลับให้หันมามอง NETBAY หลังอ่อนตัวลงมาปิดที่ 9.70 บาท ลบไป 1.60 บาท หรือลงไป 14% ด้วยมูลค่า 970 ล้านบาท มันเป็นสูตรสำเร็จที่เห็นกันมาแล้วหลายตัว เพียงแต่หุ้นค่ายนี้แสดงอาการโอเวอร์รีแอ็กต์มากไปหน่อย จุดจบของหุ้นถึงดูไม่ค่อยสวยงามสักเท่าไหร่ และทำให้คนที่ถือหุ้นอึดอัดใจอย่างแรงเมื่อพบว่า หุ้นมีโอกาสไหลลงอีกน่ะสิ