“วินท์คอม เทคโนโลยี” เตรียมยื่นไฟลิ่งเข้าเทรด mai หวังใช้ขยายธุรกิจในอนาคต
“วินท์คอม เทคโนโลยี” หรือ VINTCOM ผู้ประกอบธุรกิจตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์เทคโนโลยี ด้านคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อ ออราเคิล และ ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ เตรียมยื่นไฟลิ่งเข้าเทรด mai หวังระดมทุนใช้ขยายและเป็นเงินทุนหมุนเวียนธุรกิจในอนาคต โดยมีบริษัท แอ็ดไวเซอรี่ พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน
นางทรงศรี ศรีรุ่งเรืองจิต กรรมการผู้จัดการ บริษัท วินท์คอม เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ VINTCOM เปิดเผยว่า บริษัทได้ดำเนินการแปรสภาพเป็นบริษัทมหาชนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญของบริษัทในการเตรียมความพร้อมในการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) โดยมีบริษัท แอ็ดไวเซอรี่ พลัส จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งขณะนี้บริษัทอยู่ระหว่างการเตรียมความพร้อมในการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (Filing) เพื่อคำขออนุญาตต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อนำเงินไปใช้ในการขยายธุรกิจ และเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจในอนาคต
อนึ่งบริษัทประกอบธุรกิจตัวแทนจำหน่ายอุปกรณ์เทคโนโลยี ด้านคอมพิวเตอร์ ยี่ห้อออราเคิล และ ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ ซึ่งเป็นผู้นำในการผลิตระบบเทคโนโลยีสารสนเทศระดับโลกจากสหรัฐอเมริกา ในรูปแบบลักษณะการขายแบบโซลูชั่น เช่น คอมพิวเตอร์เซิร์ฟเวอร์ หน่วยเก็บข้อมูลอุปกรณ์ระบบเครือข่าย และระบบฐานข้อมูล มิดเดิ้ลแวร์ โปรแกรมระบบงานและโปรแกรมอื่นๆที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งยังมีการบริการบำรุงรักษาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศในการดำเนินธุรกิจ การบำรุงรักษาป้องกัน และการบำรุงรักษาแบบแก้ไขรวมทั้งการปรับปรุงหรือโอนย้ายฐานข้อมูล การโอนย้ายระบบงาน การปรับค่าตัวแปรต่างๆของระบบเป็นต้น
ขณะที่ปัจจุบันบริษัทมีทุนจดทะเบียน อยู่ที่ 140 ล้านบาท ทุนชำระแล้วเป็นเงิน 110 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญทั้งหมด 220 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 0.50 บาท ขณะที่สัดส่วนรายได้ของบริษัทในช่วง 3 ปีย้อนหลัง จะเห็นได้ว่าในปี 2558 รายได้อยู่ที่ระดับ 831.77 ล้านบาท, ปี 2557 มีรายได้จำนวน 682.99 ล้านบาท และปี 2556 มีรายได้ที่จำนวน 744.89 ล้านบาท โดยสัดส่วนรายได้ส่วนใหญ่มาจากการขายและการบริการ และมีอัตราการเติบโตโดยเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ระดับ 5.67%
โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของบริษัท คือ ลูกค้าประเภทองค์กร ประกอบด้วย ผู้รวบรวมระบบงาน (system integrators) และผู้ใช้งานทั่วไป (end users) ประเภทองค์กรขนาดกลางและขนาดใหญ่ ทั้งภาครัฐและเอกชน