เริ่มแกว่งโมนิก้าและทีมงาน

*ดูเหมือนว่า บรรยากาศการลงทุนวานนี้ทำท่าจะไปได้สวย พอผ่านไปสักระยะหนึ่ง ราคาหุ้นกลับอ่อนตัวลงอย่างรวดเร็ว จนบางครั้งลงไปกองอยู่ในแดนลบ แต่หลังจากนั้นก็เด้งกลับขึ้นมาปิดบวก ซึ่งเป็นการสลับไปมาตลอดทั้งวัน ก่อนจะลงเอยด้วยการปิดที่ระดับ 1,421.99 จุด บวกไป 0.67 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.20 หมื่นล้านบาท มันหมายความว่า คนบางกลุ่มกำลังปักหลักเก็บของนะจ๊ะ

*ประเด็นนี้เห็นได้จากนักลงทุนสถาบันพร้อมใจเข้ามาเก็บหุ้นเป็นจำนวน 2.10 พันล้านบาท ขณะที่แมงเม่าฉวยโอกาสเทขายหุ้นในจำนวนที่เท่ากันเมื่อดีดตัวสูงขึ้น “โมนิก้า” ถึงมองศึกในครั้งนี้เป็นการวัดกำลังของแต่ละฝั่ง และเมื่อมองแบบเจาะลึกลงไปในรายละเอียดจะเห็นว่า อาการแกว่งตัวจะเกิดขึ้นเป็นระยะ ส่วนอาการสู้ก็จะเกิดขึ้นเป็นครั้งคราวเช่นกันเจ้าค่ะ

*ฉะนั้นอย่าคาดหวังว่า ดัชนีจะไปไกลกว่าที่เป็นอยู่ เพราะสิ่งที่รับรู้ในเที่ยวนี้ มันไม่มีอะไรให้ชื่นอุรา และกระแสของหุ้นเที่ยวนี้มันเป็นการเล่นรายตัวมากกว่า พร้อมกันนี้ต้องเข้าใจด้วยว่า กระแสที่ถูกนำมาเชื่อมโยงในเที่ยวนี้เป็นเรื่องของหุ้นที่ถูกนำมาคำนวณใน SET50-SET100ซึ่งหุ้นหลายตัวก็มีกระแสตอบรับดี แต่บางตัวก็ยอมจำนนกับการถูกเขี่ยออก ขณะที่หุ้นบางตัวก็เฉยๆ ก็ไม่ได้รับผลกระทบอะไรทั้งสิ้นพะยะค่ะ

*งานนี้ไม่ขอเจาะจงลงในรายละเอียดมากนัก เพราะมันเป็นเรื่องของหลักเกณฑ์ล้วนๆ และนักลงทุนต้องไปศึกษากันเอาเอง หรือจะร้อยท่อต่อสายตรงไปยังผู้คุมกฎก็ยังได้ เผลอๆ  อาจได้คำตอบที่ดีกว่าการป้องปากนินทา “โมนิก้า” ในฐานะคนเสพข่าวทั้ง 2 ด้าน ถึงไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมกับข่าวดังกล่าวสักเท่าไหร่ เพราะไปๆ มาๆ ก็วัดกันที่บรรทัดสุท้ายมี “กำไร” หรือเปล่าน่ะสิ!

*เหมือนกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับ DEMCOมันเป็นเรื่องที่สุดวิสัยก็จริง แต่มันทำให้ราคาหุ้นซึมกระทือไปอีกนาน แถมแต่ละปัญหาก็หนักหาสาหัสเอาการเลยทีเดียว จากก่อนหน้านี้ฐานรากกังหันลมมีปัญหา ต่อมากลายเป็นไฟไหม้อาคารควบคุมสถานีไฟฟ้า “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องใหญ่พอสมควร และเมื่อนับตั้งแต่เกิดเรื่อง หุ้นก็ร่วงจากระดับ 18 บาทลงมาเรื่อยๆ จนล่าสุดลงมาอยู่ที่ 5.90 บาท ลบไป 0.15 บาท โดยใช้เวลาอ่อนตัวลงมาปีครึ่ง แถมปีนี้ขาดทุนแน่นอน..คิดว่ามี new lowไหมล่ะจ๊ะ

*ส่วนในรายของ SUPERเกิดอาการนอยด์ขึ้นมาทันทีที่รู้ว่า ไม่ได้รับการคัดเลือกให้ผ่านเข้ารอบถัดไป! “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องที่น่าเห็นใจพอสมควร แต่จะร้องไห้ฟูมฟายตามพวกขุนพลอยพยักไปทำไม! ในเมื่อผู้คนทั่วไปคาดหวังจะได้เห็นกำไรในไตรมาส 2 วันนี้ถึงต้องโฟกัสไปที่เรื่องนี้มากเป็นพิเศษ เพราะของมันเห็นกันอยู่แล้วว่า หุ้นจะวิ่งไปที่ 2 บาททันที หากไม่ปรากฏตัวแดงให้เห็นบนงบการเงิน งานนี้ถึงต้องถามใจผู้เล่นว่า การอ่อนตัวลงมาปิดที่ 1.80 บาท ลบไป 0.11 บาท หรือลงไป 5.80% เป็นโอกาสหรือเปล่า?

*ประเด็นนี้เทียบเคียงง่ายๆ ได้จากกรณีของ JAS  วิ่งขึ้นมาปิดที่ 5.55 บาท บวกไป 0.20 บาท หรือขึ้นไป 3.75% ด้วยมูลค่า 1.36 พันล้านบาท “โมนิก้า” พูดได้คำเดียวว่า เมื่อทุกอย่างชัดเจน หุ้นก็วิ่งขึ้นไปรับพื้นฐาน! เรื่องง่ายๆ ไม่มีอะไรต้องคิดหลายตลบ แต่สิ่งที่ต้องคิดถัดมาก็คือ หุ้นวิ่งเข้าใกล้เป้า 5.80 บาทแบบนี้…คนที่มีหุ้น และคนที่ไม่มีหุ้น ควรทำอย่างไรน่ะสิ

*ส่วนรายของ BANPUหลังจากปรับโพซิชั่นของหุ้นเป็นที่เรียบร้อย ก็แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนว่า ยอดภูเขาลูกที่ 3 จะอยู่ที่บริเวณ 13.80 บาท หากผ่านทะลุแนวต้านบริเวณนี้ขึ้นไปอย่างแข็งแกร่ง ก็จะเป็นการเคลื่อนตัวในรูปแบบใหม่อีกครั้ง ถึงกระนั้นต้องบอกไว้ก่อนว่า ตรงนั้นเป็นเส้นแนวต้าน 200 วัน และในรอบปีครึ่ง หุ้นยังไม่สามารถฝ่าเส้นแนวต้านตรงนั้นไปได้สักที ขณะที่ราคาล่าสุดหุ้นยืนอยู่ที่ 13.30 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 3.10% ด้วยมูลค่า 3.56 พันล้านบาท ..มันชวนให้คิดไหมล่ะตัวเอง

*เหมือนกับในรายของ TASCOกระชากขึ้นมาปิดที่ 28 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 4.70% มันมาจากประเด็นถูกนำไปคำนวณใน SET50  และ SETHDซึ่งเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้กับผู้เล่นได้เป็นอย่างดีก็จริง แต่การวิ่งแรลลี่ยาวๆ ต้องได้แรงหนุนจากผลประกอบการเป็นสำคัญ  แถมก่อนหน้านี้ 2 ครั้งก็จอดไม่ต้องแจวบริเวณนี้แหละ จึงต้องดูกันต่อไปว่า ล้างอาถรรพ์ได้หรือเปล่า?

*พิลึกพิลั่นสุดๆ โมนิก้า” ขอย้อนกลับไปดู NETBAYผู้ให้บริการธุรกรรมออนไลน์จู่ๆ เด้งขึ้นมาปิดที่ 12 บาท บวกไป 2.30 บาท หรือขึ้นไป 23.70% ด้วยมูลค่า 1.26 พันล้านบาท ทั้งที่ในกอไผ่ยังไม่มีอะไร! มันเป็นเกมโหดที่ผู้เล่นต้องตรึกตรองให้ดีๆ เพราะเป็นหุ้นที่แกว่งตัวไปมาอย่างรวดเร็ว คนเข้าเล่นต้องไวต่อสถานการณ์ เพราะได้ยินข่าวเม้าท์ว่า เริ่มเข้าองค์ทรงเจ้ากันหนักขึ้นน่ะสิ…อิอิอิ

*ตบท้ายกันที่ YUASAสุดยอดหุ้นสงครามวันเดียว ซึ่งกลับมาหลอกหลอนชาวหุ้นอีกครั้ง “โมนิก้า” ถือเป็นเรื่องเด่นประจำวันที่ต้องเม้าท์กันหน่อย เพราะอาการวิ่งขึ้นมาปิดที่ 8.60 บาท บวกไป 1.95 บาท หรือขึ้นไป 30% ด้วยมูลค่า 151 ล้านบาท มันเป็นเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นมาแล้วหลายครั้ง แต่หลังจากนั้นก็รูดลงมากองอยู่ที่ 6 บาทเหมือนเดิมนะจะบอกให้