โล่งใจ (ชั่วคราว)โมนิก้าและทีมงาน

 *สถานการณ์ของตลาดหุ้นไทยในช่วงที่เล่นกับกระแสข่าวอังกฤษอาจถอนตัวจากสหภาพยุโรป มันเป็นอะไรที่เม้าท์ค่อนข้างยากเหลือเกิน เพราะคอนเซ็ปต์การลงทุนเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ส่งผลให้รูปแบบของการลงทุนในแต่ละวันมีหุ้นมากหน้าหลายตาผลัดกันขึ้นมาเป็นผู้นำ ซึ่งเป็นแรงหนุนที่ทำให้ดัชนีเคลื่อนพลขึ้นไปทดสอบแนวต้าน 1,350 จุดอีกรอบไงล่ะค่ะ

*ถามว่า เดี๊ยนรู้สึกยินดีกับการทะยานขึ้นของดัชนีในเที่ยวนี้ไหม? เดี๊ยนขอตอบกลับไปว่า ไม่ค่อยสบายใจสักเท่าไหร่? เพราะมันเห็นกันอยู่แล้วว่า มุกที่ถูกนำมาปั่นกระแสเที่ยวนี้ มันเป็นเรื่องที่กระทบกระเทือนโดยตรงกับการลงทุน ซึ่งไม่มีใครรู้ว่า ผลของการลงประชามติวันที่ 23 มิ.ย. จะออกมาเป็นอย่างไร? จึงไม่มีความจำเป็นต้องลุยสุดตัวนะจะบอกให้

*หากสังเกตดีๆ จะเห็นว่า เที่ยวนี้กลับมาไล่ราคาหุ้นบลูชิพอีกครั้ง ดัชนีถึงทะยานขึ้นมาปิดที่ 1,430.80 จุด บวกไป 8.81 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.81 หมื่นล้านบาท เมื่อทุกอย่างเข้าร่องเข้ารอยเสร็จสมบูรณ์ ก็จะเจอกับเอฟเฟ็กต์เรื่อง sell on fact อย่างเลี่ยงไม่ได้ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับอ่านช็อตดังกล่าวให้ขาดตั้งแต่ต้น เพื่อจะได้วางแผนการลงทุนได้ถูกต้องไงล่ะค่ะ

*เหมือนกับในรายของ CPALL ซึ่งเป็นหุ้นที่กำลังจะถูกหน่วยงาน IOD ถอดดาวธรรมาภิบาลออกในอนาคต แต่ไปๆ มาๆ หุ้นก็วิ่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง และพยายามขึ้นไปยืนเหนือ 50 บาท แต่สุดท้ายทำได้แค่ยืนอยู่ที่ 49 บาท บวกไป 1 บาท จากเดิมก่อนหน้านี้อยู่ใต้ 40 บาท “โมนิก้า” ถือเป็นการฉายภาพกลุ่มผู้คุ้มกฎในตลาดหุ้นมันเป็นพวก “มือถือสาก ปากถือศีล” กันทั้งนั้น! หรือจะเถียงว่า ไม่จริง?  เดี๊ยนก็ยินดีรับฟังเจ้าค่ะ

*เช่นเดียวกับในรายของ AAV ซึ่งเป็นหุ้นที่ “โมนิก้า” ไม่อยากจะเอ่ยถึงสักเท่าไหร่? แต่สุดท้ายต้องเอ่ยปากพูดอย่างเป็นทางการอีกรอบ ก็มาจากคำแก้ตัวที่ฟังดูตลกๆ บวกกับมีผู้คนออกมาเม้าท์ถึงเรื่องส่วนต่างจากการซื้อหุ้นราคาต่ำกว่าบุ๊ค มันเข้ากระเป๋าใครบางคนหรือเปล่า? เดี๊ยนถึงต้องออกมาเผือกกับเขาด้วยคน แถมกองแช่งแสดงความคิดเห็นว่า เรื่องนี้ทำให้ราคาหุ้นอ่อนตัวลงมาปิดที่ 6 บาท ลบไป 0.20 บาท หรือลงไป 3.20% ด้วยมูลค่า 600 ล้านบาท จริงหรือเท็จ…ลองใช้วิจารณญาณดูกันอีกทีนะคะ

*เหมือนกับในรายของ THCOM ก่อนหน้านี้ก็อยู่ดีมีสุขทุกอย่าง แถมแผนงานก็เป็นไปตามเป้า บวกกับกำไรก็มาตามนัด จู่ๆ กลับมีคนอุตริจะปรับเปลี่ยนบางอย่างที่ไม่เป็นธรรมกับบริษัทขึ้นมาแบบนี้ “โมนิก้า” ถือเป็นเกมที่ไม่มีใครคาดคิดจะเป็นเช่นนี้ หุ้นถึงรูดลงมาปิดที่ 21.50 บาท ลบไป 1.80 บาท หรือลงไป 7.70% ด้วยมูลค่า 988 ล้านบาท มันเหมือนเกมทุบหุ้นในยุคหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ก็ฮึ่มๆ จะเอากลับคืนมาเป็นของรัฐ สุดท้ายก็บอกว่า ติดข้อกฎหมาย หุ้นถึงดีดกลับอย่างรวดเร็ว จึงมีคนรวยจากนโยบายดังกล่าว จำได้ไหมค่ะ

*ตรงกันข้ามกับในรายของเจ้าจำปี THAI หลังจากรัฐบาลทหารโอบอุ้มแบบสุดลิ่มทิ่มประตู ทุกอย่างก็ดูเรียบง่ายไปหมดเสียทุกอย่าง แถมไม่มีอะไรติดขัดแม้แต่นิดเดียว หุ้นก็เลยกระชากขึ้นมาปิดที่ 20.40 บาท บวกไป 0.90 บาทหรือขึ้นไป 4.60% ด้วยมูลค่า 900 ล้านบาท “โมนิก้า” ถือเป็นจังหวะที่นักลงทุนต้องเริ่มคิดแล้วว่า “การเมือง” กับ “ธุรกิจ” เวลามันเอื้อกันสุดๆ ทุกอย่างก็ดูหอมหวนไปหมด..แบบนี้แรลลี่ยาวนะคะ

*ส่วนเจ้าที่เกาะเกี่ยวนโยบายรัฐ พร้อมกับเล่นตามข่าวในทันที “โมนิก้า” ขอพุ่งเป้าไปที่ SINGER  เพราะทันทีที่มีข่าวรัฐอุดหนุนให้พี่น้องเกษตรกร 4 หมื่นกว่าล้านบาท  ก็มีการแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับหุ้นตัวนี้ไว้ว่า จะได้รับผลดีเยอะแยะไปหมด หุ้นถึงเด้งขึ้นมาปิดที่ 10.70 บาท บวกไป 1.95 บาท หรือขึ้นไป 22.30% ด้วยมูลค่า 280 ล้านบาท เดี๊ยนมองว่า เป็นการปั่นกระแสชัดๆ นะเนี่ย

*ผิดกับในรายของ ILINK เพราะเจ้านี้คว้างานวางระบบสาธารณูปโภคของ AOT มูลค่า 1,000 ล้านบาท แถมได้ผลตอบแทนจากโครงการนี้ในระดับ 15-17%  “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับหันมามองหุ้นดาวรุ่งพุ่งแรงตัวนี้สักนิด เพราะช่วงหลังๆ เริ่มมีมูฟเมนต์ที่น่าสนใจหลายเรื่องด้วยกัน จึงเป็นจังหวะดีของการลงทุนรอบใหม่! งานนี้บอกข่าวดีให้ทราบแล้ว ที่เหลือเป็นการนำเอาไปปฏิบัตินะคะ

*เช่นเดียวกับในรายของ ALT น้องใหม่ไฟแรงที่กำลังจะเข้าตลาดหุ้น “โมนิก้า” ถือเป็นอีกหนึ่งทีเด็ดที่ไม่ควรพลาดโอกาสจองซื้อหุ้นดีอนาคตสดใส แถมเที่ยวนี้ได้น้อง “ปรีญาภรณ์” เป็นแม่ทัพหญิงนำขบวนด้วยตัวเอง เดี๊ยนย่อมเชียร์ผู้หญิงด้วยกันเองมากเป็นพิเศษ เพราะแสดงให้เห็นกระบวนการทางความคิดชั้นเซียน งานนี้อยากรู้ว่า จองซื้อหุ้นได้ที่ไหน..ถาม “เฮียแกะ” กับ “เฮียหนึ่ง” กันเอาเองเจ้าค่ะ

*ป.ล.รอบนี้กองทุนตัวแสบดันหุ้นหนักอีกแล้ว พอผ่านไปสักระยะก็คงเทขายหุ้นทิ้งอีกเหมือนเดิมกระมั้ง??