ดาวโจนส์ปิดลบ 48 จุด หลังโพลล์ Brexit ชี้ฝ่าย OUT นำฝ่าย IN

ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบเมื่อคืนนี้ (22 มิ.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลการลงประชามติในอังกฤษวันพฤหัสบดีที่ 23 มิ.ย.นี้ หลังจากผลสำรวจล่าสุดบ่งชี้ว่า ชาวอังกฤษที่ต้องการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) เริ่มมีจำนวนมากกว่าฝ่ายที่ต้องการอยู่ในสหภาพยุโรป


สำนักข่าวอินโฟเควสท์ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิด (22 มิ.ย.) ที่ 17,780.83 จุด ลดลง 48.90 จุด หรือ -0.27%, ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 4,833.32 จุด ลดลง 10.44 จุด หรือ -0.22% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,085.45 จุด ลดลง 3.45 จุด หรือ -0.17%

ตลาดหุ้นนิวยอร์กอ่อนแรงลงเนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลการลงประชามติในอังกฤษวันพฤหัสบดีนี้ หลังจากผลการสำรวจของ TNS ระบุว่า ชาวอังกฤษที่ต้องการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปเริ่มมีจำนวนมากกว่าฝ่ายที่ต้องการอยู่ในสหภาพยุโรป ทั้งนี้ ผลการสำรวจโดย TNS ระบุว่า กลุ่ม OUT ได้รับคะแนน 43% ขณะที่กลุ่ม IN ได้รับคะแนน 41% ขณะที่ 16% ยังไม่ตัดสินใจ ส่วนผลการสำรวจของ Opinium ซึ่งเป็นสำนักสำรวจความเห็นอีกแห่งหนึ่ง ก็ได้แสดงให้เห็นเช่นกันว่า กลุ่ม OUT กำลังมีคะแนนนำหน้ากลุ่ม IN อยู่ 1%

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันหลังจากนางเจเน็ต เยลเลน ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับประเด็น Brexit ในระหว่างที่แถลงนโยบายการเงินและรายงานภาวะเศรษฐกิจรอบครึ่งปีต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจำสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐเมื่อวานนี้

“Brexit ถือเป็นความเสี่ยงที่เรากำลังจับตาดูอยู่ ซึ่งเราจะคอยดูอย่างใกล้ชิดเพื่อดูว่าผลโหวตจะเป็นอย่างไร และจะส่งผลกระทบอย่างไร” นางเยลเลนกล่าว อย่างไรก็ตาม ประธานเฟดยืนยันว่าไม่มีแผนจัดประชุมพิเศษสำหรับเฟดในวันศุกร์ หรือเสาร์นี้ เพื่อรับมือกับผลกระทบที่จะเกิดขึ้นจากการที่ชาวอังกฤษอาจตัดสินใจถอนตัวจากสหภาพยุโรป

ความวิตกกังวลในประเด็น Brexit ได้บดบังข้อมูลเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งของสหรัฐเมื่อวานนี้ โดยสมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองในเดือนพ.ค. เพิ่มขึ้น 1.8% เมื่อเทียบรายเดือน สู่ระดับ 5.53 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ.2007 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 1.1%

หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลงเนื่องจากราคาน้ำมัน WTI ปรับตัวลง หลังจากสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ โดยหุ้นเชฟรอนปรับตัวลง 0.9% หุ้นมาราธอน ออยล์ และหุ้นอานาดาร์โค ปิโตรเลียม ต่างก็ร่วงลงอย่างน้อย 2% หุ้น Adobe Systems ดิ่งลง 5.7% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์รายได้ในไตรมาสปัจจุบัน

หุ้นฮิวเล็ต แพคการ์ด (เอชพี) ร่วงลง 5.4% หลังจากบริษัทปรับลดคาดการณ์รายได้ในไตรมาสปัจจุบันเช่นกัน หุ้นเทสลา มอเตอร์ส ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้า ร่วงลง 11% หลังจากมีรายงาว่าเทสลา มอเตอร์ เสนอซื้อกิจการบริษัทโซลาร์ซิตี้ คอร์ป (SolarCity Corp ) วงเงิน 2.86 พันล้านดอลลาร์

ขณะที่นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐในวันนี้ รวมถึงดัชนีกิจกรรมภาคการผลิตทั่วประเทศเดือนพ.ค.จากเฟดชิคาโก้, จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเบื้องต้นเดือนมิ.ย.โดยมาร์กิต, ยอดขายบ้านใหม่เดือนพ.ค. และดัชนีชี้นำเดือนพ.ค.โดย Conference Board

Back to top button